*/
<< | มีนาคม 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
เคยได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ภรรยาเป็นใหญ่ในบ้าน หรือ ล้อกันว่า เป็น “ผบ.ทบ.” (ผู้บัญชาการที่บ้าน) แต่ก็ไม่เคยมีใครบอกถึงที่มากที่ไปของคำๆ นี้ คนที่พูดแรกๆ คงเป็น “ผู้รู้” แต่เมื่อถูกใช้หรือล้อกันมาเรื่อยๆ นานเข้าๆ ความจริงก็หดหาย แท้จริงเรื่องนี้มีหลักฐานที่มาของคำ เวลาไปงานเลี้ยงงานแต่งงาน ผู้เขียน(จขบ.)ชอบตั้งใจฟังโอวาทที่บรรดาผู้ใหญ่ผู้อาวุโสขึ้นมากล่าวอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาว เนื่องจากชอบฟังวิธีคิดของท่านเหล่านั้นว่าท่านมี "กระบวนการคิด" ตลอดจนมองย้อนไปถึงบริบทหรือพื้นฐานของท่านเหล่านั้น ยิ่งล่าสุด..ในงานเลี้ยง ฟังแล้วก็ตลก ขำ เพราะคู่บ่าวสาวยังวัยรุ่น ก็เลยฟังดูอาจจะเหมาะแก่กาละเทศะ โดยเฉพาะกับคู่บ่าวสาว แต่อาจจะนำไปใช้อะไรจริงไม่ค่อยจะได้ คำอวยพรเหล่านั้น อาจไม่ได้สำคัญอะไรเพราะมันผ่านแล้วก็ผ่านไป ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ให้จดจำนำไปใช้ได้ เพราะวันแต่งงานหรือวันงานฉลองมงคลสมรสของแต่ละคู่นั้น มันเป็นวันยิ่งใหญ่ที่สุดของการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวก็ว่าได้ แขกเหรื่อก็มากมายจนไม่อาจจำหน้าใครได้ทั้งหมด อย่าว่าแต่ใครจะมาพูดกล่าวอวยพรอะไรให้สำคัญแก่ชีวิตเราเลย ...(?) พอเห็นข่าวในทีวีสมัยนี้ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า พวกคู่รักดาราหลายคู่ ตอนที่จะเอาเป็นสามีภรรยากันนั้นก็รักกันปานจะตาย ลงทุนงานแต่งแทบจะตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ปิดเมืองปิดประเทศจัดงานแต่งงาน แต่อยู่กันก้นหม้อไม่ทันดำก็เลิกกันแล้ว พลอยให้นึกถึงเพลงของนักร้องลูกทุ่งสมัยก่อนๆ ที่ร้องตัดพ้อซ้ำเติมแบบคนอกหักว่า "ผัวเธอตายเมื่อไหร่บอกด้วย..." ก็(ดรารา)สมัยนี้มันเลิกกันไวจริงๆ
มนุษย์เรานั้น กว่าจะมาเป็นคู่สามีภรรยากันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนสัตว์โลกทั่วไป เพราะการเป็นสามีภรรยากันนั้น นอกจากการมีสิ่งเสมอกันด้วย "รสนิยม"เดียวกันจึงจะมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกันแล้ว คำว่า สามี แปลตามศัพท์แล้ว แปลว่า เจ้านาย ผู้เป็นเจ้าของ อาจแปลได้ว่า เป็นผู้ให้ความดูแลคุ้มครอง อุปถัมภ์ดูแลภรรยา ในพุทธศาสนามีจารึกในพระไตรปิฎกที่พระพุทธเจ้าไปบิณฑบาตรยังคฤหาสน์ของท่านอนาถบิณฑิกะมหาเศรษฐี กรุงสาวัตถี แต่ก็ได้ยินเสียงดังเอ็ดตะโรมาแต่ภายในเรือน เหมือนชาวประมงกำลังจับปลา พระพุทธเจ้าก็ตรัสถามถึงสาเหตุ พระพุทธเจ้าได้ฟังจึงเรียกทั้งนางสุชาดาและมหาเศรษฐีมาตรัสสั่งสอนให้ฟังว่า ภรรยาของชายผู้เป็นสามีนั้นมี ๗ จำพวก ได้แก่ วธกาภริยา ภรรยาเสมอด้วยเพชฌฆาต ๑ (คือภรรยาที่มีใจคิดล้างผลาญชีวิตสามี พยายามฆ่าสามี ยินดีในชายอื่น ตบตี แช่งด่าสามี) โจรีภริยา ภรรยาเสมอด้วยโจร ๒ (ภรรยาที่ชอบล้างผลาญทรัพย์สามี ใช้ทรัพย์ไม่เป็นบ้าง ยักยอกทรัพย์เพื่อความสุขส่วนตัวบ้าง สร้างหนี้สิน ให้ตามชดใช้บ้าง) อัยยาภริยา ภรรยาเสมอด้วยนาย ๓ (ภรรยาที่ชอบล้างผลาญศักดิ์ศรีของสามี ไม่สนใจช่วยการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย กล่าวคำหยาบ ชอบข่มขี่สามีซึ่งขยันขันแข็ง เหมือนเจ้านายข่มขี้ข้า ภูมิใจที่ข่มสามีได้) พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ภรรยาของสามี ๗ จำพวกนี้ เธอ(เลือกเอาว่า)จะเป็นภรรยาจำพวกไหน ตามนัยะที่กล่าวใน ๗ จำพวกนี้ เพียงแค่ จำพวกที่ ๑-๒-๓ ก็ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนแล้ว ลูกผัวก็ดูแลปกครองเอาไม่อยู่
ประเพณีการแต่งงานของไทยเรานั้นได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากลัทธิพราหมณ์ จะเห็นได้ว่ามีการรดน้ำสังข์ ทำพิธีสวมมงคลแฝด(ด้วยการทำเป็นบ่วงหลวมๆ สวมไว้บนศรีษะของคู่บ่าวสาว) ที่มีความหมายว่าให้คล้องกันไว้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตามคติอย่างพราหมณ์เขาทำกัน (ผูกด้ายข้อมือก็เป็นแบบของพราหมณ์) แต่พระพุทธเจ้านั้นได้สอนต่างไปจากลัทธิพราหมณ์ ว่า ...... สามีภรรยาให้ยึดมั่นกันไว้ด้วยคุณธรรม ที่เรียกว่า สังคหธรรม
สิ่งที่ภรรยาพึงสงเคราะห์ต่อสามีก็มีเช่นเดียวกัน ได้แก่ แต่ทว่าขาดซึ่ง "ความรัก" อันเป็นคุณธรรมเริ่มต้นของคำว่า "สามีภรรยา" เสมือนเป็น อัยยาภริยา หรือ ภรรยาเสมอด้วยนาย ภรรยาที่ชอบล้างผลาญศักดิ์ศรีของสามี ไม่สนใจช่วยกิจการงานของครอบครัว เกียจคร้าน นั่งกินนอนกิน ปากร้าย กล่าวคำหยาบ ฯลฯ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
ทีนี้ เมื่อไปงานเลี้ยงงานแต่งงาน ต่อให้ผู้หลักผู้ใหญ่ขึ้นมากล่าวอวยพรแบบติดตลกอะไร อาจฟังดูสนุก เป็นสิริมงคลบ้าง ไม่เป็นสิริมงคลบ้าง ก็อย่าได้ไปใส่ใจ เอาตามกาละเทศะ แต่ขอให้ท่านจดจำความเหล่านี้เอาไว้ จักเป็นมงคลต่อตัวและครอบครัวต่อไป ....................................................................
อ้างอิง http://www.kalyanamitra.org/th/mngkhlchiwit38_detail.php...) สัมพันธ์ นวลปั้น, ชีวิตกับการแต่งงาน, สารนครศรีธรรมราช, กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |