*/
BrazilMiss | ||
![]() |
||
Miss flight in Brasil |
||
View All ![]() |
<< | ตุลาคม 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |
เป็นครั้ั้งแรกในชีวิตที่ได้มาเที่่ยวต่างประเทศโดยไม่ต้องทำงานเหมือนทุกที แต่กว่าจะลากสังขารมาได้ ก็ทำงานหัวฟูจนวินาทีสุดท้าย จึ่งมิได้เตรียมวางแผนเที่ยวไว้ดิบดีนัก ออกจากเชียงใหม่ด้วยเครื่องบินเที่ยวสุดท้ายไปเจอกับหมอเล็กเพื่อนร่วมเดินทางจากภูเก็ตซึ่งคว้าบัตรเบ่ง Swiss Saver Pass (ลดราคาถ้าซื้อตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป) มาได้เกือบวันสุดท้าย แล้วก็ไปตกลงแผนคร่าว ๆ กันที่สนามบินสุวรรณภูมิ จุดเริ่มการเดินทางแบบไม่น่าเชื่อก็เริ่มขึ้นเมื่อเท้าเหยียบแผ่นดินเมืองลูเซิร์น (Luzern) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เราเดินข้ามสะพานปูนที่ทอดเคียงข้างสะพานคาเป้ลล์ (Kapellbrucke) หรือสะพานโบสถ์เพราะอยู่ใกล้โบสถ์เซนต์ปีเตอร์มีภาพเขียนประวัติเมืองและนักบุญประดับอยู่ใต้หลังคา มันเคยถูกไฟไหม้ทิ้งรอยแผลไว้ ดูประหนึ่่งหญิงสาวสวมใส่ชุดราตรียาวทำด้วยดอกไม้หลากสีสรรประดับหมวกสีส้ม กรีดกรายอยู่บนเวทีเต้นรำที่ทำด้วยผืนน้ำสีเทา มีหมอกขาวเป็นฉาก และแผ่นฟ้าเป็นม่านอลังการ เมื่อเลี้ยวไปตามทางเดินหินโบราณเพื่อเข้าพักในโรงแรมเก่าแก่ชื่อดังริมน้ำ ก็โชคดีเจอ แผงผักผลไม้เพราะมาถึงวันมีตลาดนัดพอดี จึงต้องเบียดผู้คนที่มาหาซื้อข้าวปลาอาหาร เขาจัดเรียงนำเสนอสินค้าได้จูงใจมาก ไม่ว่าจะเป็นพริกสีแดงผักสีเขียวฟักท้องสีเหลืองบรรจุในตะกร้าใบเล็ก หอมหัวใหญ่กระเทียมมัดเป็นพวงยาวสลับสีม่วงขาว ดอกไม้หลากสีเป็นช่อ เนยแข็งก้อนกลมอวบเหลืองนวลบนเขียงไม้น้ำตาลในตู้กระจกใส พอเหลือบเห็นขนมนมเนยส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ก็ชักจะทนไม่ไหวฟาดสักรอบหนึ่งก่อนเอาแรง ในเมืองลูเซิร์น มีอนุสาวรีย์เลื่องชื่อ คือ อนุสาวรีย์สิงโตที่กำลังจะสิ้นใจแห่งลูเซิร์น (Lowendenkmal) เป็นรูปสลักสิงโตบนแผ่นหินธรรมชาติเพื่่อเป็นอนุสรณ์แด่ทหารกล้าที่พลีชีพในฝรั่งเศส นักเขียนชื่อดัง มาร์ก ทเวน พรรณนาว่าเป็น แผ่นหินที่น่าเศร้าสะเทือนใจที่สุดในโลก สระน้ำใต้หินผาและต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นทำให้ดึงอารมณ์ให้คล้อยตามเมื่อเห็นสิงโตที่ทอดกายนอนอ้อยสร้อยสุดห่อเหี่ยว ที่ทำให้เสียบรรยากาศก็คือพี่ไทยเราไปละเลงข้อความในห้องน้ำหญิงด่านักการเมืองนี่สิ ขากลับไปปล่อยแก่วิ่งเล่นปีนป่ายกำแพงเมืองมูเสกก์ Museggmauer ที่สร้างในศตวรรษที่ 14 ข้อดีของการเที่ยวเองไม่ไปกับทัวร์อาอึ่มที่มีวงโคจรของกิจกรรมซ้ำ ๆ (โบกธง ลงกิน ซื้อ โบกธง ลงกิน ซื้อ) คือ อยากไปไหนก็ไป อยากปรับแผนก็ปรับ และที่สำคัญสามารถไปเที่ยวในที่นักท่องเที่ยวทั่วไปมิเยี่ยมเยือนก็ได้ เราออกไปเมืองเล็ก ๆ ชื่อ Rapperswil อยู่ตอนเหนือ เที่ยวเมือง ชมปราสาท สูดบรรยากาศให้เต็มถุงลมปอด แวะข้ามสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศสวิสกลางทะเลสาบ (Holzbrücke) ไปเมือง Hurden มีความยาว 841 เมตร กว้าง 2.4 เมตร ทำด้วยไม้โอ๊ค โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 ละเลียดชมโบสถ์เก่าแก่ Heilig Hüsli บนเกาะกลางน้ำ แวะไปดูโบสถ์ใหญ่ Einsiedeln ที่สร้างแบบ Baronque รองน้ำมนต์มาดื่มแก้กระหาย แล้วนั่งรถไปเมืองท่าเล็ก ๆ (Brunnen) เพื่อล่องทะเลสาบกลับลูเซิร์น ขณะที่ลัดเลาะเข้าเมืองก็เจอเด็กผู้ชายอายุราวสิบขวบนั่งในรถเอานิ้วถ่างตาแซวแว่นตาลายน้ำตาลเขียวของฉันที่เพิ่งซื้อมาใหม่ เจ้าหนูนี่อยู่ในรัศมีที่ยังไม่เห็นตีนกาป้าจึงกล้าแซว ต้องลากมากะแตงเอวเสียให้เข็ด
ฉันยังถูกวัยรุ่นในตู้รถไฟที่สถานี Interlaken West ผลุบ ๆ โผล่ ๆ ส่งจูบให้ ขำก็ขำหมั่นไส้ก็หมั่นไส้ เจ้าหนุ่มน้อยนี่ก็เหมือนกัน ยังไม่รู้ว่า สาวน้อยร้อยเมตร ที่เห็นอายุแก่กว่าแม่ ถ้าเกี่ยวคอเข้ามาดูชัด ๆ แล้วจะหนาว ไม่แน่ใจว่าเป็นแว่นตาหรือกางเกงขาสั้น อย่างหลังคงลำบากเพราะน้องพยาบาลเคยบอกว่า
เวลาดูผู้หญิงใส่กางเกงขาสั้นแล้วดู sexy แต่เห็นของอาจารย์แล้วดู ... เซ็กเสื่อม . เรานั่งเรือดูทิวทัศน์สองฟากฝั่งทะเลสาบจนถึงลูเซิร์น ขณะเดินข้ามถนนเจอรถดับเพลิงวิ่งหูดับตับไหม้ปาดหน้าเข้าถนนสู่โรงแรมที่เราพัก ขนาดรถกะทัดรัดเหมือนรถสองแถวลากซาเล้งใส่สายยางฉีดน้ำปุเลง ๆ มา ฉันรีบสาวเท้าตามไปเจอรถดับเพลิงคันใหญ่จอดรออยู่แล้ว พนักงานดับเพลิงรีบลงจากรถ อ้าวเฮ๊ย มาแต่งตัวกันข้างถนนเพื่อจะไปดับเพลิง ตีความยากว่ารีบร้อนมากหรือใจเย็นสุดสุด แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จ ก็เข็นซาเล้งใส่สายยางฉีดน้ำเข้าซอยไป ****
*****
โชคดีที่ไม่ใช่โรงแรมที่พัก ไม่ถึงกับต้องเผ่นกลางดึกเหมือนตอนไปเมืองอลาสกา (
จากเมืองลูเซิร์นเรามุ่งสู่เมืองอินเทอร์ลาเคินเพื่อเทียวเมือง ฉันไม่มีเวลาศึกษาข้อมูลมากนักจึงไปหาเอาดาบหน้า ระหว่างรอรถเมล์ก็เจอครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ซึ่งจะไปเขายุงเฟราเช่นกัน จึงถามไถ่ได้ความว่าตอนเช้าให้ขึ้นวนทางด้านขวา ตอนบ่ายให้วนทางด้านซ้าย เราใช้บัตรขึ้นรถเมล์ฟรีที่โรงแรมให้มาเพื่อต่อรถไฟ ส่วนบัตรเบ่งของเราสามารถซื้อตั๋วรถไฟขึ้นเขาได้ครึ่งราคา คุ้มจริง ๆ อากาศบนเขาหนาวยะเยือก พื้นก็ลื่นด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่ละลายจากแรงเหยียบของผู้คนแล้วกลับมาแข็งตัวอีก แต่ภาพเทือกเขาสีม่วงทอดตัวยาวลดหลั่นเป็นชั้นชั้นที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตัดกับท้องฟ้าสดใสดึงดูดใจให้ถลาเข้าไป ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างดื่มด่ำ บ้างยืน บ้างนั่ง บ้างหงาย แต่ที่แปลกไม่เหมือนใคร คือแก้ผ้าเหลือแต่กางเกงในตัวเดียวของหนึ่งหญิงสองชายนี่สิ เรียกเสียงฮือฮาและตากล้องบนลานน้ำแข็งทั้งหมด เล่นเปลื้องผ้าต่อหน้าธารกำนัลให้เห็นจะจะไปเลย ขนาดฉันห่อร่างมาอย่างแหนมป้าย่นยังหนาวจับจิตจับใจเลย แต่เหล่าหญิงชายนี่สิ ดู ๆ ไปเหมือนแมวน้ำเผือกเริงร่าอยู่ขั้วโลกเหนือ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว ขอเก็บรูป ณ ห้วงเวลาหนึ่งของชีวิต ที่ยืนถูกฮวงจุ้ย ถูกจังหวะ และ ถูกโฉลกกับคนแปลกเอาไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย แถมยังได้รูปบั้นท้ายชายเปลือยอีกคนที่ไปแอบแก้ผ้าหลังกองหิมะไว้ปลงอนิจังอีกด้วย (รูปนี้เซ็นเซอร์ค่ะ)
ฉันลากเด็กกะโปโลใบเล็กที่อัดข้าวของจนแน่นปี๋รวมอุปกรณ์ทานอาหาร และแบกนังแห้งที่ขนกล้องกับเลนส์มาเต็มที่ ขอบคุณหมอเล็กที่ลากเจ้าอ้วนซึ่งขนหม้อหุงข้าวกับถุงยังชีพมาให้เรา จึงมีอาหารรสเลิศในราคายาจกให้ทานทุกเย็น (High so - Low money) ไม่ว่าบะหมี่ต้มยำทรงเครื่อง ซุปเห็ด แกงเลียง ไข่ต้ม และข้าวกล้องธัญพืช วัตถุดิบต่าง ๆ ได้จากลุง Coop ที่มีสาขาแทบทุกสถานีรถไฟ ชีวิตเราวนเวียนอยู่ตามสถานีรถไฟเพราะไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ ซื้อข้าวปลาอาหาร ทานข้าว ขอแผนที่ ค้นข้อมูล หาตารางรถ วางแผนเที่ยว ซื้อตั๋ว ล้วนแล้วแต่ทำได้เบ็ดเสร็จในที่เดียว ที่ประทับใจมาก ๆ คือ ความตรงต่อเวลาของคนสวิส มาก่อนเวลาอาจขึ้นรถไฟผิดขบวน มาช้าก็ตกรถ มาตรงเวลาถึงจะดี เคยเอื้อมมือค้างดูรถไฟไหลเลื่อนไปต่อหน้าต่อตาเมื่อช้าไปสิบห้าวินาทีมาแล้ว เสียเวลารออีกตั้งชั่วโมง แปลกดีนะ ทุกยานพาหนะตรงเวลาหมด ไม่ว่ารถไฟ เรือเมล์ รถราง รถใต้ติด กะเวลาขึ้นลงได้เพะเพะ พี่ไทยเราจะเป็นได้ไหมหนอ อีกเรื่องที่ประทับใจสุด ๆ คือน้ำใจคนสวิส ผู้คนเขาใจดีสุด ๆ ไม่รู้อะไรก็ถาม ยิ่งกว่านั้นยังเข้ามาช่วยโดยมิได้ร้องขอ คุณลุงในรถเมล์เห็นเรากางแผนที่หมุนหัวเลิกลัก ๆ ก็เข้ามาถามว่าจะไปพิพิธภัณฑ์การคมนาคมแห่งชาติสวิตเซอร์แลนด์ (Verkehrshaus der Schweiz) ใช่ไหม ป้ายนี้ลงได้ เราขอบคุณแล้วก้าวลงรถเมล์เลี้ยวซ้าย คุณน้าที่ลงรถตามมาทนนังเป๋อไม่ได้ กวดตามหลังมาบอกเราว่าไปผิดทาง ตอนไปเมืองอินเทอร์ลาเคิน ( สยามเมืองยิ้มของเรา ยังคงเป็นเช่นนี้อยู่ ฤาว่าเลือนหายไปกับกาลเวลา ความทันสมัยที่เพิ่มขึ้นหาได้บ่งบอกความเจริญทางจิตใจไม่ เหตุการณ์น้ำท่วมนั้นแค่จุดเริ่มต้น ความขัดแย้งของสังคมปะทุอยู่ดาษดื่นด้วยความแบบบางของขอบเขตความเสียสละ สิ่งที่รอพิสูจน์น้ำจิตน้ำใจและหัวใจความเป็นมนุษย์กำลังตามมา ทุกสิ่งเกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เหตุ ทำอย่างไรจึงจะพลิกจิตเอาวิกฤตให้เป็นโอกาสให้ได้ ก็เท่านั้นเอง
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |