ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ THAI GEN-Y.COM ได้สัมภาษณ์ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ณ ร้านกาแฟกึ่งโรงภาพยนตร์ที่ถนนสุขุมวิท เพื่อให้คน Generation Y ทั้งหลายได้รับฟังความคิดอ่านของผู้สูงวัยท่านนี้ในแง่คิดต่างๆที่ดูคุยสนุก ส่วนสาระแล้วแต่จะคิดกันเองก็แล้วกัน

THAI GEN-Y : ฉายา “ขุนศึกการข่าว” นี้ได้มาอย่างไรครับ
พล.ท.นันทเดช : คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เป็นผู้เรียกผมก่อน และนำมาใช้เป็นชื่อหนังสือที่ผมเขียนอีก 2-3 เล่มครับ ความจริงเป็นการอำกันเล่นในกลุ่มเพื่อนต่างวัยน่ะครับ

THAI GEN-Y : คุณอานึกอย่างไรถึงเข้ามาทำงานทางการเมืองครับ
พล.ท.นันทเดช : เขามาหาช่องทางทะเลาะกับเพื่อนคุณไง

THAI GEN-Y : ธนาธรเป็นแค่คนรู้จักครับ แค่รู้จักเผลอไผล แล้วเก้อเขินยิ้มหัวเราะ ร้องไห้ อายเหลือเกิน พอเริ่มงานเราก็เดินไปจากกัน
พล.ท.นันทเดช : กลอนใคร คุ้นๆนะ

THAI GEN-Y : Generation รุ่นคุณอารู้จักกันดีเป็นส่วนใหญ่ ผมจำชื่อไม่ได้หรอกครับ ถามต่อดีกว่า คุณอาเห็นว่า “หม่อมเต่า” (ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล) และ “ลุงกำนัน” (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เป็นคนอย่างไรครับ
พล.ท.นันทเดช : เป็นคนประเภทใกล้เคียงกันมาก Old Generation แต่ความคิดความอ่านอยู่ในรุ่นคุณเลยล่ะ เป็นคนที่ทำอะไรแล้วทำจริงทำจังทั้งคู่ครับ คนหนึ่งมีความรู้ทางเศรษฐกิจดีเยี่ยม อีกคนก็คร่ำหวอดในงานการเมือง รู้ไปทุกจังหวะก้าวครับ

THAI GEN-Y : เห็นลุงกำนันเดินงานทางการเมืองอยู่คนเดียว
พล.ท.นันทเดช : คุณคงไม่ได้อ่านสัมภาษณ์ของหม่อมเต่าในเรื่องนี้แน่นอน หม่อมเต่าตอบว่า “คนในพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้น ต่างคนต่างเข้ามาทำงานในหน้าที่ที่ตนเองถนัด” หัวหน้าพรรคของผมก็ไปเดินกับลุงกำนันบ้าง ถ้าว่าง ผมเองก็ไปเดินบ้างเช่นกัน นอกจากนั้นก็แยกย้ายกันเดินสายพบปะผู้คนที่รู้จัก เพื่ออธิบายถึงเรื่องพรรคการเมืองของประชาชน ซึ่งผมคิดว่าถ้าได้คนระดับอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาพูดสนับสนุนการจัดตั้งพรรคการเมืองของประชาชนแล้ว มันน่าจะwork มากกว่าผมพูดมากเลยล่ะ

THAI GEN-Y : แล้วคนอื่นๆละครับ ทำอะไรกันบ้าง
พล.ท.นันทเดช : ก็ทำงานกันทุกคนครับ เรามีอาจารย์หลายคนที่ลาออกมาจากการเป็นอาจารย์ เข้ามาทำงานให้พรรค เช่น อ.จักร (รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร) อ.สุริยะใส (ดร. สุริยะใส กตะศิลา) ดร.จอมเดช (ร.ต.อ. ดร.จอมเดช ตรีเมฆ) อ.เขตรัฐ (อ.เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์) และยังมีวุฒิสมาชิกและข้าราชการการเมืองอีกจำนวนหนึ่ง เช่น คุณประสาร มฤคพิทักษ์ คุณพิเชฐ พัฒนโชติ คุณมหินทร์ ตันบุญเพิ่ม คุณอุทัย ยอดมณี อดีตนายก อ.ศ.ม.ร. เป็นต้น มีอีกหลายคนที่เข้ามาช่วยงานพรรคด้วยใจ อยู่เบื้องหลังอีกจำนวนมาก เช่น คุณชัยวัฒน์ สุรวิชัย อ.ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และอีกหลายคนครับ ซึ่งผมยังไม่บังอาจไปเอ่ยถึงชื่อของท่านเหล่านั้นในตอนนี้ครับ

THAI GEN-Y : แล้ว อ.เอนก (ดร.เอเนก เหล่าธรรมทัศน์) ไปไหนครับ
พล.ท.นันทเดช : คุณคงกำลังตกรุ่นGen-Yไปแล้วมั้ง อ.เอนกไปเดินสายอภิปรายมาเกือบทุกสถาบันการศึกษา ครั้งล่าสุดในการอภิปรายที่หอศิลป์กรุงเทพฯ อ.เอนกเสนอแนวคิดทางด้านการพัฒนาการศึกษาไว้แหลมคมน่าคิดมากว่า “กระทรวงศึกษาไม่ควรเป็นโค้วต้าของพรรคการเมือง”

THAI GEN-Y : แล้วคุณอาล่ะครับ
พล.ท.นันทเดช : ผมเป็นทหารทางด้านงานข่าว ทำงานมวลชนมาตลอด ก็ทำด้านนี้ต่อไปครับ ว่างๆก็ไปช่วยลุงกำนันเดินบ้างเท่าที่จะเดินไหว

THAI GEN-Y : ผมว่าลุงกำนันเดินทนมาก แข็งแรงมากใช่ไหมครับ
พล.ท.นันทเดช : คนวัยนี้ร่างกายอย่างเดียวไม่ช่วยเท่าไรหรอกครับ มันต้องมีความมุ่งมั่นเป็นเข็มมุ่งประกอบด้วย ถึงจะผลักดันร่างกายให้เดินต่อไป ซึ่งใจผมไม่มุ่งมั่นขนาดลุงกำนัน ผมเดิน2-3วันก็เลิก พักที่โรงแรม แต่ลุงกำนันเดินพบปะประชาชนต่อเนื่องไม่หยุดเลยหนึ่งเดือน แถมยังนอนในคาราวานอีกด้วย

THAI GEN-Y : แล้วลุงกำนันทำไปทำไมครับ ตำแหน่งอะไรก็ไม่เอาทั้งหมดแล้ว
พล.ท.นันทเดช : จริงๆผมก็ไม่รู้นะ หลายๆเรื่องในพรรคช่วยกันคิด แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เรายกให้ลุงกำนันคิดเอง คือเรื่องอุดมการณ์พรรค และตัวลุงกำนันเองก็มีความมุ่งมั่นมาก ไปตรงไหนพูดตรงนั้น อาทิ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ บริหารบ้านเมืองด้วยธรรมาธิปไตย ไม่โกงชาติ รักเคารพประชาชน พิทักษ์ธรรมชาติ แก้ปัญหาของประเทศด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากอุดมการณ์เหล่านี้ ผมคิดว่าลุงกำนันคงคิดว่าตนเองให้สัญญาต่อประชาชนไว้จากการชุมนุมของ กปปส.คราวที่แล้ว เช่น การปฏิรูปต่างๆ จึงกลับมาสนับสนุนพรรคของเราอย่างเต็มที่เพื่อให้เรื่องการปฏิรูปเป็นจริงขึ้นมา

THAI GEN-Y : การทำพรรคการเมืองของประชนนี่ยากไหมครับ
พล.ท.นันทเดช : พวกเราทำได้ง่ายๆ เพราะล้วนแต่เป็นคนใหม่ทางการเมือง ไม่มีกลุ่มแล้วก็อะไรให้ยึดติด ประชาชนก็ให้ความสนใจมากโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ผ่านห้วงเวลาบอบช้ำของบ้านเมืองมาในช่วง12-13ปีที่ผ่านมา ปัญหาอยู่ที่ค่าสมาชิกของพรรคเราเก็บวันละ1บาท รวม 365 บาท ในขณะที่พรรคอื่นเก็บค่าสมาชิกแค่ 50 บาทเอง ดังนั้นครอบครัวหนึ่งที่สนับสนุนพรรคของเราจึงต้องลงขันมาให้มีตัวแทนเป็นสมาชิก 1 คน แทนที่เราจะได้สมาชิก 7 คนทั้งครอบครัวถ้าเราเก็บคนละ 50 บาท แต่ก็เป็นเรื่องที่เราต้องอดทนครับ ยอดสมาชิกแม้จะขึ้นช้ากว่าพรรคอื่นๆ แต่ก็มี Voter มากกว่าแน่นอน ดังนั้นจำนวนสมาชิกของพรรค รปช.จึงไม่ใช่ตัววัดความนิยมของประชาชนที่มีต่อพรรคแต่อย่างใด เพราะสมาชิก 1 คนมีผู้ร่วมลงทุนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอีกนับสิบคนครับ

THAI GEN-Y : ผมขอกลับมาที่การเดินของลุงกำนัน ทางพรรค รปช.ได้อะไรบ้างครับ
พล.ท.นันทเดช : ผมว่าสิ่งสำคัญที่พรรค รปช.เราได้รับอย่างชัดเจน เป็นรูปธรรมคือการรู้จักทำงานร่วมกันเป็นทีม และกำลังใจที่ได้รับจากประชาชน ซึ่งเรื่องกำลังใจนี้เป็นเรื่องสำคัญมากครับ ทำให้พรรคเราสามารถเดินหน้าต่อไปในการหาผู้สมัคร ส.ส.โดยไม่ได้จ่ายเงินหรือซื้อตัวผู้สมัคร ส.ส. อีกเรื่องที่ได้คือข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ว่าประชาชนเดือดร้อนอะไรบ้างครับ

THAI GEN-Y : พรรคแบบที่คุณอาช่วยกันทำอยู่นี้ผมก็เห็นว่าดีนะครับ แต่ทำอย่างไรจะให้ประชาชนรู้เรื่องราวเหล่านี้บ้าง เคยคิดที่จะสื่อสังคมออนไลน์มาเป็นเครื่องมือไหมครับ
พล.ท.นันทเดช : การใช้สื่อสังคมออนไลน์นั้นมีผลทั้งดีและไม่ดีครับ ถ้าใช้เป็นก็จะได้ผล ตอนนี้เรากำลังเริ่มค่อยๆทำอยู่ครับ

THAI GEN-Y : ขอบคุณคุณอามากครับที่มาแลกเปลี่ยนความเห็นกับพวกเรา THAI GEN-Y นะครับ
พล.ท.นันทเดช : ยินดีครับ ช่วยเชียร์พรรค รปช.บ้างนะครับ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่คนทุกชั้นทุกวัยสามารถทำงานร่วมกันได้ เรายังต้องการคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาวเข้ามาร่วมทีมเยาวชนของพรรคเราอีกมากครับ ติดต่อมาที่ Facebook พรรครวมพลังประชาชาติไทย - ACT Party ก็ได้ครับ

http://www.thaigen-y.com/