*/
BrazilMiss | ||
![]() |
||
Miss flight in Brasil |
||
View All ![]() |
<< | กรกฎาคม 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |
ปีนี้ดุมาก ตั้งแต่ต้นปีมามีผู้โดนแมงกะพรุนกล่องหลายรายทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย และพบผู้บาดเจ็บรุนแรงอาการปางตายถึง 4 ราย ซึ่งในกลุ่มนี้ต้องปั๊มหัวใจจนรอดตาย 3 ราย นี่ยังไม่รวมรายที่บาดเจ็บไม่รุนแรงนะ
เดือนมิถุนายนนี้ฉันเหลือวันที่ 29 วันเดียวที่พอจะไปประชุมคณะทำงานด้านสัตว์ทะเลมีพิษและมลพิษทางทะเลได้ เพื่อให้ข้อมูลและความรู้ล่าสุดเกี่ยวกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากแมงกะพรุนพิษรวมถึงแนวทางในการรักษาพยาบาล ได้เชิญหน่วยงานและสถาบันต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นพิเศษ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แพทย์ทหารเรือ มหาวิทยาลัยบูรพา ศูนย์พิษวิทยารามา และศูนย์ต่าง ของกระทรวงทรัพย์ นั่งรถจากสนามบินมาที่ประชุมตรงศูนย์ราชการใช้เวลานานกว่าบินจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพเสียอีก นั่งจนรู้เรื่องชีวิตส่วนตัวคนขับรถ ไม่ว่าจะไปซื้อชะอม ชมสาว สอนลูกแก้มือถือเปียกน้ำ จนไปถึงเรื่องพ่อ
บรรยากาศในการประชุมดีมาก สนุก สร้างสรรค์ เจอคำถามกระหน่ำรอบด้าน ตอบจนคอแห้งฉี่เหลืองจากขาดน้ำ เพราะยังเขียนตำราให้ไม่ทัน จึงอาศัยหน่วยความจำของสมองแก่ ๆ เก็บไว้ในพื้นที่อันจำกัดแบ่งกับดนตรีบำบัด โรคอ้วน และแผนยุทธศาสตร์ สมองก้อนน้อยมันเริ่มเหี่ยวตามอายุขัยแล้ว
ประเด็นที่เน้นย้ำในที่ประชุมคือการให้ข่าวหรือสื่อความรู้ที่ก่อให้เกิดความสับสนและมีผลกระทบทั้งด้านการช่วยเหลือที่ถูกต้องและตื่นตระหนก อาทิเช่น เมื่อไม่กี่วันมานี้มีข่าวพบแมงกะพรุนกล่องจำนวนมาก ในน่านน้ำทะเลของจังหวัดกระบี่กับตรัง ในเนื้อข่าวระบุ “หากได้รับพิษในปริมาณมาก หรือพิษเข้าสู่กระแสเลือดก็จะแล่นเข้าสู่หัวใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้นและระบบหายใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที” ซึ่งหมายถึง สกุล Chironex sp. ที่ทำให้ตายได้ (ที่มา: อุษาวดี เดชศรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทัรพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)
แต่ตัวที่เจอนั้นเป็นคนละชนิดกัน คือ Chiropsoides buitendijiki ถ้าดูไม่เป็นจะมีลักษณะภายนอกคล้ายกัน ผิดตัว เจ้านี่เลยเป็นแพะรับบาป เท่าที่ฉันเคยพบผู้ที่โดนหนวดมีอาการเพียงเล็กน้อย คือคันและแผลบวมแดง ซึ่ง 2-3 วัน ก็หาย (ที่มา: อุษาวดี เดชศรี ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทัรพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)
อีกประเด็นปัญหาคือข้อมูลวิชาการที่ทำในห้องทดลองของผู้มีชื่อเสียงออกมาแนะนำว่าราดน้ำส้มแล้วทำให้ยิงเพิ่มขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ล่อเป้ามากเพราะมีนักผู้เชี่ยวชาญและเทพในวงการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ความไม่น่าเชื่อถือของผลการศึกษา อาทิเช่น วิธีการทำ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ผิด และการอภิปรายผลเกิดจริงไปจากข้อมูลที่มี เรียกว่างานเข้าเชียวหละ (รายละเอียด อ่านเพิ่มได้จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/lakthai) ทีนี้มาถึงคำถามคาใจที่ว่า “ราด ไม่ราดดี?” “ราดอะไรดี?” ข้อมูลล่าสุดจากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ที่กรุณาส่งมาให้ฉันได้เผยแพร่เป็นวิทยาทาน คือการเก็บตัวอย่างแมงกะพรุนกล่องหนวดหลายสายที่มีพิษร้ายแรง สกุล Chironex sp. จากจังหวัดตราดมาทดลองดูว่าถ้าหยดน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำส้มสายชูจะทำให้กระเปาะยิงเข็มพิษเป็นอย่างไร ผลการทดลองน่าสนใจมาก ก่อนอื่นมาดูลักษณะหนวดที่ยังไม่โดนอะไรก่อน (รูป ก) จะเห็นกระเปาะบรรจุเข็มพิษฝังในเนื้อเยื่อเหมือนขนแปรงอ่อนเป็นปุยดูนุ่มนวลน่ารัก (รูป ข)
ถ้าส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายจะเห็นเป็นมะละกอลูกยาวเรียวลงด้านปลาย
เมื่อหยดน้ำจืดลงไปบนหนวด
ผลพบว่ามีการยิงเข็มพิษออกมาทันที จำนวนการยิงเข็มพิษมีปริมาณมากอย่างรวดเร็วจนนับไม่ทัน (ภาพ ง)
เมื่อหยดน้ำทะเลลงไปบนหนวด ใช้น้ำทะเลที่ความเค็มใกล้เคียงกับบริเวณที่พบแมงกะพรุนกล่องหยดลงบนหนวด พบว่ามันยังยิงได้ถึงแม้นว่าปริมาณเข็มพิษที่ยิงออกจากกระเปาะมีปริมาณน้อยกว่าที่ทดสอบโดยใช้น้ำจืด (เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ปริมาตรน้ำเท่ากัน) และเมื่อลองพ่นน้ำเค็มใส่เนื้อเยื่อแมงกะพรุนให้แรงขึ้น เข็มพิษจะถูกยิงออกมาเพิ่มขึ้น ดังนั้นประเด็นที่นักวิชาการออกมาแนะนำให้สาดน้ำทะเลน่าจะต้องพิจารณาใหม่
เมื่อหยดน้ำส้มสายชูลงไปบนหนวด พบว่าเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวเปื่อยและขาดง่าย สีบริเวณที่ทำการทดสอบเปลี่ยนจากใสสลับน้ำตาลอ่อน เป็นสีขาวขุ่น
“อยากจะรู้ว่ากระเปาะมันยังยิงเข็มพิษได้อยู่ไหม หลังราดน้ำส้ม?” ทดสอบโดยการหยดสิ่งมีชีวิตแพลงก์ตอน (Artemia sp.) ซึ่งเป็นอาหารของแมงกะพรุนลงไปบริเวณหนวดที่หยดน้ำส้มสายชูก่อนหน้านี้ พบว่ามันว่ายน้ำไปสัมผัสเนื้อเยื่อแมงกะพรุนได้อย่างสบายใจเฉิบ ไม่มีการยิงเข็มพิษเพิ่มขึ้น (ภาพต่อเนือง ก- ง)
“คนไม่ใช่แมว.. เอ๊ย แพลงก์ตอน ผลมันเป็นยังไง?” จากประสบการณ์ในประเทศไทยของฉัน พบว่าผู้ที่บาดเจ็บรุนแรงซึ่งได้น้ำส้มสายชูราดในขั้นตอนปฐมพยาบาลส่วนใหญ่รอดชีวิต ในขณะที่ผู้บาดเจ็บรุนแรงซึ่งไม่ได้น้ำส้มสายชูราดส่วนใหญ่เสียชีวิต นอกจากนี้ยังพบว่าถ้าทำอย่างถูกต้อง (ราดทันทีและปริมาณเพียงพอต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที) ทำให้ลดความรุนแรงของบาดแผลและนอนโรงพยาบาลน้อยลง
“ถ้าไม่ได้ราดทันที ใช้บัตรแข็งขูดหนวดได้ไหม?” ฉันเคยพบผู้บาดเจ็บรุนแรงหมดสะติหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น แต่ได้น้ำส้มสายชูหลังโดนประมาณ 15 นาที พร้อมทั้งกู้ชีพ แล้วยังรอดชีวิต หลักฐานสนันสนุนรายล่าสุดเกิดเหตุในเดือนมีนาคมปีนี้ เป็นเด็กออสเตรเลียอายุ 11 ขวบ เด็กโดนแมงกะพรุนกล่องหนวดหลายสายแล้วหมดสะติในไม่กี่นาทีพ่อเป็นนักดับเพลิงอุ้มขึ้นมาชายหาดปั๊มหัวใจ ในขณะที่แม่วิ่งไปหาน้ำส้มชายชูที่ร้านอาหาร พ่อแม่ทราบว่าต้องไม่สัมผัสหรือดึงหนวดออก เด็กรอดตาย (https://www.tripadvisor.com.sg/ShowTopic-g1499981-i14481-k10502710-BEWARE_Lethal_Jellyfish-Krabi_Province.html#83477662) ดังนั้น ฉันคิดเห็นว่า ณ ความรู้ในปัจจุบันควรใช้น้ำส้มสายชู ไม่ควรใช้บัตรแข็งหรือสิ่งต่าง ๆ มาขูด ถู หรือดึงหนวดออก ทั้งนี้ ในบริบทของไทยเรานั้น ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้ติดตั้งเสาพยาบาลน้ำส้มสายชูแล้ว หรือสามารถหาได้ตามร้านอาหารบริเวณชายหาดที่มีอยู่เพียบโดยไม่เสียเวลามากนัก (พบแล้ว…เตือนให้ป้องกันในช่วงนี้ http://oknation.nationtv.tv/blog/peeguay/2014/01/02/entry-1 )
ฉันต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้ชำนาญการที่เรียนจบมาทางด้านแมงกะพรุนโดยเฉพาะ เป็นแค่หมอนักสืบ (ระบาดวิทยา –Epidemiologist ) ที่ทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทีมงานหลากหลายอาชีพ เรียนรู้เก็บข้อมูลเองตลอด 9 ปี ที่ผ่านมา ข้อมูลเก็บได้ยากเพราะเป็นเรื่องน่าสิ่วหน้าขวาน ความเป็นความตาย มีความอ่อนไหวทางการเมืองและคดีความ สวนกระแสความเชื่อ รวมถึง ไม่มีความรู้มาก่อน ขาดห้องปฏิบัติการ ขาดผู้เชียวชาญในระยะเริ่มแรก จึงขึ้นกับวิจารณญาณของท่านผู้อ่านค่ะ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |