*/
<< | มิถุนายน 2020 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |
สวัสดีครับ ท่านผู้ร่วมชะตากรรมทุกท่าน การป้องกันโควิด-19ของเรากำลังลดการ์ดลงเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้ชัดจากข่าวนี้ "ศบค. ติวเข้ม ตัวแทนผับ-บาร์- คาราโอเกะ ก่อนผ่อนคลายเปิดบริการเดือน ก.ค.นี้" เพราะเชื่อขนมกินได้เลยว่า การควบคุมในการนี้ย่อมจะหย่อนยาน ลงเรื่อยๆตามประสาไทยๆ เรานี่เอง สำหรับเกณฑ์ชะตาของสองพี่น้องสกุล 'ชินวัตร' ในท้ายที่สุดของชีวิต จะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"หรือเปล่า เพราทั้งคู่กินดีมีสุขมานานเกินไปแล้ว ปล่อยให้คนรับกรรมแทนทุกข์ร้อนมาเนิ่นนานเต็มที. สองพี่น้องร่วมสุข
ด่วน ไทยชนะโควิดแล้ว หลังไม่พบเชื้อในประเทศครบ 28 วัน![]() 22 มิถุนายน 2563 - 11:12 น.
782
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน แถลงฯ รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 3 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2563 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 3 ราย ติดเชื้อสะสม 3,151 ราย เสียชีวิตคงเดิม 58 ราย
ซึ่ง 3 ราย คือผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ เดินทางมาจากประเทศอินเดีย มีอายุ 11 , 21 และ 34 ปี เดินทางเข้าไทย 15 มิถุนายน ตรวจเจอเชื้อ 20 มิถุนายน ทุกรายไม่มีอาการ และซึ่งถือว่าการติดเชื้อในประเทศ 0 รายเป็นวันที่ 28 แล้ว
........................................................ "บิ๊กป้อม" สั่งยกระดับการกีฬา เร่งฝึกซ้อม เตรียมแข่งนานาชาติ22 มิถุนายน 2563 - 11:37 น.
19
พล.อ.ประวิตร สั่งยกระดับการกีฬา ประชุมคกก.กองทุน เร่งฝึกซ้อม เตรียมแข่งนานาชาติ บริหารกองทุน มุ่งผลสัมฤทธิ์ นำสู่ความเป็นเลิศ ชื่นชมนักกีฬา มุ่งมั่นซ้อมต่อเนื่อง รักษามาตรฐาน ชื่อเสียงชาติไทย22 มิ.ย.2563 เวลา10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุม ได้รับทราบรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงาน ของกองทุนซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ของคณะกรรมการ บริหารกองทุนที่ผ่านมา และได้มีการพิจารณาเห็นชอบการสนับสนุนระบบการพัฒนากีฬา สู่ความเป็นเลิศทั้งในระดับชาติ/นานาชาติ(การเก็บตัวฝึกซ้อม) และเห็นชอบหลักการให้นำโครงการส่งเสริมและพัฒนากีฬาเยาวชน ประชาชน และบุคลากร ทางการกีฬา สู่ความเป็นเลิศ(โครงการนำร่อง) บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติงานปี2564 รวมถึง มีการเห็นชอบ เกี่ยวกับตัวชี้วัดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานประจำปีบัญชี 2563 ไตรมาส 2-3
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ กกท.และสมาคมกีฬา เร่งเตรียมฝึกซ้อมนักกีฬาให้มีความพร้อมในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ที่จะมีขึ้นทั้งระดับเอเชีย/โลก เน้นย้ำใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาให้เกิดประโยชน์จริงจัง เพื่อยกระดับการพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ มุ่งให้ได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาประเภทสากล ให้มากขึ้น พร้อมทั้งขอบคุณนักกีฬา และจนท. ที่ได้ทุ่มเท มุ่งมั่นฝึกซ้อม อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาแม้ต้องระวัง covid-19 ตามมาตรการป้องกันของ ศคบ.และนโยบายของรัฐบาลด้วยดี การเมือง
"สมศักดิ์"เดินหน้า "นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์" เตรียมสร้างทักษะทางอาชีพ![]() 22 มิถุนายน 2563 - 10:10 น.
56
"สมศักดิ์ รมว.ยุติธรรม" เดินหน้า "นิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์" เตรียมสร้างทักษะทางอาชีพ และภาษาอังกฤษ หวังให้ผู้ต้องขังทำงานต่างประเทศได้ พร้อมสนับสนุนกระทรวงแรงงาน ส่งคนไทยทำงานต่างแดนเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2563 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวจากกระทรวงแรงงาน โดย ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ประชุมรับฟัง 129 บริษัทจัดหางาน เพื่อส่งคนไทยไปทำงานต่างประเทศ และการที่บริษัทต่างประเทศต้องการคนงานไทย เพราะประเทศไทยมีแรงงานที่มีคุณภาพดี เชื่อฟังนายจ้าง ประกอบกับการที่รัฐบาลไทย สามารถจัดการกับการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี มีคุณภาพลำดับต้นๆของโลก จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ สินค้าไทยเป็นที่นิยมโดยเฉพาะแรงงาน ตนเห็นตัวเลขการส่งแรงงานไทยไปยังประเทศต่างๆ ปีละประมาณ 120,000 คน ที่มากที่สุดคือ ไต้หวันประมาณ 60,000 คน ซึ่งเงินจากตรงนี้เข้าประเทศปีละประมาณ 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาฝีมือของแรงงานไทยเพื่อไปทำงานยังต่างประเทศ
นายสมศักดิ์ ยังระบุอีกว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความเป็นห่วงและกำชับให้ตนดูแรงงานที่อยู่ในราชทัณฑ์ ให้มีทักษะทั้งเรื่องงานฝีมือ รวมถึงภาษาอังกฤษ ให้กับผู้ต้องขังเพิ่มเติม และแนวทางนี้จะสอดคล้องกับที่ตนเดินหน้าทำนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เราจะสามารถผลิตแรงงานที่มีคุณภาพ และให้ความรู้ทางภาษาอังกฤษในระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 3-6 เดือน เมื่อผู้ต้องขังถูกปล่อยตัวแล้ว เขาจะมีความสามารถพอที่จะไปทำงานยังต่างประเทศได้ โดยประเทศที่ต้องการแรงงานจากเรา คือ ไต้หวัน เกาหลีใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมยินดีที่เห็น รมว.แรงงาน นำเรื่องนี้ออกมาเผยแพร่ หากมีโควต้าก็สามารถแบ่งให้ราชทัณฑ์ สร้างแรงงานคุณภาพเหล่านี้ออกไป เราก็พร้อมบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงยุติธรรมกับกระทรวงแรงงาน ตนทราบว่าการส่งแรงงานไปต้องมีค่าธรรมเนียม มีการสอบภาษา ถ้าไม่ได้ภาษาอังกฤษ ก็ต้องได้ภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ "จุดอ่อนของแรงงานไทยในอดีตมีอยู่ว่า มักจะไม่ได้เป็นหัวหน้างาน ทั้งๆ ที่มีฝีมือที่ดี แต่ติดที่ไม่ได้เรื่องภาษา จึงต้องยอมรับสภาพในการไปเป็นลูกน้องเขา และต้องทำงานในราคาค่าแรงที่ต่ำ แต่หากเรามีการพัฒนาด้านภาษาที่ดี ค่าแรงจะได้มากกว่านี้ อาจจะมากขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า ซึ่งจะทำให้มีเงินเข้าประเทศมากขึ้นเป็นสองเท่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นในจุดนี้เราต้องมีการเน้นในการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม" นายสมศักดิ์ กล่าว ศบค.ติวเข้ม 'ผับ-บาร์' ถกคลายล็อก เปิดบริการ ก.ค.นี้22 มิถุนายน 2563 - 09:52 น.
427
ศบค. ติวเข้ม ตัวแทนผับ-บาร์-คาราโอเกะ ก่อนผ่อนคลายเปิดบริการเดือน ก.ค.นี้ภายหลังจากการที่ นักร้อง นักดนตรี และผู้ประกอบการสถานบันเทิงออกมาเรียกร้องให้ รัฐบาลมีการคลายล็อก เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพ
ความคืบหน้าล่าสุด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะมาร่วมหารือและรับฟังข้อเสนอในการวางแนวทางการผ่อนคลายมาตรการ โดยพล.อ.ณัฐพล กล่าวตอนหนึ่งว่า นายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่าขอให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนทุกภาคส่วน และสิ่งที่นายกฯห่วงใยคือในช่วงเวลาที่ผ่านมา มาตรการการเยียวยาได้ทำมา 3 เดือน เดือนเม.ย.-มิ.ย. แล้ว ดังนั้นในเดือน ก.ค.นี้จะเป็นช่วงพยายามผ่อนคลายให้ทุกสาขาอาชีพสามารถประกอบอาชีพของตนได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะหากมีการระบาดรอบที่ 2 โดยหลังเราได้ทยอยเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการ ประชาชนผู้ใช้บริการ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการกำกับกิจการนั้นๆ สำหรับการพูดคุยในวันนี้คงเป็นการรับทราบข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการผ่อนคลายให้กับสถานประกอบการและสถานบันเทิง เชื่อว่าทุกคนยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐและศบค.ในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด ด้านนายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า ผู้ประกอบการทุกคนให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างดีในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ธุรกิจในถนนข้าวสารมี มีธุรกิจบางประเภทที่คนไม่รู้จักกันได้มาเจอกัน รวมถึงมีธุรกิจที่คนรู้จักกัน ได้มาทานข้าวและทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งธุรกิจประเภทหลังนี้น่าจะได้รับการผ่อนคลายได้แล้ว เพราะ เพราะธุรกิจมีมาตรการด้านสาธารณสุขกำกับอยู่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้มีการผ่อนคลายให้กับพวกเราและธุรกิจกลางคืน เพราะมีคนจำนวนมากได้รับความลำบาก ยกตัวอย่างนักดนตรีไม่มีรายได้ประจำ เขาจึงประสบความยากลำบาก แม้ได้เงินเยียวยา 5,000 บาทแต่ก็ยังไม่เพียงพอในการดำรงชีพ นอกจากมีตัวแทนชมรมสถานบันเทิงไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการสถานบันเทิงจากทั่วประเทศ มาร่วมพูดคุยหารือด้วย พร้อมยื่นข้อเสนอให้เป็นทางออก เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและพนักงานที่เกี่ยวข้องอาทิการขอสินเชื่อซอฟ์ทโลน 5 ปี , การขอยกเว้นภาษีสรรพสามิต 5 ปี หรือจนกว่าเศรษฐกิจหลังโควิด จะฟื้นตัว นอกจากนี้ได้เสนอให้เยียวยาบุคลากรนักร้องนักดนตรี ดีเจ พนักงานทุกตำแหน่ง โดยยืดระยะเวลาสินเชื่อ อีก 3 เดือน (บ้าน รถ) , สินเชื่อระยะสั้น (ออมสิน) ส่วนบุคคล เป็นต้น ส่วน นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กระทรวงคมนาคม ระบุถึงมาตรการผ่อนปรนว่า ขร.เตรียมเสนอรัฐบาลคลายล็อกมาตรการเว้นระยะห่างภายในรถไฟฟ้าและรถไฟชานเมือง พร้อมเพิ่มความหนาแน่นจากเดิมได้ไม่เกินร้อยละ 50 เป็น 70 แต่ยังคงต้องเข้มงวดด้านระบบการจัดการให้มีSafety manager ตรวจสอบความสะอาด ความหนาแน่น และการดูแลการบริการตามมาตรฐาน สาธารณสุขอย่างสม่ำเสมอ
การเมือง
"ธนาธร"ชำแหละงบสู้โควิด มีแต่แบบเดิมๆ เฉพาะงบทำถนนกว่า 12,000 โครงการ![]() 21 มิถุนายน 2563 - 21:55 น.
169
"ธนาธร" ชำแหละงบสู้โควิด มีแต่แบบเดิมๆ เฉพาะงบทำถนนกว่า 12,000 โครงการ ชวนคิดเปลี่ยนการจัดการงบฯ ฟื้นฟู "โควิด -19" ให้คำนึงถึง "supply chain" ของโลกใหม่ แนะ "ผลิตอุปกรณ์แพทย์ - อุตฯ รถไฟ - เกษตรก้าวหน้า - สร้างรัฐบาลดิจิตอล" เชื่อยกระดับประเทศได้วันที่ 21 มิถุนายน 2563-ที่ยูทูบคณะก้าวหน้า - Progressive Movement นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ร่วมบรรยายในหลักสูตร “โควิด -1984” ซึ่งเป็นซีรีส์บรรยายสาธารณะของ “Common School” โดยระบุในหัวข้อ “มองโลกผ่านซัพพลาย เชน (supply chain):จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย”
มีใจความตอนหนึ่งว่า วิกฤตการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสส่งผลกับห่วงโซ่การผลิตหรือซัพพลายเชน ทำให้เกิดภาวะช็อคขึ้นในห่วงโซ่การผลิตของโลกในหลายอุตสาหกรรม ทำให้ซัพพลายเชนในระดับโลกชะงักลง เเละทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบต่างๆ เปลี่ยนบทบาทของรัฐ เเละบทบาทของซัพพลายเชนมีรูปแบบที่น่าสนใจอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ 1. ความรู้สึกของประชาชนทั่วประเทศของตัวเองที่ไม่มีความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ 2.ความรู้สึกของประชาชนที่รู้สึกว่าประเทศของตัวเองไม่มีความมั่นคงทางด้านการสาธารณสุข ซึ่งมีมาก่อนแล้วแต่โคโรน่าไวรัสทำให้ความรู้สึกแบบนี้ทวีคูณขึ้นไปอีก ดังนั้น จึงทำให้ความพยายามที่จะรักษาซัพพลายเชนไว้ มีความซับซ้อนสูงขึ้น การแยกย้ายกันผลิตตามความเชี่ยวชาญในแต่ละพื้นที่ของโลก ถูกมองให้กลับมาเป็นการดึงงานกลับมาอยู่ในประเทศ หรืออยู่ในแถบภูมิภาคของตัวเองมากขึ้น นี่คือกระแสโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ หรือ Reverse globalization จาก globalization กลายเป็น Reverse globalization กลายเป็น Regionalization จากความกังวลที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ซึ่งนี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะหันกลับมามองประเทศไทยผ่านมุมมองของห่วงโซ่การผลิตของโลกอย่างจริงจัง ว่าเราจะใช้โอกาสนี้พาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เราต้องคำนึงถึง ก็คือทิศทางเศรษฐกิจการเมืองของโลกหลังโควิดที่เปลี่ยนไป การเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่และปัญหาเฉพาะของประเทศนี่คือปัจจัยหลัก นี่คือโจทย์หลัก ซึ่งการออกแบบของประเทศไทยให้เหมาะสมกับห่วงโซ่การผลิตใหม่หลังโควิดของโลก "ถ้าเราทำได้ดีจะทำให้ประชาชนมีงานทำงานที่มีผลตอบแทนดีที่มีคุณค่า งานที่มีความหมาย จะทำให้เราประเทศเรามีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และจะทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ข้ามจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปเป็นประเทศที่ร่ำรวยได้ นี่คือโอกาสที่สำคัญสำหรับรัฐบาลไทย"นายธนาธร กล่าว ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ก้อนหนึ่งเพื่อต่อสู้การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ซึ่งพบก้อนนี้มีจำนวนเงิน 1.9 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น 1. งบประมาณเพื่อการเยียวยาเพื่อการสาธารณสุขและเพื่อการฟื้นฟูประเทศ 1 ล้านล้านบาท 2. งบประมาณเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี 500,000 ล้านบาท 3. งบประมาณเพื่อพยุงเสถียรภาพทางด้านการเงินในตลาดทุนผ่านการพยุงหุ้นกู้อีก 4 แสนล้านบาท รวมกันทั้งหมด 1.9 ล้านบาท ที่สำคัญจริงๆ คือ การฟื้นฟูประเทศกับการพาประเทศไปข้างหน้ากับการปรับเปลี่ยนบทบาทของประเทศไทยในห่วงโซ่การผลิตโลก “งบฟื้นฟู 4 แสนล้านบาทที่อยู่ใน 1 ล้านล้านบาทก้อนแรก จนถึงวันนี้ ได้ให้หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ยื่นโครงการข้อเสนอว่าใครจะต้องการใช้เงิน โดยส่งข้อเสนอเข้ามาตั้งแต่วันที่ 5 - 15 มิถุนายน พบว่าโครงการเข้ามาเป็นจำนวนมากและเกินกรอบงบประมาณไปแล้ว ซึ่งโครงการส่วนใหญ่ที่ส่งเข้ามา โดยมากเป็นการทำถนนกว่า 12,000 กว่าโครงการ เป็นเรื่องการจัดการน้ำ 7,000 โครงการ เป็นเรื่องการจัดการด้านการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอบรมเกษตรกร หรือการส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ อีก 5,461 โครงการ" นายธนาธร ระบุ นายธนาธร กล่าวอีกว่า ถ้าดูภาพรวมของโครงการต่างๆ เหล่านี้ จะเห็นว่าเราไม่มีโครงการ หรือไม่มียุทธศาสตร์ที่คำนึงว่าประเทศไทยจะอยู่ตรงไหนในห่วงโซ่การผลิตใหม่ของโลกหลังโควิดเลย เราเห็นแต่รูปแบบการบริหารจัดการภาครัฐแบบเดิม ถ้ายังจัดการใช้แบบนี้ประเทศไทยจะไม่ไปข้างหน้า จะไม่พร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ข้อเสนอที่ผมอยากจะให้ทุกคนได้เห็น คือ ต้องจัดการงบ 4 แสนล้านตัวนี้เสียใหม่ โดยการคำนึงถึงซัพลายเชนของโลก ณ ปัจจุบันนี้ด้วย นายธนาธร กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนพูด คือ การมองเศรษฐกิจการเมืองระดับโลกหลังจากโควิด การมองการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีซึ่งโควิดมาเป็นตัวเร่งมันทำให้มันรวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น และการมองปัญหาของประเทศไทยภายใต้ทรัพยากรที่เรามีอยู่จำกัด เราจะเลือกทำอะไร ไม่ทำอะไร เราจะอยู่ตรงไหนของห่วงโซ่การผลิตของโลกในสินค้าและบริการต่างๆ ถ้าตัดงบประมาณออกมาส่วนหนึ่ง ไม่ใช่เอาไปทำในรูปแบบเดิม เช่น สร้างถนน ขุดบ่อน้ำ ต้องเอามาสร้างงานในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยการคำนึงถึงห่วงโซ่การผลิตระดับโลกอย่างมียุทธศาสตร์จริงๆ โ ดงบประมาณออกมาส่วนหนึ่ง ไม่ใช่เอาไปทำในรูปแบบเดิม เช่น สร้างถนน ขุดบ่อน้ำ ต้องเอามาสร้างงานในรูปแบบใหม่ๆ ด้วยการคำนึงถึงห่วงโซ่การผลิตระดับโลกอย่างมียุทธศาสตร์จริงๆ โดยมองว่าประเทศไทยจะทำอะไรบ้าง จะเกิดการจ้างงานจากอะไร แต่ทั้งหมด จะไม่สามารถเกิดได้เลยถ้าสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกไม่มีอยู่ในประเทศนี้ ที่มาของนวัตกรรมก็คือความคิดสร้างสรรค์ และที่มาของความคิดสร้างสรรค์นั้นก็มาจากการที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ ในการแสดงความคิดเห็น ดยมองว่าประเทศไทยจะทำอะไรบ้าง จะเกิดการจ้างงานจากอะไร แต่ทั้งหมด จะไม่สามารถเกิดได้เลยถ้าสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกไม่มีอยู่ในประเทศนี้ ที่มาของนวัตกรรมก็คือความคิดสร้างสรรค์ และที่มาของความคิดสร้างสรรค์นั้นก็มาจากการที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ ในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมที่ประชาชนทุกคนตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง ไม่ใช่มาจากประชาชนที่ถูกกดทับ ไม่ได้มาจากประชาชนที่ถูกด้อยค่า ไม่ได้มาจากประชาชนที่รู้สึกว่าตนเองไม่ได้มีสิทธิ์เสรีภาพความเป็นมนุษย์ ดังนั้น ถ้าเราอยากจะเห็นสังคมไทยที่ก้าวหน้าเท่าทันโลกมีนวัตกรรมที่เป็นของตัวเองจำเป็นที่จะต้องปกป้องการมีอยู่ของสิทธิเสรีภาพอันเป็นรากฐานที่สำคัญของความคิดสร้างสรรค์ในประเทศไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการบรรยายดังกล่าว นายธนาธร ได้นำเสนอตัวอย่างโครงการและงานที่จะเกิดขึ้นภายใต้การคิดคำนึงถึง ห่วงโซ่การผลิต หรือ supply chain ของโลกในปัจจุบัน เช่น การเสนอผลิตเครื่องช่วยหายใจใช้ภายในประเทศ โดยมีรัฐมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะผู้ซื้อ ผู้สนับสนุน และอำนวยความสะดวกให้เกิดการลงทุนดังกล่าว, อุตสาหกรรมรถไฟในประเทศ แทนที่จะนำเข้ารถไฟทั้งหมดก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นผู้ผลิตในแต่ละระดับ จนสามารถผลิตเองได้ทั้งหมด อุตสาหกรรมเกษตร อาทิ ยางพารา ต้องมีการจัดวางตำแหน่งของผู้เล่นต่างๆ ในห่วงโซ่การผลิตยางใหม่ โดยเกษตรกรไม่ใช่เป็นแต่เพียงผู้ขายออกจากสวนอีกต่อไป แต่ต้องมีส่วนร่วมในการแปรรูปขั้นต้น และผลิตภัณฑ์ขั้นต้นด้วย ขณะที่บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ต้องออกไปแข่งขันในตลาดโลกแล้วเอามูลค่าเพิ่มกลับเข้าในประเทศไทย "การเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงบริการของภาครัฐ ต้องพัฒนาให้เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ลดค่าใช้จ่าย เวลา เอกสารต่างๆ และเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างแท้จริง"นายธนาธร กล่าวในที่สุด หมอยง ชี้อย่าพึ่งประมาท โควิดยังน่ากลัว อัตราการแพร่ระบาดทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ 1 ล้านคน ![]() 22 มิถุนายน 2563 - 13:17 น.
หมอยงชี้โควิด-19 การระบาดของทั่วโลก ยังมีอัตราในการเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เรายังคงต้องระมัดระวังอย่างมาก
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิด-19 การระบาดของทั่วโลก ยังมีอัตราในการเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เมื่อเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1 ล้านคนจะใช้เวลา 12 วัน ต่อมาเมื่อถึงกลางเดือนพฤษภาคม ถึงต้นมิถุนายน เป็นต้นมา อัตราการเพิ่มขึ้นในอัตรา 1 ล้านคนทุก 10 วัน มาในสัปดาห์นี้และสัปดาห์ต่อไป มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น อาทิตย์ละ 1 ล้านคน ที่สำคัญ โรคระบาดเข้าสู่ประเทศ ลาตินอเมริกา และมีอัตราการเพิ่มตัวสูงมาก โดยเฉพาะในบราซิล
นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโควิด19อย่างรวดเร็วยังเพิ่มขึ้นในอินเดีย บังคลาเทศ และประเทศในตะวันออกกลาง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการระบาด จะเข้าสู่ทวีปแอฟริกาในที่สุด ตัวเลขที่ไม่ได้วินิจฉัยจะมีจำนวนมาก ในประเทศเพื่อนบ้านเรา ที่มีการระบาดมากและรวดเร็ว ก็คงจะเป็นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ การระบาดทั่วโลกยังสูงอยู่ รวมทั้งประเทศที่ไม่อยู่ไกลจากบ้านเรานัก เรายังคงต้องระมัดระวังอย่างมาก ไม่ให้มีการระบาดภายในประเทศเกิดขึ้น เราคงจะต้องต่อสู้ไปอีกยาวนาน ทุกคนจะต้องช่วยกัน ที่จะไม่ลืม กำหนดระยะห่างสำหรับบุคคล สังคม ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย เจาะประเด็นร้อน คนไม่เท่ากัน "วิสา" เหงาเศร้า "ปู" กินหรูอยู่เป็น![]() 22 มิถุนายน 2563 - 12:14 น.
2.7k
คนไม่เท่ากัน "วิสา" เหงาเศร้า "ปู" กินหรูอยู่เป็น++ ขณะที่ วรวุฒิ เทือกชัยภูมิ สมาชิกวงดนตรีไฟเย็น ผู้ได้รับสถานะลี้ภัยในฝรั่งเศส ได้ออกไปร่วมเดินขบวนเรียกร้องร่วมกับผู้ลี้ภัยในฝรั่งเศส เนื่องในวันผู้ลี้ภัยสากล เมื่อ 20 มิ.ย.2563
อ่านข่าว... ถูกทิ้งแล้ว วิสาฟ้าสีทอง "ฟ้าวาดฟ้าวาดฝันวาดวันใหม่ ทุกฉากฟ้าเปลี่ยนไปไม่ซ้ำเก่า เมฆขาวเทาสลับแซมแต้มรูปเงา ทะมึนเค้า คล้ายทะเลเทลงมา ดวงตะวันดาวเดือนตัวละคร แสดงบทซับซ้อนว่ายฟ้อนฟ้า สร้างสีสันงดงามอร่ามตา ธรรมชาติจินตนาจิตรกร"
บทกวีชิ้นล่าสุด กวีบทนี้ สะท้อนความเหงาเศร้าของนักเขียนฝ่ายประชาธิปไตยอย่างเห็นได้ชัด ดังที่ทราบ วิสาป่วยเรื้อรัง และต้องออกมาอยู่ในชนบท ทำให้การเดินทางไปพบแพทย์ค่อนข้างไม่สะดวก ลึกๆ แล้ว วิสาอยากกลับเมืองไทย จึงพยายามส่งสัญญาณมาตลอดว่า อยู่แดนใดไม่สุขใจเท่าอยู่บ้านเรา
วิสา ป่วยเรื้อรังอยากกลับบ้าน ตัดภาพจากเยอรมัน ไปที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ วันที่ 21 มิ.ย.2563 สองพี่น้องตระกูล “ชินวัตร” กำลังมีความสุขในการฉลองวันเกิด “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แบบเงียบๆ แต่ดังก้องไปทั้งโลก
ตอนสองทุ่มวันเดียวกัน ยิ่งลักษณ์ ได้โพสต์คลิปสั้นๆ ขณะเข้าไปกอดพี่ชาย-ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังทำกับข้าวให้กิน พร้อมกับร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ โดยอดีตนายกฯปู ได้เดินเข้าไปกอดทักษิณ พร้อมกล่าวว่า “พี่ชายน่ารักมากทำกับข้าวให้กิน ปีนี้ อย่าอิจฉานะ เพราะทำกับข้าวกินกันสองคน” ด้าน “หลานโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ก็อวยพร “อาปู” ผ่านสื่อโซเชียลตอนหนึ่งว่า “...สำหรับคำแนะนำ และกำลังใจที่อามีให้โอ๊คตลอดเวลาที่ผ่านมา โอ๊คขอเป็นกำลังใจให้อาปูเช่นกัน และหวังว่า จะได้พบกับอาปูเร็วๆ นี้ครับ”
.............................................................. 22 มิ.ย. 2563 |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |