. . . กลับจากน่านมาหลายวันแล้วครับ แต่ความรู้สึก ยังนึกถึงน่านมิรู้เลือน... เหตุผล..เพราะในแต่ละวัน เมื่อผมรู้สึกเบื่อหรืออ่อนเพลียจากการเสพข่าวการเมือง ผมจะนั่งเขียนบล็อกเรื่องน่าน ทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาอย่างมีความสุขที่น่าน ลดความรู้สึกที่ร้อนแรงภายในจิตใจตนเองลงไปได้มาก จึงเขียนเรื่องราวที่ไปเที่ยวน่านครั้งนี้ได้ถึง ๕ เอ็นทรียาว ๆ เมื่อกลับมาเปิดไฟล์ภาพดูอีกครั้ง พบว่ายังมีภาพอีกมากมายที่ไม่ได้หยิบมาใช้เขียนบล็อก และเห็นว่าน่าจะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่าให้ภาพสงบนิ่ง ๆ อยู่ในคอมพิวเตอร์ ผมจึงขอเพิ่มเอ็นทรีเก็บตกอีกสัก ๑ เอ็นทรีนะครับ . . . ๑...ทุ่งช้างขวางหน้า.... การเดินทางท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ในแต่ละทริป หากสามารถเลือกได้ ผมจะเลือกเดินทางกลางวัน และขอซุกตัวเองอยู่ที่เบาะนั่งแถวหน้าของรถ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้หรือรถบัส เพื่อสะดวกในการชมวิวทิวทัศน์และบันทึกภาพ ไปน่านครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน จองตั๋วล่วงหน้า ระบุที่นั่งเรียบร้อย คาดหมายว่าจะต้องเป็นจุดที่เหมาะสมแน่นอน และเหมาะสมจริง ๆ ด้วย แต่เจออุปสรรคเข้าจังเบ้อเริ่ม กระจกหน้ารถ มีตัวอักษรว่า "ทุ่งช้าง" ติดหราอยู่ รวมถึงมีเสาอากาศวิทยุ และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกหลาย ๆ อย่าง สุดท้าย เมื่อเห็นวิวเบื้องหน้าสวย ๆ ถ่ายออกมาจะเป็นเช่นนี้แล.... . . . ๒...แพร่ยามเย็น... แสงแดดเย็น สาดส่องไปทั่วถนนสายหนึ่งของจังหวัดแพร่ ผมเห็นความจอแจ จ๊อกแจ๊กของการเดินทางจากการใช้รถใช้ถนน รถยนต์หลากชนิด มอเตอร์ไชด์มากมาย และผมยังเห็นรถสามล้อถีบวิ่งรวมอยู่ด้วย ผมเลยบอกแม่มะยงว่า หากมีทริปขึ้นมาทางเหนืออีกครั้งเมื่อไหร่ เราซื้อตั๋วมาลงที่ขนส่งจังหวัดแพร่บ้างดีกว่า นอนแพร่ ๑ คืน เที่ยวแพร่ ๑ วัน ก่อนจะไปต่อที่น่านอีกครั้ง แม่มะยงเห็นด้วยกับความคิดนี้.... รอก่อนนะเมืองแพร่.....เมืองที่เคยผ่านบ่อย ๆ แต่ยังไม่ได้ละเลียดเก็บรายละเอียดซะที... แต่ "แพร่" อยู่ใกล้ตัวใกล้ใจของผมทุก ๆ วัน เพราะผมสวมใส่ "เสื้อหม้อฮ่อมแพร่" เป็นเครื่องแบบประจำตัวมานานแล้ว...... . . . ๓...เขตพระราชฐาน ที่น่าน ก็มีนะจ๊ะ... เลยอำเภอเวียงสา มาหน่อยหนึ่ง ก่อนจะเข้าตัวจังหวัดน่าน ในตำบลดู่ใต้ ผมหันขวับไปทางขวามือของรถ เห็นป้าย "เขตพระราชฐาน ลดความเร็ว" โอว์! ความรู้ใหม่ น่าน มีเขตพระราชฐานด้วย ค้างคาใจผมมาก สอบถามรายละเอียดจากชาวน่าน ได้คำตอบว่า.... "ชื่อพระตำหนักธงน้อย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี " อยู่ริมแม่น้ำน่าน รายละเอียดมากกว่านี้ ไม่นำเสนอนะครับ มิบังควร... . . . ๔...พระบิณฑบาตร... เห็นพระออกเดินบิณฑบาตรโปรดสรรพสัตว์คราใด ให้นึกถึงวันเวลาที่ผมบวชเป็นพระ ๑ พรรษา การออกเดินในทุก ๆ เช้า จะได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน เดินก้าวย่างไปด้วยจิตใจที่สงบ มองไปข้างหน้าไม่เกิน ๓ ก้าว เดินด้วยอาการสงบ วินัยสงฆ์เกี่ยวกับการเดินบิณฑบาตรมีละเอียดยิบ อย่าเผลอใจเชียวนะ เป็นอาบัติทันทีเชียวแหละ.. . . . ๕...เก็บยอดผักจิ้มน้ำพริก... ชาวเมืองจะปรุงอาหารแต่ละมื้อแต่ละจาน ต้องไปเดินตลาดซื้อหาสิ่งต่าง ๆ มาให้ครบถ้วน จึงจะปรุงอาหาร แต่ชาวบ้าน ตื่นเช้าหุงข้าวไว้อย่างเดียว และเดินออกไปในสวนข้างบ้าน หันซ้ายทีขวาที จะได้อาหารมาเต็มกำมือ เพียงพอกับการรับประทานใน ๑ มื้อ คุณน้าคนนี้ โปรยยิ้มให้ผมและยกผักในมือในมือให้ดู แล้วบอกว่า "ผัดกับน้ำมันร้อน ๆ จิ้มน้ำพริกอร่อยจ้าพ่อหนุ่ม" . . . ๖...ยิ้มคุณยาย... คนเฒ่าคนแก่ ส่วนใหญ่จะปลงตกในเรื่องราวของชีวิต ไม่มีอะไรนำมาคิดมาก หรือนำมาแบกไว้ในจิตใจ คุณยายท่านนี้ มีบ้านอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านที่ผมไปพักอาศัย ผมเจอคุณยายทุก ๆ เช้า คุณยายจะเดินมาดูคนแปลกหน้าที่มาเที่ยวในหมู่บ้าน เดินมาส่งยิ้มเฉย ๆ แล้วเดินกลับ . . . ๗...สักวันหนึ่ง ผมจะเป็นเช่นนั้น... คุณตาอีกท่านหนึ่ง อยู่คนเดียวในบ้านซอมซ่อ หูหนวก ตาเป็นต้อมองอะไรไม่ชัดเจน ผมไปนั่งคุยกับคุณตาทุกวัน คุยภาษามือ ชี้โบ้ชี้เบ้ไปเรื่อย มีแต่เสียงหัวเราะ ฮ่า..ฮา...สนุกสนาน ผมขอถ่ายรูปคู่ คุณตายิ้มด้วยไมตรี เมื่อมานั่งดูรูป ผมก็ปลงตกว่า สักวันหนึ่งอีกไม่นานผมจะเป็นแบบคุณตานี่แหละ... . . . ๘...สันเขา... สันเขาเมืองน่านวันนี้ มีถนนตัดผ่านเป็นถนนลอยฟ้า ผมยืนมองแล้วรู้สึกทึ่งในการออกแบบถนนของนายช่างกรมทาง เขามีฝีมือและมีความสามารถสูงที่จะทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างสะดวกสบาย แต่ก่อนที่จะเป็นเช่นนี้ ผมได้ยินเสียงเพลง"น้ำตาคลอ" ของสุเทพ แว่วเบา ๆ เข้ามาในโสตประสาท "ฉันสู้ถากถางสร้างทางทำไม? ฉันสร้างเพื่อใคร? ก็ใครเป็นแรงผลักดัน? นอกจากแรงใจที่ให้กับฉัน ยังร่วมกันฝัน สร้างสรรค์สื่อปรารถนา" . . . ๙...หมากร้อยพวง... เช้าวันหนึ่ง ผมเดินเข้าไปที่ตลาดปัว เดินหาภาพแปลก ๆ เพื่อถ่ายรูป ได้เห็น "หมากร้อยพวง" ซึ่งไม่มีให้เห็นทางปักษ์ใต้หรือภาคกลาง ชาวไทยเหนือหรืออีสาน นิยมนำผลของหมากมาผ่าซีก แล้วเสียบร้อยด้วยปอหรือด้าย ผูกเป็นพวง เพื่อสะดวกในการจัดเก็บ ก่อนจะนำไปตากแห้ง ในแต่ละพวงจะมีหมากนับร้อย ๆ ชิ้น นอกจากจะนำมารับประทานแล้ว เขายังนำหมากร้อยเหล่านี้ มาเป็นส่วนสำคัญในพิธีกรรมหลายอย่าง . . . ๑๐...เสาไฟจราจร... ผมผ่านไปบ้านเมืองใดก็ตาม ผมชอบมองหาป้ายชื่อบอกถนน หรือโคมไฟฟ้าริมถนน แต่ละท้องถิ่นจะสร้างไม่เหมือนกัน แล้วแต่การออกแบบและงบประมาณที่มีอยู่ ในตัวจังหวัดน่าน ผมได้เห็นเสาสำหรับแขวนสัญญาณไฟจราจรเป็นรูปเรือยาว ซึ่งมีประวัติว่า... ไม่เป็นที่ปรากฏแน่ชัดว่าเจ้าผู้ครองนครน่านพระองค์ใด มีรับสั่งให้บรรดาเสนาอามาตย์ทหารข้าราชบริพาร ไปตัดต้นตะเคียนที่ป่าขุนสมุน (ป่าต้นน้ำอยู่ห่างจากอำเภอเมืองน่านในปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ ๓๐ กม.) เป็นต้นไม้ตะเคียนที่มีขนาดใหญ่มาก ใหญ่ขนาดที่ว่าตอไม้ที่เหลือกว้างจนสามารถนำขันโตก มาตั้งได้ถึง ๑๐๐ โตก แล้วให้ทหารลากออกมาที่ริมแม่น้ำน่าน รอยลากทำให้เกิดแม่แม่น้ำสมุน (แม่น้ำสาขาของแม่น้ำน่าน) และให้น้ำไม้ตะเคียนมาขุดตกแต่งเป็นเรือแข่งเมืองน่าน ๒ ลำตั้งชื่อว่า "เรือท้ายหล้า-ตาตอง" ให้คนเมืองน่านได้ใช้เป็นรูปแบบในการขุดเรือ เพื่อใช้ในการแข่งขันเรือให้เป็นประเพณีเพื่อบ่มเพาะความรัก ความสามัคคี เสริมสร้างจิตใจให้มั่นคง รู้แพ้ รูชนะ รู้อภัย ให้กับลูกหลานเมืองน่าน ตราบจนถึงปัจจุบัน . . . ๑๑...กว่าง..นักสู้แห่งขุนเขา... ก่อนจะถึงตัวอำเภอปัว เทศบาลได้จัดทำป้ายต้อนรับไว้สวยงาม เป็นรูปตัวกว่าง "กว่าง" เป็นชื่อเรียกด้วงปีกแข็งชนิดหนึ่ง มี 6 ขา มีทั้งชนิดมีเขาและไม่มีเขา ชอบกินน้ำหวานจากอ้อย มีวงจรอายุหนึ่งปี เริ่มจากระยะที่เป็นตัวหนอน หรือด้วงจะมีสีขาว อาศัยอยู่ในดิน กินเศษใบไม้ผุ ตอไม้หรือต้นไม้ที่ผุ ซึ่งนับเป็นการช่วยธรรมชาติในการช่วยย่อยสลายใบไม้กลายเป็นปุ๋ยให้ดินเป็นอย่างดี ต่อมา เจริญเติบโตกลายเป็นดักแด้ และด้วงกว่างเต็มวัยที่พร้อมสืบพันธ์ได้ จากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนและดินอ่อน ด้วงกว่างที่เจริญเติบโตเต็มที่ก็จะดันดินออกมาสู่โลกภายนอก เพื่อหาแหล่งอาหารใหม่ และผสมพันธุ์ กว่างจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงตัวเมีย ที่เรียกกันว่า การชนกว่าง และฝ่ายที่ชนะก็จะได้ผสมพันธุ์กับตัวเมีย นับเป็นการคัดเลือกสายพันธุ์โดยธรรมชาติอย่างแท้จริง ซึ่งจากธรรมชาติเช่นนี้ จึงเป็นที่มาของกิจกรรมชนกว่างของชาวบ้านในภาคเหนือในช่วงว่างเว้นหลังจากปลูกนา จังหวัดน่าน ถือได้ว่ามีกว่างเป็นจำนวนมาก แต่ไปน่านทริปนี้ ผมไม่ได้ชมการต่อสู้ของนักสู้แห่งขุนเขา เสียดายมากครับ . . . ๑๒...ผูกข้อมือรับขวัญ... ก่อนจะกลับบางพลี ๑ วัน ผมได้รับเมตตาจากคุณยาย ญาติของเจ้าของบ้านที่ผมไปพักอาศัย ผูกข้อมือรับขวัญ เป็นการผูกข้อมือด้วยด้ายสีขาวแบบง่าย ๆ ไม่มีพิธีรีตรองอย่างใด นอกจากขณะที่ผูกข้อมือ คุณยายกล่าวคำให้พรเป็นภาษาบาลี แปลได้ว่า ให้อายุมั่นขวัญยืน ให้มีความสุข ประมาณนั้น นั่นคือสิ่งร้อยรัดดวงใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างผมจดจำเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในเมืองน่านได้อย่างมิรู้ลืม . . . ๑๓...พระธุดงค์ เดินภูเขา... ในขณะที่นักท่องเที่ยว นั่งรถผ่านไปตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็วนั้น มีนักท่องเที่ยวในวัฎฏะสงสาร จำนวนหนึ่ง เดินช้า ๆ ไปตามสถานที่ต่าง ๆ "วัฎฎะสงสาร" หมายถึง การวนเวียนเป็นวงกลม ซึ่งหมายถึงการที่จิตของคนวนเวียนอยู่ในอาการทั้ง ๓ อันได้แก่ "กิเลสวัฏฏะ" วนอยู่ในกิเลส... "กรรมวัฏฏะ" วนอยู่ในกรรม... "วิบากวัฏฏะ" วนอยู่ในวิบาก นั่งรถเร็ว ๆ มองไม่เห็นกิเลส มองไม่เห็นกรรม มองไม่เห็นวิบาก หรอกครับ ต้องเดินอย่างช้า ๆ วัฎฎะสงสารจะผุดขึ้นมาให้เราเห็นอย่างชัดเจนในแต่ละย่างก้าว . . . "เก็บตกจากน่าน" ครั้งนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ผมได้เห็น ให้ผมได้พิจารณา เห็นแล้ว พิจารณาแล้ว พบว่า แต่ละเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้น ไม่มีเรื่องใด ไม่มีสิ่งใด ที่ควรจะยึดมั่นถือมั่น ยิ่งยึดมั่นถือมั่นมากเท่าไหร่ ก็จะมีทุกข์มากเท่านั้น ดู "นังดอกไม้" เป็นตัวอย่างเถิด.... .
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |