ฉันไม่ได้เป็นคนสวยที่สุดในคณะ เพราะคณะพยาบาลมีแต่ผู้หญิงสวยเสียเป็น ส่วนใหญ่ แต่ฉันเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มผู้หญิงสวยเหล่านั้น ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่าทำไมทุก วันวาเลนไทน์ ฉันจึงได้รับดอกกุหลาบหลายสิบดอก แต่ไม่อยากบอกเลยว่าทุกดอกมาจากผู้หญิงด้วยกัน ทั้งจากเพื่อน รุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักในตอนนั้น พยาบาลกับหมอไม่ค่อยถูกชะตากันนัก เพราะครึ่งหนึ่งของพยาบาลคือพวกที่สอบเข้าเรียนแพทย์ไม่ได้ แต่ฉันก็ต่างกับคนพวกนี้ ฉันตั้งใจเข้าเรียนพยาบาลโดยตรงเพื่อจะดูแลแม่ของฉัน ดังนั้นมิตรภาพระหว่างฉันกับพวกหมออินเทิร์น หมอใหม่ อาจารย์หมอ จึงดูดีมาก ตั้งแต่ตอนเข้าเรียนจนเรียนจบ เมื่อออกมาทำงาน ฉันจึงได้รับดอกกุหลาบมากขึ้น ดีขึ้นหน่อยล่ะ เพราะนอกจากได้รับจากพวกผู้หญิงด้วยกันแล้วก็มีหมอผู้ชายด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกอาจารย์หมอจะให้ตามมารยาท แต่พวกที่แอบแฝงมารยาทก็มีอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าฉันแตกตื่นกับกุหลาบแดงดอกแรกจากผู้ชายมากแม้มันจะมาพร้อมๆ กันหลายดอกก็ตาม วันนั้นฉันยิ้มบานแฉ่งให้กับผู้ชายทุกคนแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้ให้ดอกไม้ฉัน “…A new day has come ในบรรดาหมอหลายคนที่เพื่อนๆ คัดเลือกมาให้ มี 3 คน หมอตี๋ 2 คน หมอไทย 1 คน ในที่สุดฉันก็เลือกหมอตี๋คนหนึ่งเป็นแฟน เพราะเข้ากันได้ดีกับเพื่อนๆ ในกลุ่มของฉัน และก็ดูน่ารัก สุภาพดี อายุมากกว่าฉัน 2-3 ปีกำลังดี หมอตี๋พูดน้อย ฉันพูดมาก ฉันอยู่บ้านไม้สักแบบโบราณกับแม่ แถวบางกระบือ หมอตี๋อยู่ตึกแถวหลายชั้นกับครอบครัวที่บางโพ เดินทางไปกลับเส้นทางเดียวกัน เราจึงไปกันได้ดี ทุกๆ ปี ฉันมีภารกิจต้องไปรำไทยที่งานแสดงสินค้าไทยที่อังกฤษ ตามคำสั่งของป้าที่ทำมาค้าขายอยู่ที่นั่น ฉันจึงลางาน 3 อาทิตย์ คิดถึงหมอตี๋ไปตลอดเวลา ฉันกลับมาพร้อมด้วยเสื้อยืด Tommy รุ่นล่าสุด 2 ตัวสำหรับหมอตี๋ของฉัน เพื่อนๆ มารับที่สนามบินมากกว่าปกติ แต่ไม่มีหมอตี๋ คงติดเวรผ่าตัดมั้ง แต่ก็ไม่น่าจะใช่นะ เพื่อนๆ เข้ามาช่วยถือของ บางคนจับมือฉัน บางคนกอดฉันไว้ พวกมันบอกว่า “หมอตี๋ไม่มาแล้ว” รถชนล่ะสิเซ่อนัก เป็นอะไรมากไหม ฉันพูดแบบไม่วิตกกังวล เพราะหมอตี๋ขับรถไม่เคยเกิน 80 กม./ชม. “ไม่ใช่โว้ย” เพื่อนคนหนึ่งพูด อีกคนหนึ่งพูดแซงขึ้นมาว่า “มันทำลูกสาวจ่ามีท้อง พ่อมันจับแต่งงานน่ะสิ” ฉันนึกถึงเด็กสาวสวยสมบูรณ์ทุกสัดส่วน รุ่นน้องของฉันขึ้นมาได้ ฉันเคยบอกหมอตี๋ว่า “ถ้าฉันเป็นผู้ชาย ยัยคนนี้ไม่รอดฉันแน่” “แล้วมึงล่ะโดนอะไรบ้างหรือเปล่า” เพื่อนถาม ฉันจึงตอบกลับไปว่า “จะไปโดนอะไรได้ ก็พวกมึงสอนกูแค่เวลาเดินก็ให้มันจับมือได้ แล้วแกล้งเดินให้ข้อศอกมันโดนนมบ้าง กูก็ทำไปเท่านั้นแหละ” ความเศร้ากลายเป็นความฮาขึ้นมาทันที ฉันก็สนุกไปกับเพื่อนๆ เหมือนเคย ก็แค่ “หน้าชื่นอกตรม” เท่านั้นเอง กุหลาบแดงดอกแรกของฉันก็ล่วงหล่นไปกับพื้นแล้ว แต่ชีวิตมันต้องเดินต่อไป สู้โว้ย โธ่เอ๊ย หลงทางยังหาจนเจอ หลงเธอก็แค่กลับทางเดิมเท่านั้น เข้มแข็ง ไม่ได้แปลว่า “รับได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ฉันไปรำไทยที่ลอนดอนมา 3 ปี มีฝรั่งมาถ่ายรูป มาขออีเมล หลายสิบคน แน่นอนไม่ใช่เพราะฉันเป็นคนสวยขนาดดารา แต่เพราะวัฒนธรรมอันอ่อนโยนของชาติไทยมักจะหลอมละลายหัวใจพวกที่ยึดถือวัฒนธรรมตะวันตกได้เสมอ ในฝรั่งเหล่านี้ มีคนเดียวที่ส่งดอกกุหลาบช่อใหญ่มาให้ฉันที่ร้านอาหารไทยของป้าทุกปี (เป็นที่พักของฉันในลอนดอน) อีกปีต่อมาฉันจึงได้คุยกับเขาด้วยภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ ก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าที่ป้าฉันเล่าให้ฟังว่า “จอห์นเป็นพ่อม่าย ลูกเมียทิ้งไปหมดแล้ว (ตามสันดานฝรั่ง อีกหน่อยก็จะลามมาถึงประเทศไทยแล้ว) เขาพักอาศัยอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์น่ารักที่ลอนดอน มีอาชีพเป็นวิศวกร ปัจจุบันเป็นช่างซ่อมนาฬิกาโบราณ” ฉันจึงไม่เคยสนใจต่อกุหลาบของฝรั่งแก่ชื่อจอห์นเลย (อุ้ยขอแก้ ฝรั่งที่อายุมากค่ะ) แถมยังเป็นช่างซ่อมนาฬิกาอีก รับไม่ได้จ้า เวลาบาดเจ็บทางใจ หมอเสือกเป็นคนทำให้เกิดเอง จะไปหาหมอรักษาอีกก็เข็ดแล้ว ฉันจึงรักษาตัวเองด้วยการทำงาน ทำทุกอย่างไม่ให้มีเวลาว่าง อ่านหนังสือ เรียนต่อปริญญาโท ออกกำลังนั่งเช็คอีเมลย้อนหลังดูก็เห็นอีเมลของจอห์นเขียนมาแนะนำตัว จีบฉันบ้าง ไม่มีท้อถอย ส่งมาทุกอาทิตย์ด้วยความอดทนตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี โดยที่ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเลย (แม้แต่เปิดดูก็ไม่เคย เพิ่งจะมาเปิดดูหลังจากอกหักนี่เอง) ฉันแทบไม่เชื่อว่าช่างซ่อมนาฬิกาอาวุโส (ให้เกียรติหน่อย) ขนาดนี้ จะเขียนอะไรได้น่าสนใจมากๆ ฉันเริ่มตอบอีเมลของจอห์นไปบ้าง เพราะแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ฉันอ่านและเขียนพอใช้ทีเดียวแหละ ใครๆ ว่าฉันอกหักแล้วยิ่งสวยขึ้นผิดปกติ ซึ่งก็น่าจะจริงเพราะฉันเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นตามลำดับ และยังดูแลตัวเองมากกว่าเดิมด้วย กลัวไอ้หมอตี๋มันเห็นร่องรอยบาดแผลในจิตใจ วันเวลาผ่านไป มีหมอใหม่ๆ คนไข้ เพื่อนเรียนปริญญาโท มาขายขนมจีบหลายคน ฉันก็ดูไปเรื่อยๆ คบคนนั้นนิด คุยกับคนนี้หน่อย อ่อยเหยื่อเรื่อยไป จนผ่านมาอีก 2 ปี อายุก็ปาเข้าไป 30 กว่าแล้ว อนาคตเห็น “คานทอง” ชัดเจน เพื่อนๆ ก็มีลูกมีผัวไปกันหมด เริ่มเหงาบ้างแล้ว เพื่อนๆ แนะนำให้หาหมามาเลี้ยง “รอให้กูจนตรอกมากกว่านี้ก่อนสิ” วันหนึ่งจอห์นก็บอกว่าจะมาเที่ยวกรุงเทพฯ ตามที่ฉันเคยสัญญาว่าจะพาเขาเที่ยว ฉันก็ตอบตกลงว่าสัก 3-4 วันนะเพราะงานเยอะมาก ในใจคิดว่าเดินกับคนแก่ก็แย่แล้ว ดันเป็นฝรั่งอีก โอ๊ยจะทำยังไงดี ฉันกับเพื่อนไปรับจอห์นที่สนามบินดอนเมือง (ตอนนั้นยังไม่มีสนามบินสุวรรณภูมิ) เมื่อได้พบปะตัวจริง พูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษอย่างงูๆ ปลาๆ แล้วเกิดความรู้สึกว่าจอห์นเป็นคนแก่ที่น่าสนใจ มีเสน่ห์ ดูดีทีเดียวแหละ จากเดิมที่จะพาเที่ยวแค่ 3-4 วันจึงกลายเป็นไปเที่ยวกันทั้งเดือน คราวหนึ่งฉันพาจอห์นไปชมพระที่นั่งวิมานเมฆ เจอนาฬิกาโบราณเก่าๆ หลายสิบเรือน จอห์นบอกเจ้าหน้าที่ว่าเขาสามารถซ่อมได้ ดังนั้นเมื่อวันไหนที่ฉันติดงาน จอห์นก็จะไปซ่อมนาฬิกาอยู่ที่นั่น รอให้ฉันไปรับกลับที่พัก เพื่อนๆ ถามว่า “เป็นแฟนกันแล้วหรือ” ฉันบอกว่า “จอห์นเป็นช่างซ่อมนาฬิกาที่มีฝีมือ ละเอียดรอบคอบ คนในพระที่นั่งวิมานเมฆชมกันทั้งนั้น ถึงกับบอกว่าถ้าจอห์นมาเมืองไทยเมื่อไร มาซ่อมนาฬิกาให้อีกนะ” เพื่อนแย้งว่าไม่เห็นเกี่ยวกับคำถามเลย ฉันก็ตอบไปว่า “จอห์นซ่อมชิ้นส่วนที่แตกหักในหัวใจของฉันเรียบร้อยแล้ว” ในที่สุดฉันก็ลาออกจากงาน เดินทางไปแต่งงานกับจอห์นที่อังกฤษ จอห์นย้ายจากอะพาร์ตเมนต์ไปซื้อบ้านใหม่ที่เคมบริดจ์ ส่วนฉันมาทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและกลับเมืองไทยเกือบทุกปี จอห์นเป็นคนกลัวความสูง ยิ่งแก่ก็ยิ่งกลัว เวลาขึ้นเครื่องบินจะจับมือฉันไว้แน่น พอลงมาก็อาเจียน กว่าจะค่อยรู้สึกดีขึ้นก็ใช้เวลาไป 2 วันทีเดียว 3 ปีมานี้ฉันไม่ได้กลับกรุงเทพฯ เลย ใช้โทรศัพท์คุยกับเพื่อเอา เพราะจอห์นนั่งเครื่องบินไม่ได้แล้ว เขาแก่ลงอย่างรวดเร็วตามแบบฝรั่งทั่วๆ ไป แต่เราก็จะอยู่กันตลอดไป “...I'll be your cloud up in the sky ปัจจุบันฉันอายุ 60 กว่า ลองคิดว่าจอห์นอายุเท่าไร ก็เกือบ 80 ปีเข้าไปแล้ว ฉันยังทำงานเป็นพยาบาลอาวุโสอยู่ที่โรงพยาบาลในเคมบริดจ์ ต้องขอบคุณที่ตอนอยู่ที่ประเทศไทย ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น พอมาเริ่มต้นฝึกพูดภาษาอังกฤษใหม่ทั้งหมดที่นี่ ฉันจึงได้สำเนียงอังกฤษแท้ๆ ออกมา ความเคารพนับถือจากบุคลากรของโรงพยาบาลฉันก็มาจากภาษาพูดของฉันเอง เมื่องานน้อยลงฉันก็ดูแลบ้านได้มากขึ้น บ้านของเราที่เคมบริดจ์จึงสวยงามจนใครที่ผ่านมาต้องหันมาดูเลยล่ะ และเราก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไป หรือจนกว่าจะตายจากกันไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
(T.L.C. Tender Love and Care : Jimmie Rodgers)
หมายเหตุ “ฉัน” เป็นเสมือนน้องสาวของผม ที่มีชีวิตผกผันเพราะความรักและดอกกุหลาบเป็นต้นเหตุ และช่อกุหลาบที่ส่งมาให้เธอทุกปีก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ฝรั่งสูงอายุชนะหนุ่มไทยไปได้แบบเฉียดฉิว วาเลนไทน์ปีนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านจงมีความรักที่ยั่งยืน ไม่ว่าคนรักจะอยู่กับเรา หรือไม่อยู่แล้วก็ตาม เพียงแค่เรารู้จักมีความรักผ่านเข้ามาบ้าง เราก็จะมีความสุข เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงส่วนที่ดีของมันครับ ส่วนใครที่แก่แล้วจงนึกถึงข้อความท้ายรถสิบล้อไว้ให้ดีครับ “หลงทางเสียเวลา หลงนักศึกษาเสียค่าหน่วยกิตแน่นอน” |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2021 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 |