นุ่มนอกกรอบใน... "หัวใจบุษราคัม"

... ขนมหวานถ้วยนี้มีที่มา ...

 เริ่มจาก  "ทับทิมกรอบ"  นำไปสู่  "ไพลินกรอบ"   มาถึง "หัวใจบุษราคัม"

“ทับทัม ไพลิน บุษราคัม”

เป็นอัญมณีแร่ตระกูลคอรันดัมเช่นเดียวกัน

“ทับทิม”  เป็นราชาแห่งอัญมณี ความมีสติปัญญาอันล้ำเลิศ อัญมณีที่ทำให้สุขสมหวังในความรัก

“ไพลิน” เป็นสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ มั่นคงในความรัก

“บุษราคัม”  เป็นอัญมณีแห่งความภักดี และสร้างสันติสุข

นรองจำเค้ามาอีกทีค่ะ  ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับอัญมณีบ้าง...น่าสนุกดีนะคะ

 "ทับทิมกรอบ" หวานนุ่มนอก....กรอบมันใน

 จากครัวดงละคอน

(ขอบคุณภาพประกอบจาก...ครัวดงละคอน)

นำไปสู่

“ไพลินกรอบ”

ที่ครัวอาหารเจ “แม่ยายมากับตามี”

 
(ขอบคุณภาพประกอบจาก...แม่ยายมาและตามี)

จนมาถึง

“หัวใจบุษราคัม” 

  ในวันนี้ที่ "บล็อกนรอง" ค่ะ

นรองรู้สึก “ทึ่ง” ในความคิดสร้างสรรค์ของพี่สาว "แม่ยายมากับตามี" คนนี้มากๆ

อาหารแต่ละเมนูที่ “ครัวดงละคอน”

“แม่ยายมากับตามี” สามารถดัดแปลงให้เป็น “เมนูเจ”

ได้อย่างสวยงามและน่าทานไปหมด

ช่างคิด ช่างสร้างสรรค์ ที่สำคัญทำได้ไว(ปานวอก)จริงๆ

แถมยังพกความรู้คู่ครัวมาด้วยเสมอ มาพบกันที่ “ครัวดงละคอน” แต่ละครั้ง

จึงได้ทั้งความรู้และเคล็ดลับการทำอาหาร

ได้ทั้งความสนุกสนาน ฮามากมาย ฮาแล้วฮาอีก กับบรรดาขาประจำ  อาทิเช่น

“เด็กหญิงไออิมาโกโต้” “คุณพี่แมวอ๋อย” “คุณพี่เหมียวริน”

รวมทั้งพี่ๆ อีกหลายๆ ท่านค่ะ

การเขียนบล็อกนอกจากทำให้ได้ผ่อนคลาย ได้มิตรภาพแล้ว

ยังได้สร้างความคิดเอง ได้ต่อยอดความคิดจากผู้อื่นด้วย

การอ่านความเห็นจาก “ผู้รู้” ทำให้ “ผู้ไม่รู้”  ได้เกิดการเรียนรู้เรื่องนั้นๆ ไปด้วย

และมีหลายครั้งที่นั่งขำน้อยๆ จนกระทั่งขำมากๆ อยู่คนเดียวที่หน้าคอม

จนสามีและลูกต้องเดินมาดูด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือปล่าว”

“การหัวเราะทำให้อายุยืน”คนที่หัวเราะได้แสดงว่าไม่เครียด

^____^

แต่ในชีวิตประจำวัน

 จะต้องพบเจอหลายหลายปัญหา ทั้งในบ้านและนอกบ้าน

งานราษฏร์ งานหลวง มีประปรายเป็นประจำ

บางวันก็ช้า บางวันก็รีบ

ก็มีบ้างที่จะต้องพบพานกับความเครียด เครียดน้อย  เครียดมาก ถึงมากที่สุดก็มี

บางวันถึงขั้น “ตกมัน” ไปเลยเชียว

แต่ไม่ว่าจะตกอยู่อารมณ์ไหน

หากได้ “กำลังใจที่ดี” จาก “หัวใจที่เข้มแข็ง” กว่า

ก็จะช่วยนำพาเราให้ออกห่างจากอาการ “จิตตก”  “วิตกจริต”  “ตกมัน” ได้เร็ว

เมื่อครั้งตอนที่ลูกๆ ยังเล็กๆ เวลาเค้าร้องไห้เสียใจหรือจะเจ็บปวดเรื่องใดๆ ก็แล้วแต่

นรองมักจะขอมือลูกมาประกบกับมือตัวเอง เอามืออีกข้างไปประกบที่หัวใจลูกแล้วบอกลูกว่า

"เวลานี้หัวใจของแม่แข็งแรงกว่าหัวใจของหนู ให้หนูเอาความเจ็บปวดทั้งหมดนั้นมาไว้ที่แม่นะคะ"

แล้วค่อยๆ เลื่อนมือมาตามแขนลูก ค่อยๆ เลื่อนมือมาถึงแขนตัวเอง

จนกระทั่งมือมาหยุดอยู่ตรงหัวใจ แล้วบอกกับลูกว่า

"แม่ได้ถ่ายเทความเจ็บปวดของหนูมาไว้ที่แม่ทั้งหมดแล้ว"

ลูกจะตั้งใจฟังและตั้งใจมองตามสิ่งที่แม่กำลังทำ

"ฉะนั้น เวลานี้ความเจ็บปวดไม่ได้อยู่ที่ลูกแล้ว หนูหยุดร้องไห้ได้แล้วนะคะ"

ลูกหยุดร้องไห้ทันทีค่ะ  วิธีนี้ใช้การได้ดีทีเดียวค่ะ

การได้พูดคุย การได้สัมผัสมือกัน ในช่วงเวลาที่เค้ารู้สึกแย่นั้น จะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ

ทำให้ลูกลืมเรื่องที่กำลังคิด เรื่องที่กำลังเจ็บปวดอยู่ในขณะออกไปได้

และวิธีการนี้ลูกจะนำกลับมาใช้กับแม่ค่ะ ถ้าหากแม่ออกอาการเหนื่อยให้ลูกเห็น

แล้วแม่ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งค่ะ

ในยามที่เราอ่อนแอ "กำลังใจที่ดี" มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ขอบคุณค่ะที่คอยดูแลกัน

ช่วยกันดูแล "หัวใจ" ของกันและกัน

..นะคะ..

กลับมาที่ “หัวใจบุษราคัม” ขนมหวานถ้วยพิเศษ

นรองขอนำภาพมาให้พี่ๆ เพื่อนๆ ได้ชมกันค่ะ

น้องที่ทำงานเอา "แห้วจีน" มาฝาก (มาทั้งดินเลยค่ะ)

แป้งมันก็มีแล้ว แห้วก็มีแล้ว ศิษย์ก็พร้อมทำตามอาจารย์ทันที

หลังจากที่ "ครัวดงละคอน" นำเสนอเมนู "ทับทิมกรอบ" ออกมาฝากแฟนๆ

"พี่แม่ยายมากับตามี" ก็สร้างสรรค์ "ไพลินกรอบ" แก้วนี้ตามมาติดๆ

สีฟ้าสดใสเห็นแล้วชื่นใจน่าทานนะคะ

นรองก็เลยนั่งคิด นอนคิด (หลับไปหลายวัน) ... ว่าจะทำอัญมณีสีใดดี

 คิดไปถึง "ระบำนพรัตน์"  อันประกอบด้วยอัญมณี ๙ ชนิด

เปิดระบำดูกันเลย...ได้คำตอบค่ะ

ก็เริ่มลงมือ

"แห้วจีน" ถูกล้างดินออกเรียบร้อยและ ลูกเบ่อเร้อเบ่อเท้อเลยค่ะ

สงสัยอีกล่ะ...จะปอกก่อนต้ม หรือ ต้มก่อนปอกดีนะ

จำได้ว่าน้องเค้าบอกมาว่าให้เอามาต้มเป็นน้ำแห้วดื่มแล้วจะชื่นใจ

ถ้าเช่นนั้น..ก็จะต้อง "ปอกเปลือกก่อนแล้วค่อยต้ม" สิ (อืมห์...ฉลาดแฮะ)

ใช้เวลานิดนึงค่ะ..เปลือกแข็งอยู่เหมือนกัน..จากนั้นก็นำลงหม้อต้มเลยค่ะ

พอลูกแห้วสุกได้ที่ก็ตักขึ้นมาวางไว้ก่อน

เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปในน้ำต้มแห้วก็จะได้ "น้ำแห้วต้ม"

สรรพคุณ :  ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้

ช่วยบำรุงสมอง ช่วยบำรุงให้มีผิวพรรณ ที่สดใส เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล

และยังช่วยให้ระบบขับถ่าย ทำงานได้เป็นปรกติอีกด้วย

ได้ "น้ำแห้ว" ใส่น้ำแข็ง ดื่มจนชื่นใจ

จากนั้นก็ไปนั่งพับเพียบ(ลองนั่งยองๆ ดูแล้วแต่ไม่ค่อยเรียบร้อยค่ะ)หั่นแห้วให้เป็นรูปหัวใจ

กว่าจะได้จานเท่านี้เล่นเอาเหน็บกินมาถึงข้อเข่า คงจะต้องต้มแห้วดื่มอีกหลายหม้อ

"หัวใจบุษราคัม" นี้ ไม่มีขายตามท้องตลาดนะจ้ะ

อยากจะทานเอง หรือ อยากจะฝากให้ใครช่วยทาน ต้องทำเองค่ะ

เพราะ "เงิน" ไม่สามารถใช้ซื้อ "ใจ" ได้

นำ "หัวใจ" ไปคลุกแป้งอย่างรวดเร็ว ช้าไม่ได้พี่ดงฯ ย้ำไว้

นำใจคลุกแป้งลงไปต้มในน้ำเดือดพล่าน

ต้องระวังค่ะ !  เพราะน้ำร้อนมาก แต่ก็ปล่อยให้น้ำร้อนไป "หัวใจ" ไม่ต้องร้อนตาม

พอแป้งเริ่มสุก หัวใจก็จะลอยละล่องขึ้นมาเลยค่ะ

อาจารย์บอกให้ตักไปแช่น้ำเย็นจัดสักครู่..ศิษย์ก็ทำตามแต่โดยดีจ้ะ

จะไปเก็บใบเตยหอมมาเคี่ยวน้ำกะทิ

แค่เดินเฉียดเข้าไปนิดเดียว ใบเตยร้อง "พี่อ๋อย..ขอเวลาให้หนูได้โตบ้างเหอะนะ"

ใบเตยโตไม่ทัน ก็เลยไม่ทันได้ใส่ เคี่ยวไปสังเกตุไปก็แล้วกันเนาะ

เหลือบไปมอง หัวใจไม่ได้ใส่สี

เริ่มเหลืองอร่ามเป็นสี "บุษราคัม" เข้าบ้างแล้วค่ะ

ตื่นเต้นจัง..สำเร็จแล้ว..ภูมิใจมากค่ะ..ครั้งเดียวผ่านเพราะอาจารย์สอนดี

เศษแห้วจากการแกะสลักหัวใจไม่ได้ทิ้งนะคะ

เอาไปคลุกแป้งแล้วนำไปต้มด้วยค่ะ  เศษๆ เก็บไว้กินเอง

ส่วน "หัวใจ" เก็บไว้ให้คนพิเศษ

ถ่ายภาพทุกมุมจนหนำใจ แล้วค่อยนำกระทิใส่ลงไปค่ะ

ขอถ่ายอีกนิดนึงค่ะ

ไม่ได้สวยแต่รูปนะคะ...อร่อยด้วยค่ะ (ไม่เท่าไรเลยเนาะ)

สองภาพด้านล่างไม่ได้นัดกันเลยค่ะ

นรองขอภาพ "ไพลินกรอบ" จากพี่แม่ยายมากับตามี

แต่ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร  พี่เค้าก็ส่งมาให้แต่โดยดี พอนรองได้เห็นภาพนี้

ว้าว ๆ "หัวใจบุษราคัม" ก็มีแอคนี้ด้วยนะ..ขอเอามาโชว์เลย

ถ้วยนี้ใส่มะพร้าวอ่อนเพิ่มความอร่อยและหอมหวานค่ะ

มัวแต่ถ่ายรูปเพลินจนลืมใส่น้ำแข็ง

 

คนพิเศษได้ชิมแล้วชื่นใจ

"อืมห์...อร่อยจัง"

 
ตามด้วยความหอมละมุนของ "น้ำแห้ว" อีกสักแก้วนะคะ

คราใดที่ใจอ่อนล้า

ขอใจที่เข้มแข็งกว่า

ช่วยนำพาความอ่อนล้าออกไป

ขอเพียงมี "ใจที่ปรารถนาดี" อยู่เคียงข้าง

คอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน

แค่นั้น..ก็สุขเกินพอแล้ว

.....

"ขอเป็นกำลังใจให้กับใจทุกดวงที่กำลังอ่อนแอและเหนื่อยล้า"

ยิ้มไว้โลกนี้ไม่สิ้นหวัง..ยิ้มไว้..นะคะ..คนดี

    
สองวันมานี้

ฝนตก ฟ้าปิด ท้องฟ้ามืดมิด มองไม่เห็นแสงจันทร์เลยค่ะ

วันพรุ่งนี้ "ลอยกระทง..บุญจะส่งให้เราสุขใจ"

หากมองไปแล้วไม่เห็นแสงจันทร์  นรองขอพาทุกท่านไปชม

คุณสุภัทรา โกราษฎร์ แห่งวงไหมไทยชมจันทร์ใต้  "เงาไม้" กันนะคะ

ชมจันทร์จนชื่นใจแล้ว

จะชม "ระบำนพรัตน์"  บทเพลงไพเราะ ลีลาการร่ายรำงดงาม ต่อก็ได้นะคะ

"นาฏศิลป์ไทยงดงามและทรงคุณค่า"

นำมาฝากกันค่ะ

  "ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมและเป็นกำลังใจให้กันเสมอ"

 _/\_  สวัสดีค่ะ _/\_