*/
BrazilMiss | ||
![]() |
||
Miss flight in Brasil |
||
View All ![]() |
<< | สิงหาคม 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |
กลุ่มดนตรีบำบัดนอกจากจะทำเกี่ยวกับเรื่องรักษาพยาบาล วิจัย และเผยแพร่ความรู้แล้ว ยังช่วยแสดงในงานกุศลต่างๆ อยู่เนืองๆ พักหลังนี้ เราได้รับงานใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้ร่วมแสดงจากหลากกลุ่มหลายคณะ จึงมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันให้ได้ปวดเศียรเวียนเกล้า รวมถึงทดสอบไหวพริบ ปฏิภาณ และวุฒิภาวะเหลือคณา
“งานนี้โต๊ะจีน 80 โต๊ะ โต๊ะละหมื่น” อาจารย์หมอเอกบอก “หา! ตกลงมาทานอาหารจีนหรือมาฟังศิลปินใหญ่ ศุ บุญเลี้ยง มันคนละแนวเลยนะ” ฉันชักไม่แน่ใจ “ทั้งสองอย่างแหละครับ กลุ่มดนตรีบำบัดเราจึงต้องเล่นตอนกินข้าว เพราะ คุณศุเขาไม่เล่น” “พวกเราคงไม่เท่าไหร่ ยอมรับได้ เพราะเป็นงานกุศล แต่เด็กๆ นักศึกษาแพทย์นี่สิ ทำใจได้หรือเปล่า” ฉันพอเข้าใจในอารมณ์ศิลปินอยู่ “ก็คงต้องอธิบายแหละ”
เราจัดเต็มมีทั้งเพลงวัยรุ่น ลูกทุ่ง ประสานเสียง เอาใจวัยแม่ และ เพลงดังระดับนานาชาติ แล้วยังมีการแสดงสุดเด็ดของหมอกระดูก แพทย์ประจำบ้านหุ่นทรมานใจสาวอีก “เราต้องตัดเพลงกับการแสดงออก” อาจารย์หมอเอกบอกหลังกลับจากประชุมมา “อ้าว อย่างนี้เด็กก็เสียใจแย่สิ คราวหน้าจะขอมาช่วยก็ลำบาก” “ผมก็เกรงเช่นนั้น แต่มันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังนิดหน่อย” “….” ฉันไม่รู้จะพูดกระไรได้
มีการแก้กำหนดการแสดงสัก 8 รอบ จนอาจารย์หมอเอกบ่นเหนื่อยใน facebook ฉันก็ต้องออกโรงเอง เรียนท่านผู้บริหารถึงวัตถุประสงค์งานการกุศล และเวลาที่ต้องใช้ซ้อมการแสดงเพราะไม่ใช่มืออาชีพ เด็กต้องเรียน อาจารย์ก็ต้องสอน งานก็ต้องเตรียม ฉันยังต้องลงพื้นที่บริการสังคมตามวิสัยทัศน์ของคณะอีก แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกก่อนงานการกุศลไม่กี่วัน ณ 22 พ.ค. 2557 คณะรักษาความสงบเพื่อชาติมาช่วยคืนความสุข แล้วประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานหลังสี่ทุ่ม ฉันส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ด่วนปรึกษาผู้บริหารเพื่อปรับกำหนดการแสดงครั้งที่ 9 ผู้บริหารเรียกประชุมวัน 28 พ.ค. ปรับมาเป็นกำหนดการครั้งที่10 สุดท้ายดังนี้
กำหนดการแสดง Musical Dinner การกุศล ครั้งที่ 1 (ปรับครั้งที่10 สุดท้าย) วันเสาร์ที่ 31 พ.ค. 2557 เวลา 18:00-21:30 น โรงแรม The Empress 18:00-18:30 การแสดงดนตรี Acoustic โดย นักศึกษาแพทย์ (นอกห้อง) 18:30-19:00 ชมวีดีทัศน์ มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณบดีมอบช่อดอกไม้ให้ผู้มีอุปการะคุณและศิลปิน ศุ บุญเลี้ยง ภายในห้อง Ballroom 19:00-19:45 การแสดงดนตรีของกลุ่มแพทย์ นักศึกษาแพทย์ และคนสวนดอก เพลงที่ 1 น้ำเซาะทราย โดย อ. ต้อม เพลงที่ 2 ยังจำได้ไหม โดย คุณ หน่อย เพลงที่ 3 นาทีสุดท้าย โดย นศพ. ตาต้า ปี 6 เพลงที่ 4 เธอคือใคร โดย นศพ. ฟิวส์ ปี 2 เพลงที่ 5 เพียงข้างหลัง โดย นพ.เบียร์ แพทย์ประจำบ้านปี 3 และ นศพ. ตาต้า ปี 6 เพลงที่ 6 ขอใจเธอแลกเบอร์โทร โดย นศพ. ฟาง ปี 5 และ หางเครื่อง ปรับเวที เพลงที่ 7 Can you feel the love tonight? โดย นองครู เพลงที่ 8 Princess Mononoke โดย อ. ต้อม ปรับเวที แจกรางวัล 19:45-21:30 การแสดงดนตรีของ ศุ บุญเลี้ยง และทีมงาน
ผู้ร่วมแสดง ชมรมดนตรีสากล นศพ. กลุ่มดนตรีบำบัด อาจารย์หมอเอก ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู เล่น Electone อาจารย์หมอก๊วย ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน เล่น Saxophone, Chinese flutes, Xun (ซู-เอิน) และ เป็นพิธีกรช่วงการแสดงดนตรีของกลุ่มแพทย์ นักศึกษาแพทย์ และคนสวนดอก พิธีกร อาจารย์หมอศิ และ อาจารย์หมอสุ
ทว่า หาใช่ครั้งสุดท้ายไม่ ฉันแต่งตัวขึ้นเวที ดูแล้วแยกยากระหว่างศิลปินกับคนบ้า เพราะต้องเหน็บตัวเครื่องไมค์ลอยที่ขอบกางเกงด้านหลัง แล้วโยงสายมาด้านหน้ายังตัวรับเสียงที่คล้องหูรัดท้ายทอยไว้ แต่มันเด้งจึงต้องใช้ปลาสเตอร์ปิดแผลมาแปะก้านไมค์ให้ติดกับแก้ม ที่คอมีสายคล้อง saxophone แล้วต้องคล้องสายห้อย xun เวลาเล่นในบางเพลง หอบหิ้วและแบกญาติโยมมาอีก 7 ชิ้น ขณะที่คนอื่นเขามีชิ้นเดียว ยังดีที่ไม่ต้องเหน็บดอกไม้ บางเพลงใช้เครื่องดนตรี 2 ชิ้น ต้องมีสะติเต็มที่เพราะหยิบผิดก็ผิดคีย์ไปเลย แถมเป็นพิธีกร คุมเวทีให้คิว และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอีก
“หา! รายการผมโดนตัดหรือ” อาจารย์หมอโรคกระดูกอุทานเสียงหลง “อ้าว อาจารย์ยังไม่รู้รึ” ฉันก็อุทานบ้าง “ไม่รู้ ผมให้แพทย์ประจำบ้านซ้อมเต็มที่” “ไม่เป็นไร อาจารย์บอกเด็กเอาไว้งานหน้าก็แล้วกัน” “ไม่ทันแล้ว” “ทำไมไม่ทัน” “แต่งตัวเดินทางมาแล้ว” “หา!” ฉันต้องรีบหายตกใจใน 1 นาที แล้วรีบเผ่นไปเชิญผู้บริหาร พิธีกร และประชาสัมพันธ์ มายืนประชุมด่วนหาทางแก้ปัญหาหน้าห้องแสดง เราแก้ไขด้วยการย้ายรายการคณะบดีมอบช่อดอกไม้ให้คุณ ศุ บุญเลี้ยง ไปมอบช่วงแสดงเสร็จแทน แล้วให้หมอกระดูกมาเต้นเปิดงาน ฉันต้องย้ายไมโครโฟน ที่ตั้งโน๊ตเพลง และอพยบญาติโยมฉันออกจากเวทีอย่างทุลักทุเล เพราะเกรงว่าลำแขนกล้ามเป็นมัดๆ จะตบป้าทองหละ (saxophone) ร่วงลงมากลิ้งจนเสียงเพี้ยน ส่วนลำขาแข็งแกร่งกับเท้าใหญ่มหึมาอาจกระทืบครอบครัวตระกูลเลา (ขลุ่ยจีน) และพี่น้องสกุลซู-เอิน (Xun) ตับแตกได้ พอเต้นเสร็จ ฉันก็อาศัยความมืดขนอุปกรณ์และญาติทุกชิ้นกลับไปตั้งที่เดิมอย่างหืดขึ้นคอ เพราะต้องแข่งกับเวลาระหว่างที่พิธีกรคุยกับผู้ชมไปเรื่อยๆ (เปื่อย) เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จนฉันให้สัญญาณว่าพร้อมแล้วจึงโยนเวทีมาให้พิธีกรจำเป็นอย่างฉันในช่วง concert
ตามที่ตกลงกันไว้คือฉันคอยดูความพร้อมของนักดนตรีทุกคนดูแล้วให้สัญญาณเริ่มเพลง ส่วนนักร้องให้ขึ้นเวทีตอนได้ยินชื่อตัวเองโดยไม่ต้องสนใจว่าฉันจะพูดอะไรบ้าง นักร้องคิวเพลงถัดไปให้รอด้านซ้ายเวที รับไมโครโฟนจากคนที่ลงไปแล้วรอฟังชื่อตัวเองจึ่งขึ้นเวที เพราะการแสดงสดบางทีเกิดเหตุการณ์มิคาดฝัน ต้องแก้กันเป็นทีๆ ไป ทุกคนพยักหน้าหงึกๆ เหมือนจะเข้าใจ “ให้สัญญาณผมปิดเสียงไมค์ลอยอาจารย์ในแต่ละเพลงด้วยครับ” ฝ่ายคุมเสียงย้ำ “ได้ยินเสียงดนตรีขึ้นเพลงไหนก็ตาม คุณปิดเลยค่ะ เหลือแต่ไมค์ saxophone กับขลุ่ย” ฉันจะได้ไม่ต้องจำหลายอย่าง เพราะการแสดงใช้ไมโครโฟนเปลืองมาก ฉันคนเดียวก็ล่อไป 3 อัน แล้ว
เมื่อพิธีกรของงานมอบเวทีให้ฉันปับ ผีไมโครโฟนเข้าสิงปุบพูดได้เลย “……..สำหรับงานการกุศลหาทุนสำหรับดูแลผู้สูงอายุ ขอเปิดวงด้วยนักร้องเสียงใสวัยแม่เพื่อความเป็นสิริมงคล…..” คิวนี้นักร้องผ่านฉลุ่ย “…..ผู้สูงอายุมักจะหลงๆ ลืมๆ เป็นธรรมดา แต่ต้องคอยดูว่าเป็นอาการแรกเริ่มของโรคสมองเสื่อมหรือไม่ คำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ คือ ยังจำได้ไหม จึงขอมอบเพลง ….อึ๋ย!” พูดยังไม่ทันจบถึงตอนเอ่ยชื่อ เหลือบเห็นเงาแลบมาทางหางตาด้านซ้าย อุ๊แม่เจ้า! พี่หน่อยโผล่ขึ้นมายืนยิ้มเผล่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เลยต้องรีบให้คิวนักดนตรีขึ้นเพลงบัดเดี๋ยวนั้น แล้วนักร้องเสียงบาดใจวัยป้าก็ครวญเพลงให้เพื่อนประจำรุ่นร้องตามกันเป็นแถวๆ
สำหรับเพลง ‘ขอใจแลกเบอร์’ จะมีหางเครื่องหลายคนมาเต้นตามที่ตกลงกันไว้ แต่เอาเข้าวันจริงเหลือคนเดียว ต้องแก้สถานการณ์โดยเปลี่ยนจากเต้นข้างล่างเวทีมาร้องคู่และเต้นบนเวทีแทน ปัญหาก็คือ ฉันจะหลบไปอยู่ตรงไหนของเวทีก็ลำบากเพราะเล่นดนตรีด้วยเป็นพิธีกรด้วย แล้วเวลาก็กระชับมาก ว่ากันเป็นนาทีเชียวหละ “หนูจะเต้นตรงไหน อาจารย์จะได้หลบให้” “หนูเต้นทั้งเวทีค่ะ เต้นสวนกัน” “งั้น อาจารย์จะไปยืนสักมุม” “หนูวิ่งไปวิ่งมาทั้งเวทีค่ะ อาจารย์ไม่ต้องหลบหรอกค่ะ” “….” กีตาร์กรีดเสียงเพลงหญิงลีตามด้วยกลองจังหวะเร้าใจกระหึ่มขึ้น ไม่น่าเชื่อว่านักศึกษาแพทย์และลูกเจ้าหน้าที่จะเก่งขนาดนี้ แค่เพลงชาติไทยฉันยังร้องเพี้ยนเลย ฉันขยับไปยืนชิดขอบเวทีด้านหน้า ทำตัวลีบให้เหมือนขาไมโครโฟนมากที่สุด เพราะเด็กๆ เต้นกระจายทั้งเวที ขืนไปยืนผิดฮวงจุ้ยมีหวังโดนชนหงายท้องแน่ๆ
ต่อด้วยเพลงน้องครูซึ่งนั่งล้อเข็น แต่เดิมบอกว่ามีทางลาดขึ้น แต่เอาเข้าจริงขนาดใช้ไม่ได้กับเวทีนี้ จึงต้องปรับแผนขึ้นทางหลังเวที ซึ่งต้องให้นักศึกษาแพทย์ชมรมดนตรีสากลขนกีตาร์เดินลงไปก่อนให้น้องสวนขึ้นมา ที่ให้ลงไปเพราะวงคุณศุ บุญเลี้ยง จะขนกีตาร์มาใช้ต่อ ต้องนัดคิวให้น้องครูอย่ากินเพลิน พอได้ยินเพลงหญิงลีให้คนพาออกมาจากโต๊ะจีนไปหลังเวที ซึ่งต้องใช้ผู้ชายสามคนช่วยกันยก นี่ขนาดไปขอร้องน้องครูให้ลดน้ำหนักล่วงหน้าแล้วนะ ฉันรับลูกต่อ เข็นรถน้องครูจากด้านหลังออกมาคุยกันกับผู้ชมให้หายตื่นเต้นและทดสอบไมค์ลอยไปในตัว พอเพลงเริ่มสักพัก อุ๊แม่เจ้า… รถเข็นไหล ฉันรีบตามกลับไปเข็นมาหลังเป่าท่อนขลุ่ย พอเปลี่ยนไปเป่าแซกโซโฟน อ้าวเอ๊ย… น้องครูหายไปจากลานสายตาอีก ที่ไหนได้ แกใส่อารมณ์เต็มเหนี่ยวใช้ตัวโยกให้รถเข็นเลื่อนไปตามขอบเวทีคล้ายกับนักร้องเดินกรีดกรายทักทายผู้ชม..พ่อศิลปินคนเก่ง
งานจบลงด้วยความชื่นชมอย่างล้นหลาม
และแล้วทุกขลาภก็ตามมา เพราะมีงานกุศลใหญ่หลังจากนั้น 2 เดือน เป็นงานปฐกถาพิเศษ Dinner Talk “เศรษฐกิจ การเงิน ในยุคการเปลี่ยนแปลง” องค์ปาฐกโดย ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานคณะกรรมการบริหารธนาคารไทยพาณิชย์ และ ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายได้สมทบทุน “๕ ทศวรรษ มช. รวมพลังเพื่อแผ่นดิน
การแสดงครั้งนี้เน้นประสานเสียงและบรรเลงเพลง รวมนักดนตรีนักร้องก็ตกราวสี่สิบห้าสิบคน เนื่องจากผู้แสดงมาจากหลายกลุ่ม การนัดซ้อมให้พร้อมเพรียงกันก็ยาก ถ้าจะให้ครบก็ไม่มีสถานที่ เราจึงซ้อมกับคอมพิวเตอร์บ้าง หรือ youtube บ้าง มือถือบ้าง
แล้วค่อยซ้อมใหญ่เอาครั้งเดียว เรียนเสร็จดูคนไข้เสร็จก็ทยอยกันมา
ยังซ้อมไม่เสร็จฝนเทมาอย่างฟ้ารั่ว สาดเข้ามาชั้นสองจนวงแตก เราขนอุปกรณ์ต่างๆ อย่างโกลาหนเข้ามาในอาคารซ้อมกันต่อ
ฉันได้รับคำสั่งมาให้เล่นดนตรีอย่างเดียวเพราะงานนี้มีคนกำกับเวทีและพิธีกรทำหน้าที่ให้หมด คิดว่าสบายแล้วตู ที่ไหนได้ พอเอาเข้าจริงต้องแก้ทั้งคิว ทั้งเวลา ทั้งปัญหาไม่คาดคิด ตามกำหนดการคือชุดบรรเลงของกลุ่มฉันขึ้นก่อน จากนั้นจะเป็นเพลงของน้องครูซึ่งต้องยกรถเข็นขึ้นข้างเวทีเนื่องจากด้านหลังเวทีมีเครื่องเสียง เครื่องดนตรี เก้าอี้นักไวโอลินและเชลโลตั้งเต็มไปหมด ตบท้ายด้วยนักร้องประสานเสียง วันงานจริงเราซ้อมและลองไมโครโฟนนับสิบๆ ตัว เพราะมีทั้งเครื่องสายเครื่องเป่า กีตาร์ เปียโน อิเลกโทน เรียบร้อยดีไม่มีอะไร รายการแรกวงดนตรีสากลของนักศึกษาแพทย์ขึ้นเล่นก่อนเปิดงานก็ยังดีอยู่ ถึงเวลาคนดูก็ยังไม่มา จะเล่นเพิ่มก็เกรงจะไปเบียดเวลาปฐกถา ถามหาคนตัดสินใจก็ไม่มี เลยตัดใจบอกเด็กกลับขึ้นไปเล่นต่ออีกสักครู่ ดีกว่าให้เวทีว่าง
จากนั้นชุดฉันขึ้นเปิดเวทีแสดงอย่างเป็นทางการ ฉับพลันทันใดนั้น ไฟฟ้าช๊อตดังสนั่น ไมโครโฟนกับลำโพงขยายเสียงดับสนิทกลางอากาศ พิธีกรก็พูดไม่ได้ยิน ฉันจึงแก้ปัญหาด้วยการหยิบขลุ่ยจีนมาเป่าเพลงเดือนเพ็ญกับอาจารย์หมอเอกระหว่างรอเครื่องเสียง เป่าไปสองเพลงอาการก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ซ่อมไมโครโฟนใช้ได้ 1 ตัว ก็เลยให้พิธีกรพูดเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วกำชับให้คอยเหลือบตารอดูสัญญาณจากฉัน พิธีกรสาวสวยหนุ่มหล่อคงจะเพลินหรือฉันตัวเล็กไป ส่งสัญญาณยังไงๆ ก็ไม่เห็น ขยับก็แล้ว โบกมือก็แล้ว แทบจะรำก็ยังไม่เห็น จำเป็นต้องเดินไปหน้าเวทีโบกให้เห็นจะจะไปเลย จึ่งได้เริ่มบรรเลงเพลงตามรายการ
ดูๆ เหมือนจะลาบลื่น เอ๊ย ราบรื่นนะ พอเข้าเพลงที่สอง ‘ชู้รักเรือล่ม (Titanic medley)’ ท่อนบรรเลงนำก่อนตามด้วยท่อนร้อง ‘My heart will go on’ นักร้องก็ยังไม่ออกมาสักที อาจารย์หมอเอกตั้งเครื่องอิเลกโทนไว้แบบหยุดไม่ได้ ย้อนกลับไม่ได้ ว่ากันจดหมดเพลงรวดเดียวงั้นเถอะ ฉันเริ่มวิตกจริตหานักร้อง แล้วอาจารย์ต้อมในชุดราตรีสีเหลืองทองสวยสุดๆ ก็เดินระหงออกมาจากหลังเวที ฉันรีบส่งไมโครโฟนให้ ผู้คุมเสียงด้านล่างเวทีส่งสัญญาณด่วนว่าไม่ใช่ ฉันต้องรีบเผ่นออกมาดึงไมโครโฟนออกจากมือนักร้องเสียบตัวใหม่เข้าไปในกำมือ แค่เสี้ยวนาทีที่จะร้องพอดี วิ่งกลับมาเป่า Xun ต่อ พอถึงท่อนเชื่อมทำไมเนื้อร้องไม่ตรงตามซ้อมวะ ปรากฏว่าไม่ได้ร้องไปท่อนหนึ่ง ฉันก็นึกว่าแกเล่นมุกเดินร้องเพลงออกมาจากหลังเวทีซะอีก หวิดจะเป็นเพลง ‘‘ชู้รักเพลงล่ม (Titanic madly)’ ไปเสียแล้ว ดีที่อาจารย์ต้อมแกไหวพริบดีมาก หลังจากหันมามองเราอย่างหน้าฉงนฉงายเสียวอึดใจ ก็ร้องต่อได้ทันใดไร้รอยต่อ แทบจะจับไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังกับมืออาชีพแหนะ
ถัดไปเป็นช่วงที่นักร้องนักดนตรีกลุ่มเครื่องสีควรขึ้นมาสมทบได้แล้ว แต่กลับไร้วี่แวว ฉันพยักพเยิดกับนักศึกษาแพทย์ที่อาสามาเป็นตากล้องซึ่งยืนอยู่หลังเวทีไปตามนักร้องมาด่วนจี๋ เด็กๆ แต่งตัวยังไม่เสร็จเพราะเพิ่งเรียนกันเสร็จแล้วก็เผ่นกันมา ไวทยากรก็ไม่ขึ้นเวทีสักที ปรากฏว่าติดการจราจรอยู่ที่เวทีฝั่งขวา รอขนรถเข็นน้องครูลงก่อนซึ่งตามคิวไม่ควรลง แต่เวทีแน่นมากยิ่งกว่าปลากระป๋อง ฉันเลยพูดกลบเวทีที่เงียบไปพลางๆ เนื่องจากพิธีกรหลักไม่มีบทเหลืออีกแล้ว
และแล้วการแสดงก็ปิดฉากลงด้วยดี
สร้างประทับใจให้ผู้ชมสุดๆ
(ภาพจาก http://www.med.cmu.ac.th/secret/pr/2012/galleries/112-july/general_july/1441-dinner_talk_music.html)
ผู้บริหารเอ่ยปากชม ผู้สนับสนุนจะให้เวทีในปีหน้าอีก ไม่รู้ว่ามันเป็นทุกขลาภหรือเปล่าหนอ
การแสดงสดก็เสมือนชีวิตนั่นแหละ ต้องแก้ปัญหาไปเป็นฉากๆ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีเกียรติ์เสื่อมเกียรติ์ วนเวียนกันเช่นนี้แล ผู้ใดพลิกใจไม่ทันก็รังแต่จะเจ็บปวดรวดร้าว แต่ถ้าเข้าใจธรรมชาติก็ใช้มันให้เกิดประโยชน์ตนประโยชน์ท่านได้
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |