พูดมั่วกันไปหมดว่า “มือปาระเบิด”ธนาคารกรุงเทพ บางคนจินตนาการไปว่า คนร้ายเป็นคนเดียวกันทั้ง 4 สาขา เพราะระเบิดชนิดเดียวกัน บางคนบอกว่า มีพยานยืนยันชัดเจน และอีกสารพัดเหตุผลที่ออกมาแย่งกันพูดในเรื่องนี้

“พยาน” ตามที่ตำรวจสอบสวนนั้น ใช่ว่าจะเชื่อได้ 100 % เนื่องจากวันเวลาเกิดเหตุนั้น เป็นช่วงกลางคืน จะมีใครซักกี่คน ที่เห็นหน้าตาผู้ต้องสงสัยได้อย่างชัดเจนขนาดนั้น  

            การทำงานของตำรวจแบบลวกๆ หรือรีบๆ ร้อนๆ และยังร้อนตัวออกมาพูดเช่นนี้ อาจส่งผลเสียตามมาภายหลังได้

            ตลอดระยะเวลาที่มีการระเบิดที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ไม่เคยมี “ตำรวจ”ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง จับคนร้ายได้แบบ “จะจะ”ได้เลย มีแต่สร้างผลงานไปแล้วก็หนีลอยนวลกันทั้งนั้น  

            การที่ตำรวจ สน.ยานนาวา เร่งรีบเสนออกหมายจับ ผู้ต้องสงสัยตามภาพที่สเก็ตช์ได้จากพยานที่อยู่ในมุมมืดนั้น ก็เช่นกัน เป็นการเร่งรีบเพื่อสร้างกระแส หรือเป็นการกระทำที่ต้องการปกป้องเก้าอี้ผู้หลักผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาลจนเกินไปหรือไม่...??

            ตำรวจนครบาลยุคนี้ควรย้อนไปดูเหตุการณ์ระเบิด 9 จุดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ที่เกิดขึ้นระหว่าง 31 ธันวาคม 2549 ต่อกับวันที่ 1 มกราคม 2550 นั้น ตำรวจก็เสนอออกหมายจับ “มั่ว”อีกเช่นกัน

            คงจำกันได้ พล.ต.ต.กฤษดา พันธุ์คงชื่น และ พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รองผบช.น.ในขณะนั้น ที่รับผิดชอบสืบสวนสอบสวนคดีลอบวางระเบิดในครั้งนั้น ใช้วิธีเดียวกันคือการเสนอออกหมายจับตามภาพสเก็ตช์ และการเสนอออกหมายจับตามวิดีโอวงจรปิด

 เหตุการณ์ “มั่ว”ครั้งนั้น เกิดขึ้นเมื่อตำรวจเสนอออกหมายจับชายคนหนึ่ง ที่เดินผ่านกล้องวิดีโอร้านค้าแห่งหนึ่งใน ซีคอนฯ เมื่อศาลอนุมัติตามที่ตำรวจเสนอไปแล้ว พร้อมประกาศค่าหัวไปแล้ว ทำให้ผู้ต้องสงสัยคนนั้นอยู่บ้าน และทำงานกันอย่างไม่มีความสุข เดือดร้อนจนต้องออกมาปรากฏตัวกับ “สื่อ” ทันที

นายปรัชญา ปรีชาเวส พร้อมเพื่อนอีก 1 คน กลายผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิดซีคอน ในครั้งนั้น ต้องตกงาน เพื่อนๆ ประณามว่าเป็นมือระเบิด จนต้องออกมาร้อง “สื่อ”ประณามการกระทำของตำรวจเป็นแบบละเมิดสิทธิและไม่มีใครรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเลย

ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ ที่ตำรวจสเก็ตช์ภาพไว้หลายจุด และนำภาพวิดีโอมาเสนอให้ศาลออกหมายจับ ก็ไม่เคยจับใครมาดำเนินคดีได้เลย

นี่แหละ...!!! บทเรียนของการออกมายจับตามภาพวิดีโอ และการออกหมายจับตามภาพสเก็ตช์ ต้องระวังอย่าให้ “มั่ว” และละเมิดสิทธิซ้ำซากขึ้นมาเพื่อรักษาเก้าอี้ใครบางคนซ้ำแล้ว ซ้ำอีก

                                    +++++++++++++++++++