*/
<< | มีนาคม 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |
วันที่ 20 มีนาคม 2558 นี้จะเป็นวัน Bigbang สะท้านวงการสหกรณ์ไทย ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นเช่นไรต่อไป ท่านต้องติดตามกันอย่ากระพริบตา หลายคนวิตกไปไกล..ไกลมากต่อกรณี สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น(สคย.คลองจั่น) จนคิดว่าจะเหมือนเหตุการณ์กรณีที่เคยเกิดขึ้นกับวงการการเงินการธนาคารไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน จริงๆ ต้องตอบว่า มีทั้งใช่ และ ไม่ใช่ ............... !!! ที่ผู้คนวิตกเพราะมันช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในวงการสมาชิกสหกรณ์ และก็ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน กรรมการสหกรณ์ก็ล้วนเป็นคนที่สมาชิกเลือกตั้งมาเองกับมือ เป็นคนที่เห็นหน้าค่าตาด้วยกันทั้งสิ้น แต่..ทำไมจึงต้องมายักยอกคดโกงเงินจากสคย.คลองจั่น จนเสียหายเป็นหมื่นล้านบาท สาเหตุเพราะนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการ สคย.คลองจั่นได้ยืมเงินทดรอง 3,000 ล้าน (เข้าใจว่าส่วนหนึ่งนำไปบริจาคให้แก่วัดพระธรรมกาย) และได้ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทเอกชนโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันกว่า 10,000 ล้านบาท และเมื่อถูกทวงนายศุภชัยก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา -- ล่าสุดบอกว่า ได้คืนเงินให้แก่ สคย.คลองจั่นไปแล้ว ? รวมเบ็ดเสร็จความเสียหายราวๆ 15,000 ล้านบาท
หากถามกันว่า .. ทำไมสหกรณ์เหล่านั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับ สคย.คลองจั่น ได้อย่างไร? ผู้เขียนขอเล่าย้อนกลับไปว่า หากบรรดาสหกรณ์ออมทรัพย์(สอ.)และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน(สคย.)ทั้งหลายเหล่านี้บริหารดีๆ ก็มักมีเงินเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมี "กำไรระหว่างเดือน" เป็นจำนวนมาก (ก็เพราะการเป็นธุรกิจให้กู้ยิมเงิน) หรือเรียกว่าเมื่อสภาพคล่องล้นมือ ก็ต้องมีการผ่องถ่ายไปฝากหรือไปลงทุนเพื่อนำผลตอบแทนมาจ่ายคืนแก่สมาชิก ซึ่งกฎหมายสหกรณ์อนุญาตให้สหกรณ์สามารถนำเงินส่วนนั้นไปลงทุนต่อได้ตามที่นายทะเบียนสหกรณ์อนุญาต(เท่านั้น --- ซึ่งมีอยู่ 7 ประเภทการลงทุน หนึ่งในนั้นคือ “การนำเงินไปฝากสหกรณ์อื่น” ...... เพื่อเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนเครือข่ายสหกรณ์ด้วยกันเอง) ในเวลานั้น ก่อนที่จะเกิดปัญหา (ปี 2553 - 2554) อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในท้องตลาดอยู่ที่ 1 - 2% เป็นอย่างมาก แต่ สคย.คลองจั่นประกาศอัพตลาดให้สูงกว่า หากฝากเงินประเภทออมทรัพย์พิเศษ จะให้ดอกเบี้ย 5.5 - 5.8% นั่นคือที่มาของการดึงสหกรณ์อื่นเข้าไปเกี่ยวข้องติดกับ โดยวิธีนี้ .......!!!
วันนี้ สถานะของ สคย.คลองจั่น มีเงินฝากของสมาชิก 15,500 ล้านบาท มีทุนเรือนหุ้นของสมาชิก 4,600 ล้านบาท มีสินทรัพย์ 2,200 ล้านบาท มีทุน 21,937 ล้านบาท มีเจ้าหนี้ 21,749 ล้านบาท (แยกเป็น หนี้จากบุคคลธรรมดา 15,500 ล้านบาท และหนี้จากการกู้ยืม/เงินที่สหกรณ์อื่นนำมาฝาก 7,584 ล้านบาท) ผลประกอบการปี 2556 กำไร (ขาดทุน) = (15,279 ล้านบาท)
แม้ว่าประเภทของสหกรณ์ออมทรัพย์(สอ.)และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน(สคย.)เป็นสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อแก่สมาชิกสหกรณ์จะเป็นรองจากธนาคารพาณิชย์ห่างกันแค่ไม่กี่แสนล้านทั้งในระบบสินเชื่อในบ้านเรา และก็ได้รับผลกระทบก็จริง แต่ก็เฉพาะส่วนที่เป็นเจ้าหนี้เท่านั้น (หรือได้นำเงินไปฝากเพื่อรับดอกเบี้ยจากสคย.คลองจั่น) ซึ่งมีเพียง 74 สหกรณ์เท่านั้นที่มีสถานะเป็นเจ้าหนี้และได้นำเงินไปฝากไว้กับสคย.คลองจั่น จำนวนเงินฝากรวมทั้งสิ้น 7,584 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สหกรณ์(เจ้าหนี้)ทั้ง 74 แห่งมีสินทรัพย์รวมกัน 80,700 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีสหกรณ์ใหญ่ๆ และได้นำเงินไปฝากไว้กับ สคย.คลองจั่น ได้แก่ สอ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1,431 ล้านบาท สอ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 7,704 ล้านบาท สอ.ครูจังหวัดขอนแก่น 150 ล้านบาท เป็นต้น เวลานี้ มีสมาชิกสหกรณ์แห่กันไปถอนเงินออกจากสหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิก เพราะเกรงว่าจากกระทบกับเงินฝากที่ตนมีอยู่ (เกิดอาการ panic) เช่น สอ.ครูยโสธรถอนเงิน 930 ล้านบาท สอ.ครูปทุมธานีถอนเงิน 800 ล้านบาท สอ.สนง.ตำรวจแห่งชาติถอนเงิน 636 ล้านบาท สอ.ครูโคราชแห่กันไปถอนเงิน 502 ล้านบาท เข้าใจว่า คงจะวิตกที่ ศาลล้มละลายกลางจะมีคำตัดสินออกมาถึงการยื่นแผนการฟื้นฟูกิจการของ สคย.คลองจั่นในวันที่ 21 มินาคม 2558 นี้
(ในภาพการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 จากรายงานผลประกอบการประจำปี 2555 ระบุว่า สคย.คลองจั่นมีกำไรอยู่ 1,500 ล้านบาท...??? )
เราเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่จะไม่ทำให้สมาชิกเกิดอาการหวั่นวิตกหรือกลัว (panic) จนแห่ไปถอนเงินแบบสหกรณ์อื่นๆ เพราะข้อเท็จจริงแล้ว หลายๆ สหกรณ์ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 1. ได้มีการรับรู้ปัญหาและได้แสดงในรายงานประจำปีมาทุกๆ ปีของทุกสหกรณ์ และหลังเกิดเรื่องนี้แล้ว เชื่อว่าทุกสหกรณ์ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ และปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่ผู้ตรวจสอบบัญชีประจำสหกรณ์ได้แนะนำไว้ 2. ส่วนเรื่องความเสียหายและการฟ้องร้องจาก สคย.คลองจั่นนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้แนะนำว่า ควรรอให้ศาลล้มละลายมีคำสั่งออกมาก่อน เนื่องจากมีผู้เสียหายหรือเจ้าหนี้หลายราย ถ้าจะต้องฟ้องก็ต้องรวมกันฟ้อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีผู้ประสานงานกลางกรมฯ ทั้งสองแห่งนั้นเอง 3. มูลค่าความเสียหาย(เงินต้น+ดอกเบี้ย) ในทุกๆ สก. จะส่งผลกระทบต่อ สก.หรือไม่ เรื่องนี้ท่านต้องไปเทียบกับ ก) เงินทุนสำรองของสหกรณ์ ข) สินทรัพย์ของ สก.นั้นๆ ซึ่งเป็นความมั่นคงของสก.นั่นๆ (ถ้าอย่างกรณีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนยังห่างกันอยู่ หรือมีหนี้สินน้อยกว่าทุน ก็ควรจะถือว่าสหกรณ์นั้นๆ มั่นคง ไม่เหมือน สคย.คลองจั่นที่มีหนี้สินต่อทุน เรียกว่า มีหนี้มากกว่าทุน จากสาเหตุหลายประการทั้งการยักยอก การค้างชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเจ้าหนี้) ค) รายได้ หรือกำไรระหว่างเดือน ถ้าสหกรณ์ของท่านยังมีรายได้หรือกำไรระหว่างเดือนอยู่มากพอจะจุนเจือจนสามารถมาจ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนให้แก่ท่านได้ ก็ถือว่า ยังปลอดภัย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ง) อื่นๆ เช่น คณะกรรมการดำเนินการ ขนาดของสหกรณ์ จำนวนสมาชิก วิธีการหักเงินนำส่งสหกรณ์ ..ฯลฯ ตลอดไปจนถึงความใส่ใจของบรรดาสมาชิกที่ควรจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารดูแลสหกรณ์ร่วมกัน ตามหลักประชาธิปไตย
เราเชื่อว่า ทฤษฎีล้มละลายอย่างต่อเนื่อง(โดมิโน) โดยเริ่มต้นจาก สคย.คลองจั่น คงไม่เกิดขึ้นและไม่มีผลกระทบสหกรณ์(เจ้าหนี้)ที่มีความมั่นคงเท่าใดนัก แต่อาจมียกเว้นสหกรณ์เล็กๆ ที่มีทุนก็ไม่มากมายอะไร หนำซ้ำยังไปติดกับดัก สคย.คลองจั่นอีกทอดหนึ่ง
(ภาพสุดท้าย) จากเอกสารรายงานประจำปี มีจุดที่น่าสงสัย ตามที่มีสมาชิกถามต่อที่ประชุม ได้แก่ 1. กรณีการยืมเงินทดรองจ่าย โดยใคร? ชำระเป็นค่าใช้จ่ายใด? ในจำนวน 2,479 ล้านบาท ซึ่งตามข่าวระบุว่านายศุภชัย ได้ยืมเงินทดรองจ่ายของสหกรณ์ไปจำนวนร่วม 3,000 ล้านบาท และ 2. มีการให้กู้ยืมเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ส่วนคำตอบจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ดูเหมือนจะพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะตอบให้ตรงประเด็นคำถาม แสดงให้เห็นความผิดปกติที่ได้เกิดขึ้นแล้วกับ สคย.คลองจั่น ซึ่งทั้ง 1. และ 2. นั้นคือ ยอดมูลค่ารวมของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ สคย.คลองจั่น...นั่นเอง !!!
(ในภาพ สำนักงานสหกรณ์ กิจการดูรุ่งเรืองมาก เตรียมพร้อมการเข้าสู่การเป็นสถาบันทางการเงินที่พยายามให้ชื่อตัวเองว่า UBank) (ภาพ ในรายงานประจำปีก็ยังไม่วายที่จะมีภาพพระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ซึ่งเป็นต้นตำรับวิชชาธรรมกายของวัดพระธรรมกาย ปรากฎอยู่ สะท้อนออกมาอย่างมีนัยะ)
ทางออกของกรณี สคย.คลองจั่น ในเวลานี้ มี 2 ทางออก ได้แก่ แนวทางที่ 1. ศาลตัดสินให้ สคย.คลองจั่นล้มละลาย ก็จะเข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์อย่างเด็ดขาด แล้วนำทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่ออกมาขายทอดตลาด กรณีนี้ เรามองว่าอาจได้เงินคืนราวๆ 10 -15 % ของมูลค่าหนี้ที่เจ้าหนี้มี ในประเด็นนี้ สอ.จุฬาลงกรณ์ฯ ซึ่งมีอาคารยูทาวเวอร์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ถือว่าได้เปรียบ แต่หนี้สินส่วนใหญ่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แนวทางที่ 2. หากศาลฯ ให้ สคย.คลองจั่นดำเนินตามแผนฟื้นฟูกิจการตามที่ร้องขอ ซึ่งการฟื้นฟูกิจการโดยผ่านกระบวนการของศาลยังต้องใช้ข้อมูลในการพิจารณาทั้งจากข้อ 1. และข้อ 2. โดยศาลจะดูว่าหากเข้าสู่แผนฟื้นฟูฯ กับการเข้าสู่กระบวนการล้มละลายแล้ว มูลค่าส่วนไหนจะมีมากกว่ากัน (ซึ่งเป็หลักการสากลทั่วไป) ถ้าหากมูลค่าของกิจการ (หรือ NPV) มากขึ้นหรือมีค่าเป็นบวก(+) สคย.คลองจั่นก็ได้ไปต่อ (รายละเอียดแผนฟื้นฟูฯ อ่านในเอนทรี่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รอยบาดแผลลึกของสหกรณ์ไทย ของผู้เขียน)
แต่ถ้าหากมูลค่ากิจการ (หรือ NPV) น้อยลงหรือมีค่าเป็นลบ (-) สคย.คลองจั่นก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เพื่อนำทรัพย์สินทั้งหมดมาขายทอดตลาด แล้วแจกจ่ายแก่เจ้าหนี้ตามลำดับสิทธิ์ของเจ้าหนี้ แต่ถ้าหากเข้าสู่แผนฟื้นฟูฯ ก็คาดว่าจะใช้เวลา 7 - 8 ปี เจ้าหนี้(สหกรณ์ต่างๆ ที่นำเงินไปฝากและสมาชิกที่นำเงินไปฝาก) เชื่อว่าหากสำเร็จตามคาดหวังเป็นไปตามแผนเจ้าหนี้อาจจะได้รับเงินคืนมากกว่าแนวทางแรกขึ้นมานิดหน่อย อย่างไรก็ตามเรามองว่าเจ้าหนี้อาจได้เงินคืนไม่น่าถึง 20% ดังนั้น วันที่ 20 มีนาคมนี้ก็ดูเหมือนจะมีคำตอบอยู่ในตัวแล้ว สำหรับอนาคตของ สคย.คลองจั่น และทั้งเจ้าหนี้ ผู้ฝากเงิน ที่ต้องปรับตัวกันใหม่ และจดจำไว้เป็นบทเรียน
บทเรียนเรื่อง สคย.คลองจั่น คงจะเป็นรอยจารึกไปอีกนาน ถึงแม้ผลคำตัดสินจะออกมาอย่างไรก็ตาม ก็จะเป็นประสบการณ์ให้แก่ทุกๆ สหกรณ์ทั่วประเทศว่า การเลือกตั้งตัวแทนสมาชิกเข้าไปบริหารงานหรือเงินของสมาชิก(ตัวท่านเอง)นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะวางใจใครได้เลย เพราะเขาเข้าไปบริหารเงิน อยู่กับเงินของท่านที่เก็บหอมรอมริบมาด้วยความยากลำบาก
มันยากพอๆ กับการเลือกตัวแทนเข้าไปบริหารรัฐบาลเลยทีเดียว ประชาชนเป็นเช่นไร ย่อมได้ตัวแทนเป็นเช่นนั้น ซึ่งตัวบุคคล(ทั้งคนที่เลือกตั้งและถูกเลือกตั้งเข้าไปบริหารสหกรณ์)ล้วนเป็นความเสี่ยงด้วยกันทั้งสิ้น การลงทุนมีความเสี่ยง แต่... การเลือกคนไปบริหารการลงทุนแทนท่านเป็นความเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ จงพึงหลีกเลี่ยง
………………………………………………..
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องได้ที่ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น รอยบาดแผลลึกของสหกรณ์ไทย วิกฤติศรัทธา : การทำบุญบริจาคทานของคนไทย ปี ๒๕๕๘
โปรดรออ่านบทวิเคราะห์ตอนต่อไป เรื่อง "จุดตายของ สคย.คลองจั่น"
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |