ท่องวรรณกรรม ย่ำลุ่มน้ำน่าน เยี่ยมยามบ้าน กฟผ. (๖) มาถึงตอนที่ 6 แล้วครับ หลังจากที่พาท่านผู้อ่านมาท่องวรรณกรรม ย่ำลุ่มน้ำน่าน เยี่ยมยามบ้าน กฟผ. ของคณะจากมูลนิธิน้ำและคุณภาพชีวิต รวมทั้งชาวสโมสรนักเขียนภาคอีสาน โดยในตอนที่แล้วได้พาท่านไปเที่ยวลุ่มน้ำน่านสายธารที่มีต้นกำเนิดจากเมืองเหนือถึงเขตภาคกลาง จนกลายเป็นเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่นามว่าเขื่อนสิริกิติ์ ตลอดเส้นทางการเดินทางทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตและการดำรงอยู่ของผู้คนสองข้างทาง แม้ว่าจะเป็นการมองเห็นด้วยสายตามิได้ลงไปสัมผัสกับแก่นแท้ของการดำรงอยู่ แต่ก็รู้สึกวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนบนสองข้างทาง ในบางช่วงจะมองเห็นขุนเขาที่สลับซับซ้อนเป็นหุบเหวลึกลงไป บ่งบอกถึงความเพียรพยายามของมนุษย์ในการเอาชนะธรรมชาติเพื่อก่อสร้างถนนนำความเจริญมาสู่เขตป่าอันบริสุทธิ์ ราตรีนี้ยังยาวนานแต่งานเลี้ยงย่อมมีการเลิกราเกือบเที่ยงคืนสมาชิกทั้งสามองค์กรจึงได้อำลาจากกัน ส่วนทีมพลังหนุ่มจากสโมสรนักเขียนภาคอีสานและโรงไฟฟ้าน้ำพอง ขอนแก่น กว่าจะอำลากันได้ต่างถ้อยทีถ้อยจำนรรจ์จา ราตรีนี้ช่างน้อยนิด มิตรภาพและความทรงจำที่เหมืองแม่เมาะ ได้เวลาหกโมงเย็นพวกเรามาพร้อมกันที่ห้องอาหารรับรองที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับ จากห้องพักเชื่อมโยงไปสู่ห้องอาหารโดยมีระเบียงทางเดินต่อไปหากัน ภายในห้องอาหารมีเจ้าหน้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทีมจากมูลนิธิน้ำและคุณภาพชีวิต และจากสโมสรนักเขียนภาคอีสานนั่งอยู่ส่วนหนึ่ง งานเริ่มอย่างเป็นทางการเมื่อพิธีกรกล่าวบนเวที มีผู้บริหารระดับสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะกล่าวต้อนรับคณะที่มาเยี่ยมเยือน ต่อด้วยตัวแทนแต่ละองค์กรกล่าวแสดงความในใจและขอบคุณในมิตรภาพอันแสนงามในยามค่ำคืนจากนั้นเป็นรายการภาคบันเทิงบนเวที ทั้งบทเพลงลูกทุ่ง สตริง เพื่อชีวิต หมอลำ ไม่แบ่งสีแบ่งค่ายจากมวลสมาชิกต่างสรรหามาขับกล่อมสลับกับการอ่านบทกวีจากทีมสโมสรนักเขียนภาคอีสาน ช่วงเวลาสำคัญที่หลายคนรอคอยเมื่อเจ้าของตำนาน คนกับควาย ท่านสมคิด สิงสง อดีตประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสาน ซึ่งเดินทางมาประชุมที่เชียงใหม่ก่อนที่มาสมทบกับคณะที่เหมืองแม่เมาะ ขึ้นเวทีกล่าวถึงแรงบันดาลใจในงานเขียนเล่มใหม่ชื่อแบบไทย ๆ ว่า กาสรคำฉันท์ ว่าด้วยวิถีชีวิตของคนกับควาย สอดรับกับการขับกล่อมบทเพลงเพื่อชีวิตจากศิลปินเมืองอุดรธานี นิด ลายสือ ขับกล่อมบทเพลง คนกับควาย ได้อย่างลงตัว พร้อมกับการประสานเสียงจากสมาชิกภายในห้องอาหาร ก่อนที่จะอำลาด้วยบทเพลง ชีวิตสัมพันธ์ ที่โด่งดังในอดีต ภาพแห่งความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน สัตว์ป่า ต้นไม้ และสายน้ำที่หล่อเลี้ยงเพื่อให้ธรรมชาติสรรพสิ่งคงอยู่คู่กับโลกอันงดงามของเรา อำลาแม่เมาะ : มิตรภาพและความทรงจำ อรุณรุ่งแห่งวันใหม่มาเยือน แสงทองสาดส่องเหนือขุนเขา หลายคนตื่นจากฝันในยามค่ำคืน บรรยากาศยามเช้าชวนให้เดินออกกำลังกายรับอากาศอันบริสุทธิ์ ก่อนที่จะมาอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายมาพร้อมกันที่ห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า . หลังรับประทานอาหารเช้า คณะพวกเราอำลาทีมงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ โดยทางสโมสรนักเขียนภาคอีสานได้มอบหนังสือไว้เป็นที่ระลึกก่อนที่จะอำลากันในบรรยากาศแห่งมิตรภาพอันอบอุ่น . . ถ่ายภาพที่ระลึกหน้าห้องอาหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะก่อนเดินทางกลับอีสาน . . มอบของที่ระลึกให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแม่เมาะ . จากเหมืองแม่เมาะพวกเรามุ่งหน้าคืนถิ่นอีสานบนเส้นทางสายเดิม ถึงเด่นชัย แพร่ อุตรดิตถ์ ก่อนถึงทางแยกจะไปสุโขทัยรถจอดให้สัญญา พานิชยเวช เดินทางกลับบ้านพักที่สุโขทัย ส่วนธีระพงษ์ จันเปรียง มีโปรแกรมจะไปเป็นวิทยากรที่เชียงราย ส่วนมหา สุรารินทร์ และฟ้าใส เมียสุวิทย์ ทั้งสองโบกมืออำลาทักทายกันคณะก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่ แยกทางกับคณะที่พิษณุโลก เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ที่พิษณุโลกคณะพวกเราแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ร้านร้านอาหารรสเด็ดภายในตัวเมือง สังเกตได้ว่ามีลูกค้ามาอุดหนุนจนแน่นร้าน แต่ยังพอมีที่นั่งสำหรับพวกเรา โดยมีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าพิษณุโลกมาให้การต้อนรับด้วยน้ำใจไมตรี จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ไหว้หลวงพ่อใหญ่ : พระพุทธชินราชเมืองพิษณุโลก มาถึงพิษณุโลกทั้งทีมีเวลาดีต้องแวะมานมัสการหลวงพ่อใหญ่คู่บ้านคู่เมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังรับประทานอาหารเที่ยงพวกเราได้มากราบนมัสการพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวบ้านกันทั่วไปว่า วัดใหญ่ นั่นเอง โดยทางทีมงานแจ้งให้พวกเราทราบว่ามีเวลาสำหรับการเยี่ยมชมและสักการะบูชาที่วัดประมาณ 1 ชั่วโมง . พระพุทธชินราช ภายในวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ . วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นพระอารามหลวงที่สำคัญของจังหวัดพิษณุโลก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านเขตถนนพุทธบูชา ภายในตัวเมืองพิษณุโลก ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวมาร่วมทำบุญและนมัสการพระพุทธชินราชอย่างไม่เนื่องแน่นโดยเฉพาะในวันหยุดราชการหรือวันนักขัตฤกษ์ . ภายในวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ ตามตำนานกล่าวไว้ว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ. 1900 ในรัชสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท โดยทรงหล่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา เมื่อครั้งทรงเสด็จมาประทับอยู่ที่เมืองสองแคว (พิษณุโลก) ในช่วงหนึ่งเป็นเวลา 7 ปี นับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงรัชสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงรัตนโกสินทร์ มาจนถึงรัชสมัยปัจจุบัน พระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ได้ให้ความสำคัญในการปฏิสังขรณ์และทรงเคารพนับถือทำการสักการะตลอดมา วิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ มีเรื่องเล่าประวัติความเป็นมาของพระพุทธชินราช เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จไปช่วยราชการสงครามเมืองหงษาวดีทรงได้รับชัยชนะกลับมา เมื่อเสด็จกลับมายังเมืองพิษณุโลกได้ทรงเปลื้องเครื่องทรงออกบูชาพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ หลังจากนั้นจึงทรงให้มีการจัดให้มีมหรสพสมโภชถึง 3 วัน . . รูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร . ภายหลังที่พระองค์ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ท่านได้เสด็จมายังเมืองพิษณุโลกอีกครั้งเพื่อกราบนมัสการพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และทรงมีพระราชศรัทธาเปลื้องเครื่องสุวรรณอลังการขัตติยาภรณ์ออกจากองค์เพื่อกระทำสักการบูชา เป็นความสัมพันธ์ขององค์พระนเรศวรมหาราชกับเมืองพิษณุโลกในอดีตซึ่งถือได้ว่าเป็นที่พระองค์เสด็จพระราชสมภพ และภายในบริเวณวัดจะมีรูปปั้นอนุสรณ์ขององค์พระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานอยู่ นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมานมัสการพระพุทธชินราชมักจะถือโอกาสมาสักการะองค์รูปปั้นองค์นเรศวรมหาราชอยู่เสมอ . พระปรางค์เจดีย์ทรงดอกบัวตูมสีขาว ประดิษฐานกลางวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร . ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารมีจุดเด่นเป็นสง่าที่มองเห็นแต่ไกลก็คือพระปรางค์เจดีย์ทรงดอกบัวตูมสีขาวเด่นเป็นสง่าที่ประดิษฐานอยู่กลางวัด ซึ่งก่อสร้างในสมัยพระมหาธรรมาราชาที่ 1 (พระยาลิไท) โดยพระองค์ทรงก่อสร้างครอบพระสถูปพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารเจดีย์องค์เดิมที่สร้างในรัชสมัยของพ่อขุนศรีนาวนำถม ลุล่วงเข้าสู่รัชสมัยพระบรมไตรโลกนาถ เสด็จขึ้นครองเมืองพิษณุโลก จึงได้โปรดให้บูรณะพระปรางค์ โดยดัดแปลงพระเจดีย์ให้เป็นรูปทรงแบบขอม และได้มีการบูรณะปฎิสังขรเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน พวกเราใช้เวลาสำหรับการเยี่ยมชมภายในบริเวณวัดและสักการบูชาพระพุทธชินราช รวมทั้งถือโอกาสซื้อของที่ระลึกตามเวลาที่กำหนด ก่อนกลับขึ้นรถหลายคนแปลกใจที่มีรูปถ่ายของตัวเองในอริยาบทสบาย ๆ ปรากฏในกรอบพลาสติกวางเรียงรายบนโต๊ะทางขึ้นรถ หลายคนซื้อไว้ความเต็มใจรวมทั้งผู้เขียนด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งความทรงจำและความประทับใจเก็บไว้เป็นที่ระลึก เสวนาสังสรรค์อำลาเมืองเหนือ ก่อนอำลาเมืองเหนือคืนสู่แผ่นดินอีสาน บนรถของคณะพวกเราเกิดวงเสวนาย่อย ๆ ทั้งด้านวรรณกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งโครงการที่สามองค์กรได้กำหนดไว้เบื้องต้นที่อาจมีโอกาสร่วมเดินทางกันอีกครั้งนั่นคือโครงการศึกษาศึกษาระบบนิเวศวิทยาลุ่มน้ำโขงของมูลนิธิน้ำและคุณภาพชีวิต ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจาณาโครงการและความเป็นไปได้ ส่วนโครงการที่ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและชุมชนมีส่วนร่วมในท้องถิ่น คือ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยสามหมอ ที่จังหวัดชัยภูมิ และโครงการขนาดเล็กในพื้นที่ตำบลโสกพระ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกฝังจิตสำนึกของชุมชนในเรื่องของการอนุรักษ์ระบบนิเวศวิทยาในท้องถิ่น ด้านปราโมทย์ ปราโมช อดีตประธานสโมสรนักเขียนภาคอีสานกล่าวว่าพ่อของเขาเป็นทหารผ่านศึกจากสงครามเอเชียบูรพา เตรียมเข็นหนังสือ มหากาพย์แห่งอีสาน ออกจำหน่ายปีละครั้งว่าด้วยงานของนักเขียนอีสานทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ว่าด้วยงานวรรณกรรม เรื่องสั้น สารคดี ซึ่งตอนนี้ได้ประสานต้นฉบับไว้ส่วนหนึ่ง คาดว่าน่าจะวางจำหน่ายให้ทันในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเดือนตุลาคมปีนี้ ขอเอาใจช่วยครับ ส่วนโครงการ นำฮอยสินไซ ต้นไฟลาว เป็นอีกโครงการที่จะชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ไปเยี่ยมยามเมืองลาว ช่วงทอล์คโชว์ นิทานก้อม จากทีมงานจากมูลนิธิน้ำและคุณภาพชีวิตปะทะกับทีมโรงไฟฟ้าน้ำพองต่างสรรหามุกเด็ด ๆ มานำเสนอ ได้อย่างออกอรรถรสไม่ยอมน้อยหน้าประชันนิทานก้อมอย่างถึงพริกถึงขิง แต่ก็เผยแพร่กันได้เฉพาะบนรถเท่านั้นครับ หากนำมาเผยแพร่กันบนบล็อกนี้กลัวว่าท่าน บก. จะเซนเซอร์ครับ สโมสรนักเขียนภาคอีสานโดยท่านประธานหน่อย สุมาลี สุวรรณกร เจ้าโปรเจ็คมีโครงการเด็ด ๆ นำเสนอต่อสมาชิกหลายโครงการ อาทิ เช่น โครงการทัวร์วัฒนธรรม หลวงพระบาง ในปลายปีช่วงเดือนธันวาคม 2553 โดยรับสมาชิกนักเขียนและผู้สนใจทั่วไป จำนวน 30 คน มีค่าใช้จ่ายคนละ 6500 บาท การอบรมการเขียนผญาอีสาน 3 รุ่น (เก็บค่าลงทะเบียน) จัดขึ้นระหว่างช่วงเดือนสิงหาคม ตุลาคม 2553 ที่จังหวัดขอนแก่น โดยมีวิทยากร คือ อ.ประยูร ลาแสง และ ดร. งานเชิดชูเกียรติ ลาว คำหอม ครบรอบ 80 ปี ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในเดือนกรกฏาคม จัดกิจกรรมเสวนา สังสรรค์ ดนตรี ละครเวทีจากเรื่องสั้น เขียดขาคำ โดยสโมสรนักเขียนภาคอีสาน ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม การประกวดกลอนสุภาพหัวข้อ คนกับควาย : ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยจะเริ่มรับสมัครเดือนพฤษภาคม 2553 จะประกาศผลเดือนตุลาคม 2553 จัดโดยมูลนิธิคนกับควายและสำนักวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2553 มีกิจกรรมนำเสนอผลงานนักเขียนอีสานร่วมสมัย จัดที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่วนกิจกรรมบทกวีของนักเขียนไทย ลาว (นักเขียนรุ่นใหม่) ในนาม ฮักแฮง แพงหลาย จะวางแผนกลางปี 2553 นี้ โครงการดี ๆ กิจกรรมดี ๆ ภายใต้ความร่วมมือของสมาชิกและผู้ที่สนใจทั่วไปให้ความร่วมมือและสานต่ออุดมการณ์ของนักเขียนอีสานรุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ถอดด้ามรอวันเจิดจ้าในสวนวรรณกรรมให้ชื่นชม และคอยติดตามข่าวกิจกรรมในโอกาสต่อไปครับ ท้ายสุดคุณ นิด ลายสือ มีโครงการดี ๆ ของชมรมคนฮักเพลงเมืองอนแก่น จัดงานคอนเสริต์ ปอง ปรีดา ศิลปินชื่อดังเมืองขอนแก่นจะมาปรากฏตัวในงานมรดกอีสานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 1 เมษายน 2553 ใครที่เป็นเพลงรุ่นเก่า ในวันนั้นจะได้รับฟังเสียงร้องสด ๆ เพลง สาวฝั่งโขง เสียงร้องตันตำหรับและอีกหลายบทเพลงจากนักร้องกิตติมศักดิ์อีกหลายท่าน ก่อนจากกันไกลเหลือไว้เพียงคำสัญญา วงเสวนาจากเมืองเหนือจากหล่มสัก น้ำหนาวถึงคอนสารอีสานบ้านเฮาเข้าสู่เขตตลาดอำเภอชุมแพ ก่อนที่จะส่งพี่สังคม เภสัชมาลาและครอบครัวลงหน้าสถานีตำรวจชุมแพเพราะจอดรถฝากไว้กับตำรวจปลอดภัยก่อนที่เดินทางต่อไปยังหนองบัวแดงถิ่นอาศัย รถเคลื่อนออกจากตลาดชุมแพมองเห็นแต่พี่สังคม และครอบครัวโบกมือไหว ๆ เจอกันเมื่อโอกาสอำนวยก่อนที่พวกเราจะเดินทางต่อไปมุ่งสู่เขตจังหวัดขอนแก่น ผ่านเส้นทางสายขอนแก่น ชุมแพ ตลอดเส้นทางสังเกตเห็นรถพี่น้องชาวเสื้อแดงอยู่เป็นระยะ ๆ ทราบว่าวันนี้มีนัดชุมนุมใหญ่ของชาวเสื้อแดงที่ตัวเมืองขอนแก่น แม้ว่าจะด้วยสาเหตุและปัจจัยอะไรก็ตามบ่งบอกถึงความตื่นตัวทางการเมืองของประชาชนในต่างจังหวัดที่ผู้บริหารระดับประเทศควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถึงตัวเมืองขอนแก่นราว 2 ทุ่ม ก่อนที่รถของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะมาส่งคณะพวกเราลงที่สำนักงานที่ทำการถนนมิตรภาพ นอกเมืองขอนแก่น ส่วนทีมสี่หนุ่มสี่มุม ประกอบด้วยท่านนฤมิตร ประพันธ์, อณูทิพย์ ธารทอง, ประกาศิต คนไว และผู้เขียนเอง ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ให้รถตู้มาส่งและอนุเคราะห์ที่พักเป็นโรงแรมภายในตัวเมืองขอนแก่นให้พวกเราได้พักอีก 1 คืน ก่อนแยกจากคณะคุณ หลังเข้าที่พักนัดกันออกมาทานข้าวกันที่นอกโรงแรม ตั้งใจว่าจะหาร้านลาบอีสานอร่อย ๆ ทานกัน เพราะ ไม่ได้ทานข้าวเหนียวมาหลายวัน พยายามเดินหาร้านอาหารอีสานแต่ไม่เจอสักที จึงแวะร้านอาหารจานด่วนเป็นห้องแถวเล็ก ๆ ริมถนนใหญ่พร้อมสั่งเครื่องดื่มมาให้ทานข้าวอร่อยกัน กินข้าวเสร็จพากันเดินกลับที่พักแวะซื้อเครื่องดื่มขึ้นไปทานกันที่ห้องพัก ราตรีนี้ยังยาวนานและเป็นห้วงเวลาที่ยังรอการพิสูจน์ วันเวลา ความผูกพัน บนเส้นทางแห่งมิตรภาพของสามองค์กรได้มาพบกัน ขอบคุณสำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายและที่พักในการเดินทาง สมาชิกมูลนิธิน้ำและคุณภาพชีวิต และสโมสรนักเขียนภาคอีสานในเส้นทางสายมิตรภาพและความทรงจำ. |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
ศิลปะ : ดนตรี : เพื่อชีวิต | ||
![]() |
||
เส้นทางสายศิลปะ ดนตรี เพื่อชีวิต ที่เห็นและเป็นอยู่ |
||
View All ![]() |
<< | มิถุนายน 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 |