*/
BrazilMiss | ||
![]() |
||
Miss flight in Brasil |
||
View All ![]() |
<< | กันยายน 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
ก่อนอื่นต้องขอถามว่าท่าน เคยเจอแบบนี้ไหม คนเสี่ยง ไม่ได้ป้องกัน คนป้องกัน ไม่ได้เสี่ยง คนซื้อยา ไม่ได้พ่น คนพ่นยา ไม่ได้ผสม คนพ่นยา ไม่ได้เรียน คนเรียน ไม่ได้พ่น คนสั่ง ไม่ใช่นาย คนเป็นนาย ไม่ได้สั่ง คนมีงบ(ประมาณ) ไม่รู้เรื่อง คนรู้เรื่อง ไม่มีงบ คนพ่นยา ไม่ได้แจ้ง คนแจ้ง ไม่ได้พ่น ยุงลายสวน ไม่ได้อยู่ไกลบ้าน ยุงลายบ้าน ไม่ได้อยู่ไกลสวน นอนกางมุ้งกันยุงกัด ยุงดันกัดตอนไม่ได้กางมุ้ง คนรู้ สอนภาษาเทพ คนเรียน รู้ภาษาคน ข้าน้อยมิบังอาจยียวนพี่ท่าน จะขอนำเรียนข้อข้องใจแต่ละประการบัดเดี๋ยวนี้ คนเสี่ยง ไม่ได้ป้องกัน คนป้องกัน ไม่ได้เสี่ยง ในมุมมองของพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายทั้งหลาย พอเอ่ยถึงไข้เลือดออก มักจะได้รับคำถาม (ไม่ใช่คำตอบ) ว่า เมื่อไหร่หมอจะมาพ่นยาซะที คือรอให้เป็นหน้าที่ของทางการไม่ใช่ปัญหาของตน เนื่องจากเราไม่สามารถฆ่ายุงได้ทั้งหมด การรบศึกนี้ พ่อแม่พี่น้องต้องถือว่าเป็นปัญหาของเรา จึ่งต้องร่วมกันป้องกันตนเองควบคู่กับการประหัตประหารศัตรูด้วย เจ้าฆ่าศึกชาติพันธุ์นี้มันอึดมีรัศมีการบินไกล ดังนั้นต้องปกป้องบ้านตนและบ้านสหายด้วย เพื่อนบ้านอ่อนแอแล้วเราจะอยู่ได้อย่างไรกัน คนซื้อยา ไม่ได้พ่น คนพ่นยา ไม่ได้ผสม การพ่นยาหมอกควันขาว ๆ ที่เห็น ๆ ในโทรทัศน์นั้น ส่วนใหญ่จะสื่อออกมาผิด หนำซ้ำนักวิชาการยังไปโทษนักข่าวอีกว่าเขาจัดท่าทางสร้างภาพออกข่าว แทนที่จะแนะนำสิ่งที่ถูกให้เข้าใจเผยแพร่ ชาวบ้านเห็นในสื่อ ก็ไปบอกคนพ่นยาถูกว่าพ่นผิดเพราะไม่เหมือนในทีวี เมื่อทราบว่ามีผู้ป่วยอยู่บ้านใด ให้รีบยกพลบุกทันทีในวันนั้น เนื่องจากกว่าจะรู้ผู้ป่วยมักจะแพร่เชื้อไปแล้ว ต้องรีบควบคุมป้องกันทันที การพ่นยาฆ่ายุงตัวแก่นั้นทำได้ 2 วิธีหลัก ๆ คือ แบบมีควันกับไม่มีควัน ขึ้นกับงบประมาณและภูมิประเทศ หรือพูดง่าย ๆ ว่า มันมีฮวงจุ้ยของมันอยู่นะ ตั้งแต่การเปิดบ้านรับยาและปิดบ้านเพื่ออบยาไว้ในบ้าน ดูทิศทางลมพัด พ่นใกล้บ้านไม่ใช่พ่นบนถนนร้อน ๆ เพราะคงไม่มียุงสิ้นคิดตัวไหนไปนอนอาบแดดอยู่ในที่อโคจรเช่นนั้น นอกจากยุงปีกหัก ทั้งนี้เวลาพ่นยังต้องมีฤกษ์งามยามดีเสมือนออกรบด้วย ไม่ใช่ตอนกลางวันที่แดดเปรี้ยง ๆ ออกไปพ่นปะเลง ๆ เพราะยาจะถูกทำลายให้ฤทธิ์อ่อนลง ยุทธวิธีถัดไปคือ คนล้มให้ข้าม (ดูนิสัยแย่อย่างไรไม่รู้) คือต้องยกทัพกระหน่ำตีซ้ำอีก 3 วัน 7 วัน 14 วัน เพราะเจ้าลูกน้ำทายาทข้าศึกชาติพันธุ์นี้มันโตเร็วมาก ยิ่งเจอภาวะโรคร้อนยิ่งแก่แดด เหมือนเด็กไทยสมัยนี้ ชักสงสัยตงิดตงิดว่าแสงไฟฟ้าทำให้เด็กไทยโตไวเหมือนผักตบหรือเปล่า คนมีงบ(ประมาณ) ไม่รู้เรื่อง คนรู้เรื่อง ไม่มีงบ นี่ก็เล่นเอางงอยู่ รัฐบาลถ่ายโอนอำนาจการบริหารจัดการแก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต) ซึ่งมีงบประมาณและถนัดด้านก่อสร้างถนนหนทางตึกรามบ้านช่อง แต่มิเชี่ยวชาญด้านสุขภาพ อีกทั้ง โครงสร้าง ตำแหน่งต่าง ๆ ของเหล่าเสนา ขุนศึก หามีหมอหลวงหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไม่ บางที่งบประมาณหมดตั้งแต่เดือนมีนาคม เสบียงกรังไม่มีแล้วจะสู้ศึกได้เช่นไร กรณีโรคระบาดต้องออกรบแบบฉุกเฉิน เบิกจ่ายจากคลังหลวงกว่าจะได้ แม่ยุงก็ออกลูกออกหลานกระจายกองกำลังไปตามหัวเมืองต่าง ๆ อย่างคับคั่ง ยากนักที่จะต้านทานไหว คนสั่ง ไม่ใช่นาย คนเป็นนาย ไม่ได้สั่ง เมื่อมีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่บางแห่งจะรีบแจ้งแก่ขุนศึกหัวเมืองอบต./เทศบาลทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ แทนการใช้ม้าเร็ว หารู้ไม่ว่าพลทหารแห่งอบต./เทศบาล มิใช้อีแมวอีเมล์อะไรนั่นดอก ส่วนหนังสือราชการถ้าไม่ติดวันหยุดก็จะไปอยู่ในตะกร้ารับสารของขุนศึกที่ไม่ได้มีหน้าที่พ่นยา พลทหารพ่นยาก็คือเจ้าหน้าที่ อบต หรือเทศบาล บางคนควงหลายงาน กว่าจะขับรถเก็บขยะภายในพระนครเสร็จ จึ่งมาเบิกจ่ายอุปกรณ์และสารเคมีที่ต้องผสม ครั้นออกกรีฑาทัพก็สายแดดเปรี้ยงผิดฤกษ์งามยามดี บางที่ก็ให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ซึ่งไม่ใช่พลทหารในสังกัดแต่ขึ้นกับโรงพยาบาลไปพ่น ซึ่งชื่อก็บอกอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นอาสาสมัครทำงานด้วยใจเสียสละ ไม่ได้ทำงานประจำ ยิ่งหน้าฝนที่ไข้เลือดออกมักระบาดก็เป็นฤดูกาลแห่งการทำนาด้วย ใคร ๆ ก็ต้องคิดถึงปากท้องไว้ก่อน นักรบที่มีกำลังแบกเครื่องมือรบทั้งร้อนทั้งดังทั้งหนักราว 13 - 18 กิโลกรัม เดินเป็นกิโลกิโลได้ คงไม่ใช้ชายแก่หรือแม่หญิงเป็นแน่แท้ ดังนั้นถ้าหมู่บ้านใดมีนักรบ อสม. ชายฉกรรจ์น้อย ก็เป็นที่หนักใจแก่แม่ทัพนายกองยิ่งนัก ควรหาเครื่องมือรบน้ำหนักเบา ดูแลง่ายและถูกมาใช้ (มีขุนศึกหัวเมืองอื่นสร้างนวตกรรมไว้) ชายแก่แลแม่หญิงจะได้ออกช่วยรบได้ คนพ่นยา ไม่ได้แจ้ง คนแจ้ง ไม่ได้พ่น ก่อนออกไปพ่นก็ต้องป่าวประกาศให้พ่อแม่พี่น้องประชาชีทราบว่าทหารกล้าจะออกไปรบทัพจับยุงแล้วนะ คนแจ้งคือพ่อหลวงผู้ใหญ่บ้าน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ ไพร่ฟ้าประชาชีไม่ได้เปิดบ้านรับยาแล้วปิดบ้านเพื่ออบยา ข้าน้อยเคยส่งทหารกล้านักศึกษาแพทย์ไปซุ่มดู เห็นวิ่งกันเตลิดเปิดเปิงออกจากบ้านเรือนก็มี ยิ่งบ้านไหนมีผู้เฒ่าชเลแก่ชรากับเด็กน้อยก็ยิ่งมีปัญหาในสนามรบ รวมถึงบ้านให้เช่า บ้านหมาดุ และบ้านหลายชั้นด้วย ต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านดี ๆ คนพ่นยา ไม่ได้เรียน คนเรียน ไม่ได้พ่น น่าเห็นใจคนพ่นนะ เพราะบางคนก็เป็นทหารรับจ้างมา ยิ่งในช่วงระบาดหนักงานล้นมือ จึ่งรู้แต่วิธีเปิดปิดเครื่อง หาได้มีเวลาฝึกปรือเพลงยุทธ์เทคนิคอันใดไม่ ควงกระบี่ออกไปแต่ไร้ท่วงท่า ส่วนผู้ที่ร่ำเรียนมาบางท่านก็โยกย้ายไปกินตำแหน่งตามหัวเมืองอื่น บางท่านก็เป็น ครู ฮ มิใช่ ครู ก คือ ฮ นกฮูก สอนต่อไม่ได้ ตูเข้าใจแต่ผู้เดียว ดังนั้นควรฝึกทหารแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่ข้าศึกจะมาประชิดเมือง
ยุงลายสวน ไม่ได้อยู่ไกลบ้าน ยุงลายบ้าน ไม่ได้อยู่ไกลสวน การที่พวกหมอแมงมาบอกชนิดของยุงที่เป็นพาหะนำโรคว่าเป็นยุงลายสวนมากกว่าเป็นยุงลายบ้านนั้น (Aedes aegypt และ Aedes albopictus) ก็สร้างความสับสนแก่ประชาราษฎร์ตาดำ ๆ เพราะ ชะล่าใจคิดว่าเจ้าข้าศึกอยู่ไกลหลายลี้หามีภัยไม่ อันที่จริงมันก็แอบซุ่มอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้ประชิดศึกอยู่ใกล้บ้านนั่นแหละ แถมแม่ยุงก็ไข่ระเบิดเถิดเทิงไม่เลือกที่ ขอให้มีน้ำขังนิ่ง ๆ สัก 6-7 วัน ไม่ว่าจะเป็นที่รองน้ำยาง กาบใบไม้ กะโหลก กะลา ยางรถยนต์ ตุ่มน้ำ อ่างน้ำในส้วม ขาตู้ แจกันใส่ดอกหรือที่แช่ตะไคร้ แม้นว่าน้ำแห้งไปแล้วเป็นปีอย่างเช่นยางรถยนต์ ไข่มันก็ทนทานเหลือใจเพราะเป็นทายาทข้าศึกขั้นเทพ สามารถออกมามีชีพไล่ล่าประชาชีได้ มันเลวแต่กำเนิดเพราะท่านแม่ถ่ายทอดเชื้อให้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ดังนั้นพาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดมิให้ฆ่าศึกใช้เป็นที่มั่นซุ่มโจมตีเด็ดขาด คอยช้อนลูกน้ำออกจากตุ่มอ่างน้ำในส้วม จะได้ไม่ต้องถ่ายไปแก่วงไกวกระบี่สู้ฆ่าศึกไป ทั้งเหม็นทั้งเหนื่อย อาจเลอะอีกต่างหาก อ้อ...ก้นลายไม่สวยด้วย นอนกางมุ้งกันยุงกัด แต่ยุงดันกัดตอนไม่ได้กางมุ้ง นี่ก็เข้าใจกันไม่ค่อยถูกต้องนัก หนำซ้ำระยะหลัง ๆ ยังมีสื่อประชาสัมพันธ์ออกมาหลายรูปแบบเกี่ยวกับมุ้งนาโน ไม่ รู้เขารู้เรา จะรบศึกชนะได้เช่นไร ข้อความนี้เหมาะกับยุงก้นปล่องฆ่าศึกสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคมาเลเลีย (Anopheles) เพราะมันมักจะโจมตีเหยื่อตอนกลางคืน สำหรับเจ้ายุงลายนั้น มันออกหากินกลางวันโดยเฉพาะหัวรุ่งหรือพลบค่ำ แล้วคนบ้าที่ไหนจะแบกมุงไปกางคุยกันตามบ้านสหาย หรือเรือกสวนสวนไร่นา หรือตอนกรีดยางเล่า ยิ่งบ้านเมืองทันสมัยมีมุ้งลวดก็ยิ่งไปกันใหญ่ โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้ป่วย เจ้ายุงลายก็กัดดูดเชื้อโรคเพาะเลี้ยงจนเติบใหญ่ไปกัดปล่อยให้คนถัดไป อันที่จริงต้องพยายามใส่เสื้อผ้าที่คลุมผิวกายให้มากและหนามากพอที่ปากยุงแทงทะลุไม่ถึงผิว แต่เมืองไทยร้อนตับแตกก็ใช้ยาทากันยุงกัด ซึ่งต้องมีสารเคมีอันตรายไม่เกินมาตรฐาน แต่ถ้าทนยาทาไม่ได้ ก็ต้องใช้ยากันยุง พัดลม หรืออยู่ในที่อากาศโปร่งโล่งลมพัด ต้องกำจัดยุงและลูกน้ำให้ได้มากที่สุด ให้ธรรมชาติจัดการกันเองก็ได้สำหรับผู้ไม่ยอมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เลี้ยงปลาที่กินลูกน้ำ หมั่นทำลายแหล่งเพาะพันธ์ยุง การพ่นยาก็ไปทำลายแมลงที่มีประโยชน์อื่น ๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่อาหารด้วย เพิ่มการดื้อยาอีกต่างหาก ยิ่งภาคใต้เขาเลี้ยงนกตัวเป็นแสนเอาไว้ขันแข่ง ไปพ่นยาซี้ซั้วมิได้ คนรู้ สอนภาษาเทพ คนเรียน รู้ภาษาคน นี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ พวกนักวิชาการขั้นเทพทั้งหลาย จะใช้ภาษาเทพกันประจำจนชาวบ้านประชาชีเหวอ แล้วก็บอกว่า สอนแล้ว แต่ไม่รู้เรื่อง ชาวบ้านหลายคนยังเข้าใจว่าให้ปิดบ้านเวลาพ่นยาแทนที่จะเปิดแล้วค่อยปิดอบยาทีหลัง ไอ้ที่ให้ปิดคือข้าวปลาอาหาร ทรายอะเบท ที่แจกให้ไปใส่น้ำใช้ก็ใส่ไม่เป็น ชาวบ้านกลัวสารเคมี แถมมีทรายเกลื่อนหม้อน้ำตุ่มไห ไม่ได้อรรถาธิบายว่าสารเคมีละลายหมดก็เอาทรายออกได้ไม่ให้สะเทือนใจ พอทรายอะเบทเริ่มหมดบางที่ก็นำไปห่อผ้าจุ่มน้ำยังกับชงชา แล้วก็เก็บไว้ใช้ต่อ หนำซ้ำทรายอะเบท บางเจ้ามีปริมาณสารเคมีก็ไม่เพียงพอซะอีก (Temephos 0.75) ออกข่าวกันโครม ๆ แต่อย่าผิดประเด็นเชียวนา ว่าไอ้ที่ระบาดอยู่ทั่วราชอานาจักรนั่นไซ้ เป็นเพราะทรายไม่ดี มิใช่ฝีมือแม่ทัพนายกองอย่างข้า ข้าน้อยเคยพาเทพลงพื้นที่บ่อย ๆ ลองมาดูตัวอย่างของจริงกันพอเป็นกระสาย อุจจาระร่วงเป็นมูกเลือด เทพเอ่ย ขี้ไหลจ๋นขี้มูกเป็นเลือด (ถ่ายจนเลือดกำเดาไหล) ลูกเด็กเล็กแดงขานรับ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เทพเอื้อน กิ๋นฮ้อนบะได้ เฮานึ่งข้าวตอนเจ้า ออกไปเยี๊ยะนาแล้วบะปิ๊กมาอุ่นดอก (ทานร้อนไม่ได้ เพราะนึ่งข้าวแต่เช้า ออกไปทำนาแล้วไม่กลับมาอุ่นข้าวอีก)ชาวบ้านค้าน จ้อนก๋าง เกาะใจ้โตยกั๋นกะ เอาไว้ตัดถ้วยแกง จะกิ๋นก็ตักฮีบ แล้วเอาไปไว้เป๋นของกลาง (ช้อนกลาง ใช้ร่วมกัน เอาไว้ตรงถ้วยแกง จะทานก็ตักซด แล้วเอาไปคืนไว้ตรงกลาง) ชาวบ้านเห็นด้วย เนื่องจากวิถีชีวิตชาวบ้านเปิบข้าวเหนียวแล้วมีกับข้าวร่วมกัน นาน ๆ จะมีช้อนสักที ลุงบอกว่าตั้งแต่มีไข้หวัดนกนี้ใช้ช้อนกลางมากขึ้นเวลามีงานวัด ใช้อย่างไรลุง ใส่เพิ่มตัดถ้วยแกง จะกิ๋นก็ตักฮีบ (ใส่เพิ่มตรงถ้วยแกง จะทานก็ตักซด) เหมือนเดิม......แฮะ ข้าน้อยมิได้มีเจตนาล่วงเกินผู้ใด เพียงแต่สะท้อนข้อมูลบางแง่มุมเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองบ้าง ไม่มากก็น้อย โปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ ท้ายนี้ขอขอบคุณรูปภาพจาก นศพ. เฉลิมพล ผลดีเจริญ นศพ. ปิยะพงษ์ กัญญา นศพ. รัชภูมิ เกตุแก้ว นศพ. วิศรุต พิริยะสงวนพงศ์ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |