สวัสดีปีใหม่ค่ะ หลายท่านคงสนุกสนานกับการไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดในวันหยุดปีใหม่ยาว เริ่มกลับมาทำงานกันในปีใหม่ พศ. ใหม่ กันแล้วนะคะ ส่วนตัวเอง ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ไหน เหมือนทุกๆปี ก็จะไม่ไปช่วงปีใหม่ เพราะไม่อยากไปเบียดเสียดกับผู้คน อีกทั้งก็มีเวลาเทียวในวันปกติที่คนทำงานกัน ในปีนี้ ค่อยข้างมีข้อจำกัดเรื่องเวลาซะอีก เพราะเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ก็ต้องทุ่มเทเป็นพิเศษ ทำให้ต้องเว้นวรรคกับการท่องเที่ยวแบบหลายๆวันในต่างจังหวัด แต่เรื่องของคนชอบเที่ยว ชอบสัมผัสสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต ชอบการถ่ายภาพ ก็อดที่จะหาเรื่องเที่ยวไม่ได้ วันที่ 5 มกราคม ดิฉันจึงได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรม ท่องเที่ยววิถีถิ่น ที่ทางเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม ร่วมกับกองการท่องเที่ยว กทม. จัดครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 21 แล้วค่ะ ทำให้ความคิดที่ว่า การท่องเที่ยวใน กทม. เป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ นั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กทม. ของเรา ก็มีแหล่งท่องเที่ยว และเรียนรู้ที่น่าสนใจอีกมากเลยค่ะ แถมไม่ต้องไปไกล ไม่เสียเวลาเดินทาง และค่าใช้จ่ายมาก แต่ก็สนุกสนาน ได้ความรู้ใหม่ๆ เช่นกัน วันนี้ เราจะไปเที่ยวชมชุมชน บ้านบุ ตรอกข้าวเม่า และตลาดวัดทอง ในชื่อ " เที่ยวตลาด ชิมขนม ชมอดีต " ภาพจากเอนทรีนี้อาจจะไม่สวยสมใจนักนะคะ เนื่องจากต้องใช้กล้องคอมแพค เพราะมือใช้ได้ข้างเดียว จับกล้อง DSLR ยังไม่ค่อยถนัดคะ จุดนัดพบแรก ที่ รพ. ศิริราชค่ะ งานนี้ได้ คุณหมอ สรรใจ มาให้ความรู้เกี่ยวกับ รพ. ศิริราช และพระบรมราชชนก อย่างจุใจ ทำให้ทราบถึงพระอัจฉริยะของพระองค์ ที่ทรงศึกษาเก่งในทางการแพทย์ และ ยังทรงเก่งในด้านศิลปะ เสียดายที่พระองค์อายุสั้น ไม่เช่นนั้นคงนำความเจริญทางการแพทย์ให้ประเทศชาติได้อีกมากมาย แม้พระองค์จะสิ้นไปแล้ว ก็ยังทิ้งมรดกให้แก่ศิริราช เช่น เงินมรดกมาสร้างตึก และ เป็นทุนการศึกษาให้แพทย์รุ่นใหม่ และกลุ่มพวกเรากว่า 50 ท่าน ไม่ลืมจะถวายความเคารพ ไปยังสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพักรักษาพระวรกายอยู่ เดินออกจากศิริราช มายังวัดอมรินทราราม วรวิหาร ทะลุวัดไปยังถนนเลียบคลองบางกอกน้อย ในกลุ่มนอกจากมี คนขี่จักรยานอยู่หลายท่าน ยังมีชาวต่างชาติ ผู้สูงวัย และคนพืการนั่งรถเข็นร่วมขบวนด้วย แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวชมแต่อย่างใด ผ่านศาลเจ้าแม่ทับทิม แวะพัก ช้อป ที่ Golden Place จอดจักรยานกันเรียบร้อย ผ่านวัดฉิมทายกาวาส คนสมัยก่อนที่มีฐานะ มักจะนำเงินมาสร้างวัด แต่คนปัจจุบัน มักจะนำเงินมาสร้างบ้านหลังโต เดินเลี้ยวมาทาง ถนนสุทธาวาส กำลังจะเข้าไปชุมชน บ้านข้าวเม่า จะไปดูชุมชนทำขนมไทย สิ่งที่ขาดไม่ได้ของขนมไทย คือกะทิ เราจึงพบร้านที่คั้นน้ำกะทิจากมะพร้าว อยู่ใกล้ๆ เรียกกันว่าอะไรคะ เราเรียกว่า จาวมะพร้าว อยู่ในลูกมะพร้าว ใช้ทานได้ แต่ทานยังไงนะ นึกไม่ออก มาถึงชุมชนบ้านข้าวเม่าแล้วค่ะ ชาวบ้านออกมาต้อนรับ ทางเข้าเป็นตรอกแคบๆ อยู่หลังวัด ไม่น่าเชื่อว่าจะมีชุมชนโบราณตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์อยู่ คือชุมชนนี้ทำข้าวเม่ามาแต่ยุคอยุธยา และเดิมก็คือเสบียงของทัพที่มาตั้งกรุงใหม่ที่กรุงเทพนี่เอง จึงมาตั้งชุมชนติดคลองบางกอกน้อย ซึ่งเดิมคือแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อสะดวกในการลำเลียงข้าวที่จะกวนข้าวเม่านั่นเอง วันที่เรามา เป็นวันทำบุญกระดูกบรรพบุรุษของชุมชนพอดี คือ วันเสาร์แรกของปี ของถวายพระสงฆ์ค่ะ พอดีพวกเรามาก่อนพระนิดหน่อย คุณอนุชา เกื้อจรูญ ปราชญ์ชาวบ้าน เล่าที่มาของชุมชน และประวัติของบ้านข้าวเม่า พร้อมกับสาธิตการทำข้าวเม่าหมี่ แสนอร่อย เสียดายที่ปัจจุบัน ชุมชนนี้ไม่มีการทำข้าวเม่าหมี่ แล้วนะคะ เพราะหมดความนิยมในการทานไป คนรุ่นใหม่จึงไม่มีโอกาสได้ทานขนมโบราณชนิดนี้ มีเพียงการสาธิตเป็นครั้งคราว และในงานพิธีสำคัญของปี อย่างตรุษไทย สงกรานต์ เท่านั้นคะ กวนกันกลางวง กินกันทันที แต่เขาบอกว่าให้อร่อย ต้องปล่อยให้เย็นหน่อย จะได้กรอบอร่อยขึ้นอีกคะ แบ่งเสริฟ ดิฉันได้มา 1 กระทง หวาน กรอบ เค็ม มัน ครบรส อร่อย ใครทานไม่สะใจ ซื้อเพิ่มไปทานได้ มีทั้งข้าวเม่าหมี่ กาละแม และกระยาสารท จากนั้นก็แวะมาชม พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ที่ชาวบ้านร่วมกันทำ ภายในบริเวณวัดสุทธาวาส เนื่องจากมีรายละเอียดที่น่าสนใจในนี้มากมาย จึงขอแยกไปเอนทรีหน้า ที่จะกล่าวถึงรายละเอียดด้านใน นะคะ เราเดินต่อไป จุดหมายวัดทอง หรือ วัดสุวรรณาราม คะ แต่ผ่านคลองที่มีป้ายน่าชมแบบนี้ จึงแวะถ่ายภาพมาให้ชมกันคะ มาถึงวัดทองแล้วค่ะ วัดที่มีการบูรณะสมัย ร. 1 มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายในวัดนี้ ลองตามเข้ามาดูกันคะ แวะมาคุยเรื่องสวดมนต์ข้ามปี ปีนี้ดิฉัน ก็มีโอกาสได้สวดมนต์ข้ามปีที่บ้านเกิดด้วยค่ะ เป็นประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างหนึ่งในชีวิต เด็กๆ มารับพวกเราหน้าประตูวัด ที่วัดนี้ ผู้คนมีักจะมาบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันคะ มักจะแก้บนด้วยการวิ่งม้า เมื่อต้องแก้บนบางคนอาจจะวิ่งไม่ไหว จึงมีการจ้างม้าวิ่งแทน เช่นบนไว้ 9 รอบ อาจจะจ้างม้า 3 ตัว คือม้า 1 ตัวจะวิ่ง 3 รอบคะ วันนี้เด็ก มาแสดงแทนเป็นม้าวิ่ง ให้พวกเราชมกัน รอบแรกม้าก็ยังคึก พอรอบหลังก็เริ่มแผ่วกันคะ น่าสงสาร เลยได้ค่าสงสารไปเป็นค่าขนมอยู่พอควร พวกเราเข้ามาชมภายในอุโบสถ สัมผัสแรกได้ชื่นชม พระประธานรูปงาม องค์ใหญ่ ที่เป็นพระพุทธรูปยุคกรุงสุโขทัย ถูกอัญเชิญมาประดิษฐ์บานที่อุโบสถแห่งนี้ ผุ้รู้มาบรรยายให้ฟัง เรื่องที่น่าสนใจของวัดนี้ เสียดายที่ไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้ทั้งหมด พอคร่าวๆ ว่า ลักษณะจิตรกรรมฝาผนังของที่นี่ ถือว่าเป็นหนึ่งในสยาม ที่นักเรียนศิลปะไทยต้องมาศึกษากัน ด้านหลังพระประธาน จะเป็น ภาพไตรภูมิ จะเห็นทั้งโลกและสวรรค์ ในภาพจะเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาโปรดพระมารดา โดยการเทศพระอภิธรรมแด่พระมารดา ถึง 7 วัน 7 คืน ด้านข้างทั้งสองด้าน เป็นภาพ เทพชุมนุม ด้านหน้าพระประธาน จะเป็นภาพวาดตอนพระพุทธองค์พิชิตมาร ภาพก่อนปราบจะเห็นทางขวามือ พวกพญามารยกทัพมาขัดขวางการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ตรงกลางเป็น แม่พระธรณีบีบมวยผม ด้านซ้าย พวกมารถูกปราบ จมน้ำกันไปหมด บริเวณรอบระหว่างบานหน้าต่าง ที่ถือว่าเป็นสุดยอดงานฝีมือช่างวาดภาพจิตรกรรม เป็นภาพชาดก และทศชาติ ซึ่งมีอยู่ 2 ภาพที่ถือว่าสุดยอด ภาพนี้เป็นภาพของ ช่างจีน หลวงเสนีย์บริรักษ์ (ครูคงแป๊ะ) ที่ใช้พู่กันปลายแหลมมาก เขียนสีหน้าได้อย่างมากมายหลายอารมณ์ ประชันกับ หลวงวิจิตรเจษฎา (ครูทองอยู่) ซึ่งเขียน ภาพเรื่องทศชาติตอนเนมีราชชาดก
ส่วนจิตรกรรมภาพอื่นๆ ก็งดงามไม่แพ้กัน นับเป็นศิลปไทย ที่ควรค่าแก่การชม และรักษาไว้ตราบนานเท่านานคะ ออกจากวัดทอง เราก็เดินเลียบคลองบางกอกน้อย ไปดูตลาดเก่ากันคะ รวมถึงไปแวะทานข้าวกลางวันกันด้วย แค่ครึ่งวัน สามารถเที่ยวได้หลายที่ แถมได้ความรู้แบบรับไม่หมด จดเข้าคอมพิวเตอร์สมองไม่ทันคะ ตลาดวัดทอง เป็นตลาดเก่าแก่ ที่ได้ตายไปแล้วนะคะ แต่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ไม่ได้มีการขายทุกวันอย่างที่เห็นนี่ เรียกว่า มีงานทีก็จัดขายกันสักครั้ง หน้าตลาดสุวรรณาราม หรือ ตลาดวัดทอง หันไปทางแม่น้ำ หรือ คลองบางกอกน้อย โครงสร้างตลาดดั้งเดิมยังคงอยู่ ทำจากไม้เป็นหลังคาโค้ง ระบายอากาศร้อนได้ดี แถมออกแบบได้โดยไม่ต้องใช้เสากลาง วันนี้ตลาดคึกคักมาก มีั้ทั้งของเล่น ของกิน ขนม หลากหลาย ในภาพ ขนมบัวลอย ขนมเรไร สีสวย น้ำกะทิ เสียดายที่ติดธุระ ไม่สามารถอยู่ได้จนจบโปรแกรม เลยไม่ได้ชม ชุมชนบ้านบุ แหล่งทำขันลงหิน แห่งเดียวในไทย และหัวรถจักรโบราญ สถานีบางกอกน้อย สุสานโกโบริ ในนิยายชื่อดัง คู่กรรม ของทมยันตี แต่ยังมีอีกหลายโอกาสที่เครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาชนจะจัดอีกนะคะ โปรแกรม 12-13 มกราคม เดินเที่ยวบางลำพู จุดนัด ป้อมสันติชัยปราการ เวลา 15.00 น. งานนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย สนใจติดต่อ คุณศิริวรรณ 083-0443203 โปรแกรมเดือนกุมภาพันธุ์ เดิน ล่องท่องพระนคร จัดโดย ชมรมคนรักพระนคร : มูลนิธิพัฒนาศักยภาพคน ร่วมกับ กองการท่องเที่ยว กทม. และคลื่นเอฟ.เอ็ม 100.5 (อสมท.) เดินเที่ยว คลองวัดตึก ชมแหล่งภูมิปัญญาวัดปทุมคงคาฯ ย่านการค้า ถนนทรงวาด ล่องข้ามแม่น้ำ ไปสวนสมเด็จย่า (ชุมชนวัดอนงคาราม )
โปรดติดตาม โปรแกรมได้ที่นี่ จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะคะ นิดนรี รายงาน
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
80'y Long Live the King | ||
![]() |
||
ความทรงจำฉลอง 60 ปีครองราชย์ |
||
View All ![]() |
<< | มกราคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |