[เรื่องเล่าจากประสบการณ์]

เทคนิคการทำสติกเกอร์ LINE ขาย ในไลน์สโตร์

         กว่าเจ็ดเดือนผ่านไป ที่ผมส่งสติกเกอร์ ชุด โดโด้ ด็อก (DODO DOG) เข้าไปสู่ LINE Creator และแล้วผลพิจารณาก็ “ผ่าน” ได้วางจำหน่ายในสโตร์เสียที หลังจากโดนตีกลับมาแก้ไขหนึ่งรอบ เนื่องจากสะกดคำผิด งานนี้เล่นเอารอจนลืมไปเลย เรียกได้ว่า “รอจนหายอยาก” แต่พอเห็นผลงานตนเองอยู่ในสโตร์แล้ว ก็หายเหนื่อยหายเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง

เจ้าหมาน้อยโดโด้ และผองเพื่อน
พาความบ้องแบ๊วมาแต่งแต้มสีสันทุกแชทของคุณให้น่ารัก มาสนุกด้วยกันเถอะ!

         แรงบันดาลใจได้มาจากน้องหมาข้างบ้าน ชื่อ โดโด้ มันซนและขี้อ้อนมาก จนป่านนี้ย้ายไปไหนต่อไหนไม่รู้แล้ว ผลการพิจารณาเพิ่งออก อดอยู่รอชื่นชมเลย

         ปัจจุบันการวาดสติกเกอร์เข้าไปขายในไลน์สโตร์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ทางบริษัท LINE จะหักรายได้จากการขายเอาไว้ครึ่งหนึ่ง และแบ่งให้เราครึ่งหนึ่ง (สติกเกอร์ภาพนิ่งขายชุดละ 30 บาท ภาพเคลื่อนไหวขายชุดละ 60 บาท) ดูแล้วก็ยุติธรรมดี เสมือนเป็นเก็บค่าเช่าที่ ซึ่งมันก็คุ้มค่าสำหรับผู้ขาย เพราะสามารถกระจายสินค้าออกไปได้ทั่วโลกอย่างง่ายดาย

         ถือเป็นโอกาสอันดี สำหรับคนที่มีฝีมือวาดการ์ตูนสวยๆ น่ารักๆ ได้มีเวทีแสดงออก งานนี้นอกจากจะได้โชว์ผลงานออกสู่สายตาชาวโลกแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่เราได้ด้วย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบฝึกฝีมือวาดการ์ตูนเล่นอยู่เสมอ โอกาสที่จะใช้ฝีมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ สร้างรายได้มาถึงแล้ว จะช้าอยู่ใยเล่า...

         หากคุณชักเริ่มนึกสนุก อยากจะทำสติกเกอร์ขึ้นมาบ้างแล้ว จะมีขั้นตอนเป็นอย่างไร ลองตามอ่านดูครับ...

         "หมายเหตุ รายละเอียดในการสร้างสติกเกอร์ไลน์เหล่านี้ มีอยู่แล้วหลายเว็บ สามารถ Search ได้จาก Google ในหัวข้อ “การสร้างสติกเกอร์ไลน์ขาย” (เว็บแนะนำที่ควรอ่านคือ http://www.sochiie.com/getting-start-making-line-sticker-thai/) ซึ่งได้กล่าวเนื้อหาเอาไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอนแล้ว ผมก็ปฏิบัติตามเว็บนี้ พบว่าได้ผลดีมาก ในที่นี้ผมจึงไม่ขอกล่าวซ้ำ แต่จะขอกล่าวรวบรัดให้ในส่วนที่จำเป็นเพื่อให้เข้าใจง่ายๆ และเน้นเสริมในส่วนอื่นๆ แทนตามสไตล์ของผมดังนี้"

1. อันดับแรก ออกแบบและสร้างตัวละคร เราจะต้องออกแบบและสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ (หรือเป็นตัวละครของเราเองที่เคยออกแบบไว้) ไม่สามารถนำตัวละครที่ออกแบบไว้โดยผู้อื่น เอามาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตัวละครใดก็ตามที่วาดขึ้นมาแล้ว แม้ไม่ได้ไปจดลิขสิทธิ์ แต่ตามกฎหมายแล้ว ลิขสิทธิ์นั้นจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อผู้เป็นเจ้าของวาดเสร็จ ในการออกแบบควรจะขีดๆ เขียนลงในกระดาษว่างๆ อย่าวาดลงไปในคอมพิวเตอร์ทันที เพราะด้วยข้อจำกัดและเครื่องมือที่ใช้ยุ่งยากกว่าการวาดด้วยมือเปล่าเหล่านี้ จะกีดกั้นทำให้ไอเดียในการสร้างสรรค์ลดน้อยลงไปเป็นอย่างมาก เพราะสมาธิส่วนหนึ่งหลุดไปอยู่กับการใช้เครื่องมือ เราควรจะวาดออกแบบด้วยมือเปล่าในกระดาษ เพราะสามารถทำได้ไวเท่าที่ใจคิดอย่างอิสระ แล้วไอเดียก็จะบรรเจิด
   *ป.ล. ขั้นตอนนี้ ผมใช้เวลานานมากครับ คิดไม่ค่อยออก วาดซ้ำไปซ้ำมา ลบไปลบมาซะกระดาษพรุน จนปวดหัวไปหมด
   
   
2. อันดับต่อมา ลงมือวาด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความอดทนและระยะเวลานานที่สุด งานนี้ต้องใช้ฝีมือล้วนๆ รายละเอียดที่ควรทราบคือ
   
   1. วาดภาพสติกเกอร์ จำนวน 40 ท่า ขนาดต้องไม่เกิน 370 x 320 พิกเซล และต้องเว้นขอบภาพไว้ด้านละ 10 พิกเซล
   2. วาดภาพที่ใช้แสดงหน้าร้าน 1 ภาพ ขนาดตายตัวที่ 240 x 240 พิกเซล
   3. วาดภาพไอคอน 1 ภาพ สำหรับวางไว้บนแท็บเลือกรายชื่อ ขนาดตายตัวที่ 96 x 74 พิกเซล
   4. รวมเบ็ดเสร็จทั้งหมด 42 ภาพ ทุกไฟล์ภาพเป็นนามสกุล PNG และพื้นหลังต้องโปร่งใส
      
      
3. อันดับที่สาม ตรวจสอบภาพ ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก หลังจากที่วาดเสร็จแล้ว ให้ทำการตรวจคำผิด และตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ของภาพทั้งหมด พื้นหลังโปร่งใสสะอาดดีไหม (ห้ามมีรอยด่าง) ขนาดถูกต้องหรือยัง ฟอร์แมตภาพต้องเป็น PNG ใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะผลงานที่ออกมา มันจะสะท้อนถึงคุณภาพของผู้วาด/ผู้ออกแบบ โดยตรง และข้อสำคัญ ตรวจสอบข้อห้ามของ LINE ให้ครบถ้วน อย่าให้ผิดกฎของเขา เพื่อลดระยะเวลาในการพิจารณาให้สั้นลง หากเจอที่ผิดให้ทำการแก้ไขให้ถูกต้อง การเจอที่ผิดด้วยตนเองในตอนนี้ ดีกว่าให้คณะกรรมการตรวจเจอ เพราะจะเสียเวลา วนกลับไปต่อคิวใหม่
   
   
4. อันดับสุดท้าย อัพโหลดภาพ เราจะต้องทำการลงทะเบียนสมัครสมาชิกเป็น LINE Creator แล้วอัพโหลดภาพของเราทั้งหมด ขึ้นสู่เซิร์ฟเวอร์ให้คณะกรรมการพิจารณา เพื่อนำไปวางขายในไลน์สโตร์ ระหว่างที่รอการพิจารณา จะใช้เวลานานมากๆ เพราะมีคนส่งเยอะ เราควรจะฆ่าเวลาด้วยการดำเนินการกับเอกสารทางธุรกิจต่างๆ ให้เรียบร้อย (พอผลงานผ่าน จะได้ขายได้ทันที) ซึ่งมีอยู่ 2 อย่าง คือ 1) การสมัครเป็นสมาชิก Paypal เพื่อใช้สำหรับโอนเงินรายได้จากการขายสติกเกอร์ และ 2) การยื่นเอกสารงดเว้นการหักภาษีที่ประเทศญี่ปุ่น ไปยังสำนักงานของ LINE ประเทศญี่ปุ่น (มีขั้นตอนแนะนำอยู่ในเว็บเดิมที่ให้) เพื่อที่เราจะได้โดนหักภาษีเพียงครั้งเดียวที่ประเทศไทย

         กระทำตาม 4 ขั้นตอนนี้แล้ว ก็ตีพุงนอนรอยาวๆ ไปได้เลยครับ กลับไปทำงานหลักของเราต่อ แกล้งลืมๆ ไป ประเดี๋ยวผลลัพธ์ที่น่าชื่นใจมันก็ออกมา ตามวาระกรรม

.

เทคนิคและรายละเอียดอื่นๆ 15 อย่าง ที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง

         จากประสบการณ์ที่ได้ลองทำสติกเกอร์ไลน์ไปแล้วหนึ่งชุด (มัวแต่เอาเวลาไปแต่งนิยาย 555+) มีเรื่องอยากจะมาเล่าสู่กันฟังดังนี้ครับ แต่ขอออกตัวก่อนว่า Photoshop ที่ผมใช้ เวอร์ชันต่ำมาก (แอบโบราณ) ยังไม่ได้ไปอัพเลยครับ แต่ฟังก์ชันและทรัพยากรที่มีอยู่ ก็เพียงพอสำหรับการสร้างงาน Art Work เหล่านี้ได้แล้วครับ (พอทำมาหากินได้) เพราะเราใช้จริงไม่กี่ฟังก์ชัน

         (1) ในการจะวาดสติกเกอร์ให้ครบ 40 ท่านั้น ย่อมเกิดความท้อหรือขี้เกียจบ้างในบางครั้ง การจะทุ่นเวลาให้วาดเสร็จเร็วคือ ต้องวาดในคอมพิวเตอร์เป็นแบบร่างเอาไว้ 1 ตัว แล้วค่อยก็อปปี้ออกไปดัดแปลง ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือ จะทำให้ตัวการ์ตูนของเราหน้าตาคงที่ เหมือนกันหมดทุกภาพ ไม่ใช่พอเปลี่ยนแอ็คชัน รูปร่างหน้าตาก็เปลี่ยนไปอีกแบบ ขอยกตัวอย่างการ์ตูนที่ผมวาด (เอาของคนอื่นมาใช้ไม่ได้อยู่แล้ว ประเดี๋ยวจะโดนฟ้องลิขสิทธิ์)

 ข้อได้เปรียบในการวาดในคอมพิวเตอร์ที่เหนือกว่าวาดในกระดาษอย่างเห็นได้ชัดคือ การก็อปปี้ออกมาดัดแปลง เช่น ดังรูป แค่เปลี่ยนแววตาและท่าทางเล็กน้อย เราก็ได้ภาพใหม่แล้ว

      (2) ตัวละครที่เราออกแบบ จะต้องมีเอกลักษณ์ประจำตัว เพื่อให้เกิดความแตกต่างและจดจำง่าย ตัวละครแมวและสุนัข อย่างไรก็น่ารักและขายได้เสมอ แม้จะมีซ้ำๆ กันอยู่เกลี่อนกลาดก็ตาม แต่การออกแบบเป็นสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ที่น่ารักแทน ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการฉีกแนวตลาดของคุณเอง (ตัวละครที่ผมออกแบบ Dodo Dog มีเอกลักษณ์ตรงพุงและดวงตา)

      (3) ควรเลือกใช้โปรแกรมวาดภาพแบบเวกเตอร์ เพราะสามารถนำมาก็อปปี้เพื่อแก้ไขดัดแปลงได้ง่าย อีกทั้งลายเส้นที่ได้ยังคมชัดสวยงาม ทั้งยังปรับเปลี่ยนความหนาของเส้น น้ำหนักเส้น ได้ตลอดเวลา พยายามหลีกเลี่ยงการใช้โปรแกรมวาดแบบบิตแมพ เพราะนอกจากจะแก้ไขได้ยากแล้ว ยังใช้เวลานานกว่าอีกด้วย

      (4) ควรใช้วิธีวาดลงคอมพิวเตอร์โดยตรง ไม่ควรวาดลงในกระดาษก่อน แล้วค่อยสแกนเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อดัดแปลงภายหลัง เพราะจะใช้เวลานานกว่ามาก เหมือนกับทำงานสองรอบ แถมลายเส้นที่ได้ก็ไม่คมชัด พื้นหลังสกปรก ต้องเสียเวลาลบและทำความสะอาดอีกนาน (ถ้าพื้นหลังสกปรก LINE ไม่ให้ผ่านนะครับ เพราะเอาไปทำภาพโปร่งใสแล้ว จะเห็นรอยด่างๆ)

      (5) ทั้งนี้ทั้งนั้น ในข้อ 3 และ 4 อาจจะไม่ทำตามนี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคล แต่ไม่ว่าจะวาดโดยวิธีใดก็ตาม เช่น วาดด้วยโปรแกรมเวกเตอร์ หรือบิตแมพ หรือวาดลงในกระดาษก่อนและสแกนเข้ามา ก็ตามที สุดท้ายก็ต้องไปจบที่โปรแกรม Photoshop เพื่อตกแต่งและลงสี

      (6) แนะนำให้เลือกใช้สีแบบ Web Safe Color (สีที่ใช้สำหรับเว็บ) เพราะไม่ว่าจะเปิดด้วยบราวเซอร์ใด ยี่ห้อใด ระบบปฏิบัติการใด สีสันตัวการ์ตูนของคุณจะเหมือนกันเป๊ะ! โดยไม่ผิดเพี้ยน แต่ข้อเสียคือ Web Safe Color จะมีสีให้เลือกใช้แค่ 216 สี เท่านั้น ดังนั้น ถ้าเป็นตัวการ์ตูนที่มีสีค่อนข้างสมจริงเหมือนมนุษย์ จะไม่สามารถรองรับได้ ในกรณีนี้ก็ให้เลือกใช้เป็นสีปกติไป

      (7) ต้นฉบับภาพที่ลงสีแล้ว ควรเก็บไว้เป็นไฟล์นามสกุล TIFF เพราะคมชัดและเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนมากที่สุด ต้นฉบับควรจะมีขนาดใหญ่ และรีโซลูชันสูงๆ เพราะเมื่อเวลานำมาบีบภาพให้เหลือขนาดตามที่ LINE กำหนด ภาพของเราจะคมชัดมาก จงถือคติว่า ภาพใหญ่นำมาบีบให้เล็กลง...ยังไงก็คมชัด ภาพเล็กนำมาขยาย...ยังไงก็แตก

ขนาดต้นฉบับที่ผมเลือกใช้ คือประมาณ 2000-3000 พิกเซล รีโซลูชัน 300 ppi เพื่อเวลานำรูปไปลดขนาดลงเหลือ 300 กว่าพิกเซลแล้ว (ลดลง 10 เท่า) ภาพจะได้ละเอียดคมชัด นอกจากนั้น การทำต้นฉบับเป็นภาพใหญ่ๆ จะช่วยให้แก้ไขภาพได้ง่าย และเมื่อเวลาวาดผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ (เช่น เส้นเบี้ยว เส้นเกิน) เมื่อเวลานำไฟล์ภาพมาบีบ จุดผิดพลาดนั้นจะมองแทบไม่เห็น

      (8) พยายามตรวจเช็คคำผิด หรือตรวจสอบภาพตามข้อห้ามต่างๆ ของไลน์ให้ดี เพราะถ้าโดน Reject (นำงานกลับมาแก้ไข) จะต้องเสียเวลา วนไปต่อคิวใหม่ ซึ่งใช้เวลานาน เพราะปกติการพิจารณาก็ใช้เวลานานอยู่แล้ว ของผมประมาณ 7 เดือน เนื่องจากมีจำนวนผู้ส่งนับแสนคน แต่จำนวนทีมงานที่พิจารณามีน้อยนิดไม่ถึงหลักร้อย (ตอนแรกเขาบอกว่ามีแค่ยี่สิบคน ผมนี่...ตกใจเลย เพราะเขาบอกว่าทีมงานแทบไม่ได้นอน)

      (9) วัดขอบภาพให้เหลือด้านละ 10 พิกเซลอย่างง่ายๆ ด้วยการกดแป้น Ctrl + A ที่โปรแกรม Photoshop -> เลือกเครื่องมือเลือกพื้นที่ (Selection) ตัวใดตัวหนึ่ง -> กดแป้นลูกศรไปทิศทางใดทางหนึ่งเดียวกัน 10 ครั้ง เพื่อวัดดูว่าเส้นประจะเกินขอบภาพไหม (การกดแป้นลูกศร 1 ครั้ง กรอบเส้นประจะเคลื่อนที่ไป 1 พิกเซล)

      (10) การวาดสวยหรือไม่สวย LINE มิได้พิจารณาในเรื่องนี้ แต่เขาจะดูว่าเราวาดสติกเกอร์ตรงตามกฎข้อบังคับของเขาหรือไม่ ถ้าตรงตามนั้นทุกข้อ เขาก็ให้ผ่าน และขึ้นไปขายในไลน์สโตร์ได้ ส่วนจะขายได้ไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ตัวผู้ออกแบบจะต้องรับผิดชอบเอง

      (11) ระหว่างที่รอการพิจารณา เราสามารถวาดชุดที่ 2 และ 3 ส่งเข้าไปได้เลย เพราะเขาไม่ได้จำกัดว่าเราจะส่งกี่ชุด แต่ตามประสบการณ์ที่ผมเคยเห็น ผลการพิจารณาที่ออกมาไม่ได้เรียงลำดับตามการส่งก่อน-หลังนะครับ และไม่ได้เรียงตามหมายเลข ID ของรหัสสมาชิกด้วย บางคนส่งทีหลังเรา แต่ผลก็อาจจะออกก่อนก็ได้ เดาว่า...คงจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการตรวจสอบตัวการ์ตูนนั้นๆ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม ผิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ซ้ำกับใครหรือเปล่า (ตรงนี้แหล่ะที่น่าจะนาน) ส่วนตัวการ์ตูนบางตัวก็ตรวจง่าย คงเพราะแหวกแนวออกไปอย่างชัดเจน หรือผิดกฎหลายข้อ เป็นต้น

      (12) ข้อแนะนำ...การเลือกใช้ภาษาไทยในสติกเกอร์ ก็อาจจะขายได้แต่ลูกค้าชาวไทย แต่ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นคำง่ายๆ หรือใช้ภาษากาย หรือภาษาท่าทางอย่างเดียว จะสามารถขายให้กับคนต่างชาติได้ด้วย (สำหรับตัวผมเอง ใช้วิธีลูกครึ่ง มีภาษาไทยปนอยู่ด้วยประมาณ 10 ภาพ อันนี้เพราะความอยากส่วนตัว ผสมกับเพื่อนฝูงรีเควสมา)

      (13) วาดแอ็คชันที่ง่ายๆ หรือแอ็คชันที่อยากจะวาดก่อน พอสะสมได้เยอะๆ เข้า จะทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า “งานใกล้จะสำเร็จแล้ว อีกนิดเดียว” ก็จะเกิดกำลังใจในการวาดแอ็คชันยากๆ และแอ็คชันอื่นๆ ให้ครบ 40 ภาพ ครบถ้วนตามจำนวนได้

รูปนี้ผมวาดเสร็จก่อนเพื่อนเลย สำหรับคนขี้ใจน้อยโดยเฉพาะ (ไม่ขอเอ่ยนาม)

      (14) อย่าวาดแอ็คชันที่อยู่ท่าเดิมซ้ำๆ กันมากเกินไป แต่เปลี่ยนแค่คำพูด ประเดี๋ยวจะไม่ผ่านเอาง่ายๆ ควรปรับท่าทางให้แตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ดูเหมือนกับว่า เราได้วาดขึ้นมาใหม่ ในกรณีที่ตัวการ์ตูนที่เราออกแบบ มีหน้าตาอยู่อารมณ์เดียว ก็ใช้วิธีการวาดลำตัวเพื่อเปลี่ยนอริยบทแทนได้

      (15) ไม่จำเป็นต้องซื้อเมาส์ปากกา หรือ Light Pen มาวาดให้เสียสะตุ้งสตางค์ (ราคาก็แพงไม่น้อย) ส่วนตัวผมก็ซื้อมา แต่ไม่ได้ใช้เลย เพราะโปรแกรมวาดภาพแบบเวกเตอร์ เขาผลิตขึ้นมาเพื่อ Support ให้ใช้เมาส์วาดมากกว่าอยู่แล้ว และผลงานของผมก็ใช้เมาส์วาดล้วนๆ เลย

      หมดเวลาแล้วครับ...สำหรับวันนี้ตัองลาไปก่อน (รีบไปประชุมที่มหาลัย) หวังว่าเรื่องเล่าประสบการณ์เหล่านี้ของผม จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้อ่านไม่มากก็น้อย หรือบางทีอาจเกิดประกาย ฉายแววศิลปินขึ้นมา วาดสติกเกอร์เข้ามาขายในไลน์สโตร์บ้าง ก็เป็นเรื่องน่ายินดีครับ ถ้ามีอะไรสงสัยฝากข้อความถามมาได้ครับ สวัสดีครับ

Facebook หน่อไม้ไร่ ผู้วาดและออกแบบ https://www.facebook.com/a.sajjathum?fref=ts

ลิงค์เยี่ยมชม โดโด้ ด็อก ทั้ง 40 แอ็คชัน https://store.line.me/stickershop/product/1132876/th