ไทยกับพม่าเคยทำสงครามกับไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มาวันนี้ตั้งแต่พม่าเปิดประเทศมาสิบกว่าปีมีการเลือกตั้งตามระบอบบระชาธิปไตย นางอองซานซูจีแม้ไม่ใข่ผู้นำสูงสุดแต่ก็เป็นตัวชูโรงให้นานาประเทศรู้จักพม่าในแง่ที่ดีมากขี้น พม่าเป็นประเทศที่มีอะไรแปลกๆที่ไม่เหมือนชาติใดในโลกอยู่หลายประการด้วยเหตุผลทางการเมืองจากอดีต เท่าที่ไปเห็นและสัมผัสมา เช่น ไม่อนุญาตให้มีรถมอเตอร์ไซต์ในนครย่างกุ้งใครเคยเห็นช่วยบอกที  ไม่มีปั้มน้ำมันอย่างแพร่หลาย(ปัจจุบันอาจจะมีเยอะแล้วก็ได้)  รถยนต์ทั้งประเทศเกินครึ่งหนึงเป็นรถพวงมาลัยขวาแต่ขับเลนขวา เมื่อเปิดประเทศประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าพม่ายกเลิกวีซ่าแต่สามารถบินไปลงได้แค่ ๓ สนามบินคือย่างกุ้ง มัณฑะเลย์และเนปิดอร์เท่านั้นและไม่สามารถบินภายในประเทศตามอำเภอใจอีกทั้งห้ามเดินทางทางบกไปถึงนครย่างกุ้ง เป็นต้น ประเทศพม่าแบ่งการปกครองเป็น ๗ รัฐ ๗ เขตปกครอง และแต่ละรัฐและเขตปกครองยังมีกองกำลังเป็นของตนเอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ว่าทำไมเมื่อพม่าเปิดประเทศแล้วนั้นยังไม่มีการท่องเที่ยวในประเทศได้อย่างอิสระเหมือนบ้านเรา วันนี้พม่ามีกองกำลังเกือบครค่งแสน หากแต่ทหารกลุ่มชาติพันธุ์เมื่อรวมกันทั้งหมดมีไม่เกิน ๑ ใน ๑๐ ของกองกำลังทหารพม่า ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์นั้นไม่ต้องพูดถึง นั้นเป็นสิ่งที่นานาชาติมีความห่วงใยในพม่า

         ตั้งแต่นายพลมิน อ่อง ลายเริ่มมีการปฎิวัติรัฐประหารแบบสายฟ้าแลบเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การประท้วงของผู้คนชาวพม่าไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ซ้ำมีการประท้วงลุกลามไปทั่วประเทศ แม้แต่รัฐชินทางตอนเหนือที่ผู้คนที่นั่นจะไม่ได้รับผลจากการปกครองกลางสักเท่าไรก็ไม่เว้น ยิ่งนานวันเข้าสถานการณ์ท้าทายชาวโลกยิ่งทวีความรุนแรงไม่มีทีท่าว่าจะลด แม้นานาชาติจะมีเสียงคัดค้านให้ทหารพม่าหยุดใช้อาวุธก็ตาม.....แต่ทำไมเมื่อเกิดการประท้วงขึ้นในประเทศไทยนานาชาติมากมายก็รุมประท้วงไทยที่ใช้ความรุนแรงกับประชาชนแค่การฉีดน้ำไล่ผู้ชุมนุมเท่านั้น

          คนพม่าเคร่งครัดในธรรมเนียมปฎิบัติ ผู้คนนับถือศาสนาพุทธในวันหบุดผู้คนต่างเข้าวัดทำบุญ ทหารพม่าที่อยู่ในประเทศเดียวกันมาวันนี้ทำไมถึงมีความเคียดแค้นจนมีการใช้อาวุธจริงสังหารประชาชนที่เราได้ยินได้ฟังตามข่าว....ภาพที่เห็นด้านบนคนพม่าคงเห็นภาพตำรวจประเทศไทยใจดีที่ปล่อยให้ผู้ประท้วงนำสีละเลงที่ไหนก็ได้ เจ้าหน้าที่ได้แต่ทนดูตาปริบๆ แต่นั่นคือยุทธวิธีที่ไม่เหมือนกัน ส่วนคนพม่าก็ได้แต่ฝันเลยวาดรูปนี้ออกมา ในสมัยที่พม่าปิดประเทศหรือเปิดประเทศใหม่ๆ การถ่ายภาพทหาร ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐนั้นเป็นไปไม่ได้เลย หรือบางสถานที่เช่น สะพานต่างๆ สถานีรถไฟ สถานที่ราชการ เป็นต้น ...เราโชคดีมั้ยที่เกิดและอยู่ในประเทศไทย แต่ในฐานะเพื่อนบ้านที่ดีเราก็อยากให้พม่ากลับสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว แม้เป็นเรื่องที่ยากก็ตาม

ภาพเเบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดในพม่า...ขอให้ภาพเล่าเรื่อง

การประท้วงอย่างสงบเกิดขึ้นแทบทุกเมืองในพม่า แต่การตอบสนองจากทหารและตำรวจช่างต่างจากบ้านเรา

เป็นการประท้วงที่มีรูปแบบน่าชื่นชม

ภาพเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศที่เคยสงบเงียบอย่างพม่า

ผู้คนชาติเดียวกันแค่ต่างชาติพันธุ์

แม้จะมีการประท้วงเงียบก็ไม่เป็นผล จนวันหนึ่งทหารต้องไปปลุกให้ลุกขึ้นไปทำงาน

          ประเทศไทยเรามีแค่ ๒ พันธุ์คือพันธุ์ชอบและ กับพันธุ์ไม่ชอบ หากเราไปตรวจตราดูประเทศอื่นๆใช่ว่าเมื่อมีความเจริญแล้วจะสุขตามหาเป็นเช่นนั้นเสมอไปไม่ เอาไว้เป็นที่เข้าใจ ส่วนความอิสระเสรีเป็นที่หมายมั่นเอาไว้หลังโควิดประเทศไทยไทยคงมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาและจะทำให้เศรษฐกิจเราดีขึ้น มีประชาชน นักธุรกิจมากมายที่เขาสูญเสียรายได้จากภัยโควิด ...แต่สุดท้ายก็ขอเป็นกำลังใจให้พม่าเข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว บ้านเราก็เช่นเดียวกันครับ

 ขอบคุณภาพจากกู้เกิ้ล