เท่าที่มีข้อมูลขณะนี้พบว่า ผู้ป่วยโคโรนาไวรัส19 จำนวน 1 ราย (สมมุติชื่อ คุณหนึ่ง 1) ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก สามารถแพร่เชื้อไปติดคนอื่นได้ 2-3 คน  ถ้าใช้เลข 3 จะพบว่า

 คุณ 1 แพร่  3 คน แต่ละคนแพร่ต่อได้คนละ 3 รวมเป็น 9 คน ซึ่ง 9  คน แต่ละคนแพร่ต่อได้คนละ 3 รวมเป็น 27 คน แล้วแพร่ต่อไปเรื่อย ๆ ไปแค่ 13 ช่วง จะได้ คนติดเชื้อ 1,594,323 คน

           ขณะนี้รายงานอย่างเป็นทางการพบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 411 ราย รักษาหายและหมอให้กลับบ้านได้ 45 ราย มีผู้ป่วยที่มีอาการตามนิยามเฝ้าระวังที่เหลือ 9,932 ราย ตรวจไม่พบ เชื้อ 6,166 ราย และอยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ 3,766 ราย (ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค)

สมมุติว่า ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ต้องเก็บตัวแต่ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ร่วมงานสังสรรค์ ไปสนามมวยหรือผับจังหวัดอื่นที่ไม่ปิด สัก 2000 ราย  ลองคำนวณเล่น ๆ ดูนะคะ

2000 * 3 = 6000  คน 

6000* 3= 18000 คน คำนวณไปเรื่อย ๆ จะได้จำนวน

54,000 คน 

162,000  คน 

486,000  คน 

1,458,000  คน 

4,374,000  คน 

13,122,000  คน 

39,366,000  คน   แค่แปดช่วงก็ครึ่งประเทศ  ถ้าเอา 9 ช่วง ก็หมดประเทศ (118,098,000 คน) 

 วันนี้มียอดพุ่งกระฉูด  188 ราย

    มีเรื่องเล่ามาให้พอนึกภาพออกนะคะ  สมมุติว่า   

     มีคนที่เข้าไปดูมวยหรือไปเที่ยวผับในวันนั้นจนถึงวันนี้ยังไม่ยอมหรือไม่กล้ามารายงานตัวเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือรับความช่วยเหลือ แต่กลับไปภูมิลำเนาตัว  ดังนั้นจะสามารถแพร่กระจายไปทุกจังหวัดที่มีแล้ว สมมุติ ว่ามีผู้ป่วยโคโรนา 2019 สูงวัยไปหาหมอที่ ER รพ.รัฐในกรุงเทพ ด้วยอาการไอมาเกือบอาทิตย์ ตรวจกับหมอ 2 คน พยาบาลดูแลอีก 4 คน ส่งไปเจาะเลือดกับเจ้าหน้าที่  1 คน ส่งไปเอกซเรย์ กับเจ้าหน้าที่  2 คน  มีปอดอักเสบ แล้วไปทำนัดตรวจไส้เลื่อนที่แผนกผู้ป่วยนอกเจอกับผู้ป่วยอื่นและญาติ ไม่ทราบจำนวน แล้วกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นเหนื่อยหอบมากขึ้นทนไม่ไหวรีบกลับมาโรงพยาบาล เข้าห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่เข็นแปล พยาบาล หมอเข้ามาช่วย ผู้ป่วยนอนรอ 3 ชั่วโมง หมอถามจากญาติจนทราบว่าผู้ป่วยไปสนามมวยมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ผู้ป่วยต้องใส่ท่อช่วยหายใจตอนค่ำเกือบทุ่ม ซึ่งหมอได้ใส่ชุดอวกาศ แต่หมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยอื่นและญาติ ไม่ทราบจำนวน ก่อนหน้านี้ ต้องถูกกักตัวไม่รู้ติดเชื้อด้วยไหม ขาดคนทำงาน เพื่อนที่เหลือต้องรับภาระ ครอบครัวของหมอพยาบาลเจ้าหน้าที่ก็เดือดร้อนไปด้วย   โรงพยาบาลต้องงดรับผู้ป่วยอื่นเพราะเตียงและห้องแยกมีจำกัด  สมมุตว่ามีมีผู้ติดเชื้ออีกคนหลังจากออกมาจากสนามมวยไปงานอีก 21 งาน ลองนึกภาพดูการสอบสวนโรคจะหนักหนาสาหัสอย่างไร เพราะต้องถามย้อนหลัง 14 วัน แล้วไปตามหาผู้สัมผัสทุกคน

    สมมุติว่าที่จังหวัด ข มีผู้ป่วยที่ไม่ได้แจ้งว่าไปร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย (ปิดประเทศเพราะระบาดมาก) มีอาการหนักมาหาหมอ ต้องส่งตัวต่อไปรักษาต่อ แต่หมอ 2 คนต้องถูกกักตัวดูอาการ พยาบาลเจ้าหน้าที่กว่า 20 คนโดนด้วย แล้วจะเอาหมอพยาบาลที่ไหนมาดูแลคนป่วย

      ลองดูของจริงจากหมอพอิตาลี ที่ให้ “สื่อ” เข้าไปถ่ายบรรยากาศในหอผู้ป่วยวิกฤติ (ห้อง ICU ที่รักษาผู้ป่วยหนัก) เพื่อให้เห็นความยากลำบากในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 มาเผยแพร่ ต่อสาธารณชน โดยหวังว่าทุกคนจะได้ปฏิบัติตามหน้าที่ เก็บตัวอยู่ในบ้าน หมอ-พยาบาล จะได้ไม่ต้องแบกรับภาระไปมากกว่านี้  https://www.youtube.com/watch?v=_J60fQr0GWo&feature=youtu.be

ท่านคิดว่าตัวเองเสี่ยงแค่ไหน? 

          มาดูอาการผู้ป่วยในเมืองไทยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนใหญ่มี ไข้ (66.1%) ไอ (62.7%) รองลงมา ปวดเมื่อย (33.1%) เจ็บคอ (29.7%) และมีน้ำมูก (28.8%) ที่เหลือพบได้บ้างคือ ปวดหัว ไอมีเสมหะ หายใจลำบาก และท้องเสีย

และในประเทศไทยแทบจะระบายสีไปทุกภาคแล้วค่ะ

        ไม่หยุดสงกรานต์ แต่ให้หยุดงานยาว คนต่างจังหวัดทะลักออกจากกรุงเทพและปริมณฑลกันใหญ่ และหลายจังหวัดที่ประกาศหยุดงาน ปิดสถานที่ต่างๆ จะมีผู้คนเคลื่อนย้ายออกจากจังหวัดนั้น ๆ (นึกภาพแออัดตามขนส่ง อยู่ในรถทัวร์ รถเมล์ รถไฟ หลายชั่วโมง และอาจจะไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ห้องน้ำรวม การปิดเปิดประตู)   จากพื้นที่เสี่ยงมากไปเสี่ยงน้อย   ตอนนี้แต่ละจังหวัดทั่วไทยคงพอนึกภาพออกนะคะว่าลงเรือลำเดียวกัน จะต้องเตรียมตัวช่วยเหลือกัน 

      ดังนั้นถ้าท่านมีอาการหรือสงสัยว่าคนที่ท่านรัก และผู้ใกล้ชิดมีอาการดังกล่าวแต่อาจจะไม่รู้ตัว ไม่แน่ใจ หรือกลัว ควรรีบโทรติดต่อตามหน่วยงานในพื้นที่ท่านเพื่อปรึกษาหรือประเมินตนเบื้องต้น ถ้าหมอให้มาโรงพยาบาล ค่อยไปโดยใส่หน้ากากอนามัย พกอัลกอฮอล์ล่างมือไปด้วย ปฏิบัติตัวให้เหมาะสมจนไปพบแพทย์ค่ะ ตอนนี้ทุกนาทีมีค่า ร่วมแรงร่วมใจกันทั้งประเทศนะคะ มิเช่นนั้นก็จะเหมือนประเทศที่เจริญกว่ารวยกว่าเรา ตายกันไป ทั้งคนทั้งเศรษฐกิจ เหมือนล้างประเทศทีเดียว ....ฤาว่ามันคือวิถึธรรม 

        สุดท้าย ท่านที่สนใจว่ามันติดยังไง ถ้าเก็บตัวอยู่บ้านจะมีผลอย่างไร และควรจะทำอย่างไร โดยใช้บริบทของไทย เป็นภาษาอังกฤษ แต่มีคำ บรรยายไทย   I really recommend this VDO.  It is about  COVID19 situation of Thailand that contain layman explanation of spreading, self qurantine, and advice. 

English VDO  https://www.youtube.com/watch?v=6zY6GpapaEM&feature=youtu.be

 หมายเหตุ

1. เลขที่มีการคำนวนโดยผู้รู้ จากข้อมูล สามารถอ่านจาก https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3461321217271527&id=100001810479513

2. แนะ กทม.ทบทวนมาตรการ “ปิดห้าง” ห่วงคน “เคลื่อนย้าย” กลับถิ่นฐาน ซ้ำเติม “โควิด-19” ระบาด  https://www.hfocus.org/content/2020/03/18747