*/
<< | พฤศจิกายน 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 |
. Real trade หมายถึงกิจกรรมและธุรกรรมภาคการผลิตจริง ทั้งทางภาคอุตสาหกรรม กสิกรรม สัตว์บาล การท่องเที่ยว การพาณิชย์ การขนส่ง มีทุน มีที่ดิน มีที่ทำการ มีแรงงาน เรียกอีกอย่างว่า เป็นการลงทุนทางตรง ทำให้เกิดผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ (Products added) จริงต่อระบบ Paper trade หมายถึงธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายกระดาษ เช่น ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน การซื้อขายตราสารทุน อนุพันธ์ (Futures) ในรูปแบบต่างๆ เรียกอีกอย่างว่า เป็นการลงทุนทางอ้อม เป็นธุรกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ (No products added) จริงต่อระบบ เป็นการใช้เงินต่อเงิน ไม่ต่างอะไรกับการ เล่นไพ่ หวยบนดิน-ใต้ดิน สลากกินแบ่ง สลากพิเศษ พนันม้า พนันบอล การพนันทุกชนิด ฯลฯ เอารัดเอาเปรียบระบบ เป็นอบายมุข ตะวันตกไม่ทราบอบายมุขคืออะไร แค่ทำธุระกรรมที่ให้ได้เงินเป็นใช้ได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อระบบ ประเทศไทยไปลอกเลียนทางตะวันตกมา พระพุทธเจ้ามีข้อห้ามในการเสพย์อบายมุข อบายมุขคือทางแห่งความเสื่อม ส่วนแบ่งธุรกรรมโลก ในอดีตเป็น Real trade 100% เป็น Paper trade 0% ต่อมา Paper trade มีการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ทำให้ทุกวันนี้ Real trade มีส่วนแบ่ง 45% ส่วน Paper trade เพิ่มขึ้นมาเป็น 55% นับวันส่วนแบ่งธุรกรรม Paper trade จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ดูแล้วไม่น่าจะผิดจริง เช่น ทองคำมีส่วนแบ่งมูลค่าการใช้จริง 10% (Real trade) แต่มีการซื้อขาย ราคาทองคำ คิดเป็นส่วนแบ่ง 90% (Paper trade) ผู้คนในระบบมักจะพูดถึงปัญหาของ Real trade แต่ไม่รู้ถึงปัญหาของ Paper trade ที่เสื่อมโลกลงทุกวัน http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000028649 ตราสารอนุพันธ์ (อังกฤษ: derivative บางตำราอาจเรียกว่า สัญญาอนุพันธ์) เป็นตราสารทางการเงินประเภทหนึ่ง ที่มูลค่าของตราสารจะขึ้นอยู่กับกระแสเงินของสินทรัพย์อ้างอิง ไม่ได้มีค่าจากกระแสเงินของตัวตราสารเองโดยตรง ตัวอย่างของตราสารอนุพันธ์ ได้แก่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบมาตรฐาน (futures), สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่มาตรฐาน (forward), ตราสารแลกเปลี่ยน (swap), ตราสารสิทธิ (option) เป็นต้น และมีสินทรัพย์ที่สามารถอ้างอิงได้คือ เงินตราต่างประเทศ ตราสารหนี้ ตราสารทุน สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น โลหะมีค่า สินค้าเกษตร น้ำมัน หรือสินค้าอื่นใดที่มีดัชนีแน่นอนรองรับการออกตราสารอนุพันธ์ได้ (ที่มา: วิกิพีเดีย) คำอธิบายที่เป็นทางการ คือการซื้อขายสัญญา ฟังแล้วเข้าใจยาก ผู้เขียนใช้คำว่าการซื้อขายตัวเลขของดัชนีหรือราคาสินค้า คนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เรียกการซื้อขายหวยว่า ซื้อเลข ให้ความหมายตรงประเด็น ประเทศไทยเริ่มเปิดตลาดอนุพันธ์ ตราสารทุน และสินค้าโภคภัณฑ์ปี 2549 ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้ามาหาประโยชน์จากการซื้อขายอนุพันธ์อย่างท่วมท้น ทำให้สภาพคล่องท่วมประเทศ กระทั่งต้องออกมาตรการสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ เงินทุนไหลเข้าเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 Futures เป็นอนุพันธ์ประเภทหนึ่งที่เข้าใจง่าย และเป็นที่นิยมในหมู่นักเก็งกำไร เป็นธุรกรรมใช้เงินต่อเงิน โดยการเอา ตัวเลข ของดัชนีหุ้น(TFEX) ราคาหุ้น ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน ฯลฯ มาเป็น ราคาอ้างอิง เพื่อทำการซื้อขาย ซึ่งทำได้ง่าย เช่น อาจจะเอา ตัวเลข DJIA หรือ NIKKEI225 มาซื้อขายก็ได้ โดยไม่มีตัวสินค้า ไม่ต้องมีที่ดิน ไม่ต้องมีโรงงาน ไม่ต้องมีคนงาน ไม่ต้องมีสำนักงาน ไม่ต้องมีพนักงาน มีตลาดหลักทรัพย์และโบรกเกอร์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางซื้อขายตัวเลข ใช้เงินประกัน 10 บาท สามารถซื้อขายตัวเลขได้ 100 บาท ทำให้มีกำไร-ขาดทุนมากกว่าการซื้อขายหุ้นตามธรรมดา 10 เท่า ยกตัวอย่างเช่นการซื้อขาย Futures SET50 Index วางเงินประกัน 6 หมื่นบาทต่อ 1 สัญญา ซื้อขาย Futures SET50 Index 6 แสนบาท ราคาขึ้นก็มีกำไร ราคาตกก็มีกำไร หาได้ที่ไหนในโลกนี้ นอกจากที่ตลาดหุ้นที่เดียว มีการบังคับขายตัวเลขด้วย สอบถามเจ้าหน้าที่โบรเกอร์ ได้ความว่า คนท้องถิ่นที่มีกำไร มีน้อย ส่วนใหญ่ขาดทุน นั่นคือ คนที่มีกำไรจริง จะเป็นคนที่รู้ตลาด หรือเป็นคนที่คุมตลาดได้ ปั่นตลาดได้ ได้แก่บรรดา Hedge Fund ที่ชาญฉลาดนั่นเอง เราสร้างตลาดหุ้นมาให้ Hedge Fund มั่งคั่ง เราถางทางให้สุนัขเดิน ตลาดหลักทรัพย์ได้ค่าธรรมเนียมและโบรกเกอร์ได้ค่านายหน้า รัฐได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่เกิดผลิตผลจริงต่อระบบ การพนันส่วนบุคคล ทำให้บุคคลหมดตัว แต่ไม่เลวร้ายเท่ากับการพนันแห่งชาติหรือแห่งโลก ทำให้ชาติและโลกสิ้นเนื้อประดาตัว ตลาดหุ้นไทย ทำให้ค่าเงินบาทเสียหาย สภาพคล่องเสียหาย ทำให้เอกชนล้มละลาย เกิดหนี้เสีย ทำให้คนตกงาน และทำให้ไทยเข้าไอเอมเอฟมาแล้วถึง 2 ครั้ง อุปมา-อุปมัย (อะไรคืออบายมุข และไม่ใช่อบายมุข) อีกแบบ มี 100 คน อยู่ด้วยมิจฉาปฏิบัติ เช่น เล่นการพนันกันแต่อย่างเดียว คนทั้ง 100 คนนี้จะต้องอดตาย เพราะไม่มีข้าวกิน ไม่มีคนปลูกข้าว แล้วจะเอาข้าวที่ไหนกิน (Paper trade อบายมุข) แต่ความเป็นจริงในโลกปัจจุบัน คนสัมมาปฏิบัติมี 99% (Real trade) แต่คนมิจฉาปฏิบัติมีในระบบ 1% คน (Paper trade) คน 1% นี้เอารัดเอาเปรียบคนส่วนใหญ่หรือเอารัดเอาเปรียบระบบ มีมิจฉาธุรกิจต่างๆ รวมทั้งสร้างตลาดหุ้นมาเอารัดเอาเปรียบระบบ ทำให้ระบบเกิดวิกฤตรอบแล้วรอบเล่า คน 1% มั่งคั่งเป็นเจ้าของสินทรัพย์ 75%ทั่วโลก และเป็นเจ้าของสินทรัพย์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทำให้คน 99%ตกงาน ทำให้โลกเกิดหนี้เสีย และยากจนลงเรื่อยๆ Occupy Wall Street ความเดือดร้อน เห็นได้จากผู้คนตามเมืองต่างๆในอเมริกา และทั่วโลกออกมาชุมนุมกัน เรียกร้องหางานทำ เรียกร้องขอความสมดุลของรายได้ ตุลาคม 2554 คนอเมริกันพากันมาชุมนุมที่บริเวณตลาดหุ้นวอลล์สตรีท Occupy Wall Street ลามไปถึง 951 เมืองใน 82 ประเทศทั่วโลก มีข้อความประท้วงที่น่าสนใจหลายแบบ
ป้ายส่วนหนึ่งแสดงความไม่พอใจต่อตลาดหุ้น ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมบางส่วน ที่ผู้เขียนเห็นว่าไม่ตรงประเด็น คือให้เก็บภาษีคนรวย ซึ่งจะช่วยอะไรได้ไม่มาก ภาพที่ 6-7-8-9 ที่ผู้เขียนเห็นว่าตรงประเด็น NO MORE WALL STREET..- NO BULLS, NO BEARS..- STOP TRADING OUR FUTURES - Castrate the bull เป็นปรัชญา หากเข้าใจและเปลี่ยนแปลงได้ วิกฤติเศรษฐกิจโลกก็จะยุติลงได้ ไตรมาสที่ 3/2011 ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขอให้สภาสหรัฐอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ถึงปี 2012 ถึง 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และขออนุมัติงบประมาณเพื่อกระตุ้นการสร้างงานกว่า 447 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (American Jobs Act) เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แท้จริงปัญหาทั้ง 2 เกิดจากการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์ในปี 2000 ที่ทำให้ค่าเงินเหรียญเสียหาย สภาพคล่องเสียหาย เอกชนล้มลง คนตกงาน เกิดหนี้เสีย และเงินเฟ้อสูง ดูกลไกการพังทลาย"ตลาดหุ้น ข้างล่างนี้ ประเทศไทยก็ประสบปัญหาจากตลาดหุ้น เช่นเดียวกับอเมริกา และทั่วโลก ที่ทำประเทศยากจนลง ทรัพยากรของระบบตกไปเป็นของ Hedge Fund แทบหมด แม้ประเทศที่ไม่มีตลาดหุ้นก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน การพังทลายของสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นเงินสกุลหลักของโลก ทำให้เงินเหรียญสหรัฐเล็กลง ทำให้ต้องใช้เงินเหรียญสหรัฐมากขึ้นในการซื้อน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ หรือ ก็คือราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น หรือ ก็คือเงินเฟ้อโลกสูงขึ้น หรือ ก็คือค่าครองชีพโลกสูงขึ้นนั่นเอง ประเทศไม่มีตลาดหุ้นก็เดือดร้อนไปด้วย ตลาดหุ้นปั่นได้ ไม่มีตลาดหุ้นใดไม่ถูกปั่น ไม่ว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ หรือตลาดหุ้นที่มีมานานแล้ว ไม่ว่าตลาดหุ้นที่ยังไม่พัฒนา หรือตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว ตลาดหุ้นไม่ได้เป็นไปตามปัจจัยพื้นฐานอย่างเดียว แต่เป็นไปตามปัจจัยทางเทคนิค จิตวิทยา ความกล้า-กลัว ของการขึ้นลงของตลาด การปั่นตลาดหุ้นทุกวันนี้ไม่ได้ปั่นเป็นประเทศแล้ว แต่ปั่นเป็นภูมิภาค และทั้งโลก ดังเช่นที่เกิดกับอเมริกาในปี 2000 และยุโรปในปี 2008 เป็นการปั่นที่มีมูลค่าสูงที่สุดให้โลก ความเสียหายจึงสูงที่สุดในโลก ที่ทำให้เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจประเทศต่างๆ เศรษฐกิจโลกล้มลง ตลาดหุ้นไทยนำพาประเทศไทยเข้าไอเอ็มเอฟมา 2 ครั้งแล้ว Hedge Fund คือคนเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของระบบ ที่มั่งคั่งแบบง่ายดาย และเป็นเจ้าของสินทรัพย์ของระบบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ ซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ ของ Bank of America 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 150,000 ล้านบาท แท้จริงโลกจะไปตำหนิบรรดา Paper trade ที่ทำการปั่นเศรษฐกิจโลกไม่ได้ แต่เพราะเราสร้างตลาดหุ้นมาให้เขาเล่นต่างหาก ยิ่งมีการพัฒนาตลาดทุนเท่าใด ยิ่งทำให้บรรดา Paper trade กระดิกเท้ามั่งคั่งง่ายขึ้นกว่าเดิม เช่นเรื่องอนุพันธ์ Futures เป็นต้น แต่หากยุติตลาดหุ้นได้ แล้วโลกนี้เหลือแต่ตลาดเงินอย่างเดียว บรรดา Paper trade จะต้องฝ่อตาย ความอยู่ดีมีสุขและความสมดุลทางเศรษฐกิจจะกลับคืนมาสู่ระบบหรือคน 99% ของโลก เรื่องทางเดียวกัน ...................................... |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |