จากการที่เจ้าเรือนเริ่มต้นเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหา "ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่"

โดยเริ่มจาก บล็อกเกอร์ Dogstar (www.oknation.net/bolg/dogstar) ได้เริ่มเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับชุมชนย่านวัดเกตเมื่อราวปลายปีที่แล้ว ด้วยการถ่ายทอดด้วยลักษณะที่สะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นผ่านบล็อกโอเคเนชั่น

ด้วยประเด็นดังกล่าวทำให้เจ้าเรือนพบ “สิ่งผิดปรกติ” รวมทั้ง “กลิ่นทะแม่งๆ” จาก “ร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่” และเริ่มศีกษาพร้อมทั้งประมวลข้อมูลที่เกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมัน "เกินกำลัง" ที่บล็อกเกอร์ตัวเล็กๆอย่างคุณ dogstar เพียงคนเดียวจะสามารถถ่ายทอดและบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด เพราะเป็นปัญหาที่มี “ความซับซ้อน” และมากมายด้วยประเด็นความขัดแย้งต่างๆ ลำพังเฉพาะ “ย่านวัดเกต”  ย่านเดียวก็มากมายด้วยปัญหาทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ปัญหากับภาครัฐ รวมทั้งอำนาจทางการเมืองที่คอยบงการหนุนหลังเผื่อเร่งผลักดัน “ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่” ให้คลอดให้ได้ภายในปีนี้

ซึ่งเมื่อเจ้าเรือนรับฟังปัญหาจากปากผู้ที่เดือดร้อน และได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับปัญหาในพื้นที่จริง ทั้งพื้นที่ย่านวัดเกต – ฟ้าฮ่าม รวมทั้งพื้นที่อื่นๆรอบตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จะได้รับผลกระทบจาก “ร่างผังเมือรวมเมืองเชียงใหม่” ฉบับนี้ จึงได้ทราบว่า ประเด็นปัญหาในการต่อสู้เรื่องผังเมืองเชียงใหม่ของกลุ่มชาวบ้านย่านต่างๆทั่วเมืองเชียงใหม่นั้น “มีปัญหามายาวนานและต่อเนื่อง”

โดยที่เจ้าเรือนสามารถสรุปประเด็นที่มีปัญหาส่วนใหญ่คือ เรื่องของการกำหนดพื้นที่การใช้ประโยชน์ การขยายถนนทับบ้านเรือน อาคารโบราณสถาน ปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลภาวะที่เกิดจากการร่างผังเมืองโดยขาดหลักการใช้ชุมชนเป็นจุดศูนย์กลาง แต่ใช้แต่แนวทางด้านโยธาฯและด้านการก่อสร้างมากำหนดพื้นที่ ซึ่งขัดกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่  รวมทั้งการใช้นโยบายจากภาครัฐทำให้พื้นที่ที่ควรจะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ กลายเป็นย่านการค้าหรือธุรกิจอื่นๆที่ขัดกับวัฒนธรรมของคนในพื้นที่

ปัญหาที่มาจาก “ร่างผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่” นั้นมิใช่เพิ่งจะเริ่มมีมา แต่มีการรวมตัวเพื่อคัดค้านมาตั้งแต่เริ่มประกาศ ร่างผังเมือง(ฉบับที่ 1)แล้ว แต่เรืองราวนั้นไม่ได้ปรากฎต่อสื่อมวลชลและประชาชนโดยทั่วไปนั้น เนื่องจากว่าผู้ที่คัดค้านส่วนใหญ่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ มิหนำซ้ำยังเป็นกลุ่มสุภาพสตรีเกือบทั้งหมด รวมทั้งมีชาวบ้านที่ทราบเรื่องแต่ก็ทำได้แต่เพียงคัดค้านด้วยเสียงเล็กๆที่ภาครัฐไม่เคยเหลียวแลและใส่ใจกับการคัดค้าน หรือเป็นนักวิชาการที่ไม่ถนัดด้านการประชาสัมพันธ์และมวลชนสัมพันธ์เหมือนกับกลุ่มอื่นๆ

อีกทั้งยังดำเนินการเพียงลำพังโดยใช้เพียงแต่ "สองมือสองขา" ของชาวบ้านทั้งนั้นโดยปราศจากการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ หรือแม้กระทั่ง NGOเลย ซึ่งเลยทำให้เรื่องนั้นเงียบมากและไม่แพร่หลายในวงกว้าง  ซึ่ง “เข้าทาง”ภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่คอยให้เรื่องนี้จางหาย และจัดการรวบอำนาจประชาชนอย่างเงียบๆ

จนในที่สุดเมื่อรวบรวมข้อมูลและเข้าไปสัมผัสกับปัญหาด้วยตนเอง จึงตระหนักว่าจะต้องรีบดำเนินการ "ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป" เพราะเนื่องด้วยเงื่อนไขและเวลาที่เริ่มบีบรัดเข้ามาทุกขณะและรวบรวมเป็นประเด็นนำเสนอผ่านบล็อกเพื่อให้สะท้อนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าเรือนเล็งเห็นว่าเรื่องนี้ “ไม่สามารถที่จะปล่อย”ให้ภาครัฐเอาเปรียบประชาชนโดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากคนในพื้นที่ หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาครัฐนั้นประพฤติมิชอบ ตามเหตุผลที่เจ้าเรือนได้สรุปเรื่องราวมาเป็นลำดับ

จากเสียงสะท้อนที่ก้องอยู่ในบล็อกโอเคเนชั่น บล็อกเกอร์หลายๆท่าน รวมทั้งเพื่อนสื่อมวลชนได้หยิบยกเอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์และสื่ออื่นๆ และทำให้ประชาชนโดยทั่วไป และคนเชียงใหม่ได้รับรู้ว่ามี “ปัญหา” แบบนี้เกิดขึ้นที่เชียงใหม่

เมืองวัฒนธรรม และ เมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่จะผลิกโฉมครั้งมโหราฬ ถ้า “ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่” ฉบับนี้ผ่านคณะกรรมการผังเมืองรวม

แรงกำลังสนับสนุนเริ่ม “สะท้อนดังขึ้น” โดยจากการที่มีประชาชน จากทั้งเชียงใหม่เอง และเพื่อนบล็อกเกอร์ที่มีความคิดเห็นคัดค้าน“ผังเมืองอัปยศ”ได้ส่งเรื่องราวร้องทุกข์ กำลังใจ รวมทั้งข้อมูลต่างๆเพื่อเป็นประโยนช์ในการคัดค้านฯผ่านเจ้าเรือนและคณะทำงานชาวบ้านย่านวัดเกต เพื่อให้ “ตีแผ่” ให้สังคมได้รับรู้ผ่านทางเรือนปากกา และบล็อกของคณะทำงานชาวบ้านย่านวัดเกต-ฟ้าฮ่าม (www.watket.wordpress.com) รวมส่งมาโดยตรงถึงเจ้าเรือนและเพื่อนบล็อกเกอร์ อีกทั้งเพื่อน บล็อกเกอร์หลายๆท่าน ทั้งนี้จะนำเรียนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ผ่านหน้าบล็อก ซึ่งร่วมกันผลิตเนื้อหา รายงาน และถ่ายทอดอย่างต่อเนื่อง จนกว่าปัญหาจะคลี่คลาย และประชาชนได้รับคำตอบจากภาครัฐที่ชัดเจนเกี่ยวกับปัญหานี้

ส่วนบล็อกเกอร์ท่านใดที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับประเด็นปัญหาผังเมือง เจ้าเรือนขอเรียนเชิญให้ท่านมาโพสไว้ที่บล็อก เพื่อที่จะได้รวบรวมและนำเสนอเป็นภาพรวมของบล็อกโอเคเนชั่นต่อไป

 mr.koe*เรื่องด่วน.รีบมาดูกันนะครับ...ก่อนที่จะกลายเป็นถนน ถนน ถนน ถนน ถนน
mr.koe 

Dogstar; เรื่องความจริงใจของโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่
Dogstar 

Citizen Journalism อีกครั้ง! กับปรากฎการณ์ “ผังเมืองเชียงใหม่”
kittinunn 

นอกเหนือจากการเขียนเรื่องราวไว้ที่บล็อกแล้ว ปัญหา “ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่” ก็ถูกหยิบยกไปในสื่อกลางอื่นๆ

โดยเริ่มจากทางหนังสือพิมพ์คมชัดลึก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ รายการข่าวทางเนชั่นชาแนล  รวมทั้งสื่อส่วนกลางและสื่อส่วนภูมิภาค ได้เริ่มออกอากาศในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น

ชาวบ้านรุมค้านแก้ผังเมือง"เชียงใหม่" 
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ผังเมือง หรือ พังเมือง?เชียงใหม่
หนังสือพิพม์คมชัดลึก

พร้อมกับการขับเคลื่อนและสนับสนุนจาก “กลุ่มเนชั่น” ในทุกสายสื่อสารมวลชนที่มี เพื่อเกาะติดและรายงานปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเร็วๆนี้เจ้าเรือนจะได้มีโอกาส “ออกทีวี” พูดคุยแบบตัวเป็นๆ เกี่ยวกับการทำงานในฐานะนักข่าวอาสา และปัญหาที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง

และในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 6.00 น. และ 11.00 น. จะมีการออกอากาศข่าวปัญหาผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ผ่านทางรายการข่าวทางโทรทัศน์สาธารณะ ไทยพีบีเอส (Thai PBS) โดยคุณ dogstar ได้ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาย่านชุมชนวัดเกต รวมทั้งพาสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากร่างผังเมืองเชียงใหม่  ซึ่งเจ้าเรือนขอใช้พื้นที่นี้เชิญชวนบล็อกเกอร์ทุกๆท่านร่วมรับชมและบอกต่อปัญหาเรื่อง “ร่างผังเมือง” ที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ และคาดว่าอาจจะมีรายการลักษณะเวทีประชาชน เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนร่วมรับฟังและหาทางออกร่วมกันในปัญหาผังเมือง

ส่วนบล็อกเกอร์ท่านอื่นๆทั่วบางโอเคเนชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบล็อกเกอร์ภาคเหนือ เจ้าเรือนใคร่ขอเชิญชวนร่วมเสวนา และร่วมกันแสดงความคิดเห็นกัน โดยทางเจ้าเรือนและบล็อกเกอร์ในพื้นที่ภาคเหนือกำลังกำหนดวันและเวลาที่จะเรียนเชิญทุกท่านมาพบปะกัน เพื่อเสวนาและแสดงออกถึงความมีส่วนร่วมในฐานะ “ภาคส่วนหนึ่ง” ในสังคมที่ต้องการธำรงค์เอกลักษณ์และวิถีชีวิตไว้ให้ลูกหลานสืบไป

ท่านสามารถแสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมลงนามไว้ เพื่อเตรียมที่จะนัดหมายเสวนากัน พร้อมกันนี้ยังเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันของบล็อกเกอร์ในเขตภาคเหนือ ซึ่งห่างหายจากการเสวนากันแบบ “ตัวเป็นๆ” ไปเสียนาน และความสมัครสมานย์สามัคคีอันดีในโอกาสต่อไป

...

เรือนปากกา บ้านแมริม

Pen