ยิ่งใกล้ “ดีเดย์”รวมพล “แดงทั้งแผ่นดิน” การโชว์ผลงานของรัฐบาลก็ยิ่งเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญสุด คงเป็นเรื่องมาตรการด้าน “กฎหมาย” และมาตรการด้าน “ขู่”ผ่านสื่อสารพัดรูปแบบว่า หากเข้ามาแล้วจะต้องเกิดความเสียหาย “รถ”ถูกเผาบ้าง และต้องใช้มาตรการรุนแรงบาดเจ็บเสียหายได้บ้าง

            จะเห็นได้ว่า พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นกลุ่มแรก ต้องถูกมาตรการทางกฎหมายเล่นงานจนขยับตัวกันไม่ได้

            ด้านการข่าวของรัฐบาลนั้น เชื่อกันว่า “ศักยภาพ”ของ “เสธ.แดง” น่าจะมีส่วนในการใช้ความรุนแรงได้ตลอดเวลา  

            ในเมื่อ“เสธ.แดง” ปรากฏตัวให้ตำรวจกองปราบปรามดำเนินการรวบได้ทั้งก๊วนแล้ว จึงมีข้อหาตามมาอีกมากมาย แต่ละคนนั้นได้รับแจกกันไปคนละ 2-3 ข้อหา และทำสำนวนส่งศาลอย่างรวดเร็วโดยศาลไม่ให้ประกันตัว “เคทอง” หรือนายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ คนสนิท “เสธ.แดง”ที่เหลือได้รับการประกันตัวทั้งหมด

            การจับกุมแก๊งนี้หากมองกันผิวเผินแล้ว คงจะสรุปได้ในเบื้องต้นว่า เป็นแผนที่ต้องการจะ “เด็ดปีก” ฝ่าย “เสื้อแดง”นั่นเอง

            ที่ผ่านมา  “เสธ.แดง” พร้อมพวกซึ่งรวมไปถึง“เคทอง” ยังแสดงท่าทีชัดเจนด้วยการข่มขู่และประกาศผ่านเว็บไซต์ออกมาว่า จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มสื่อมวลชน กับคนในรัฐบาล อย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้กลไกด้านกฎหมายจัดการอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่ออกมาแสดงอาการว่าจะใช้ความรุนแรงดังกล่าว

            การจับกุมของตำรวจดังกล่าว ยังสะท้อนไปยัง หน่วยงานต้นสังกัดของ “เสธ.แดง” คือ “กองทัพบก”ด้วยเหมือนกัน ที่ดำเนินการได้เพียงการ “พักราชการ” เท่านั้น แต่ยังไม่ดำเนินการตามวินัยของทหารเลย

            ทาง “กองทัพบก” ต้องไม่ลืมว่า “เสธ.แดง” ได้กระทำความผิดไม่น้อยกว่า 4 กรณีด้วยกัน เริ่มจาก “อยากเตะปากนาย” ด้วยการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนหลายแขนง เหมือนไม่เคารพผู้บังคับบัญชาอะไรเลย

            “ทหารพรานจะมาร่วมชุมนุมกับเสื้อแดง” เหตุการณ์ครั้งนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ต้องลงไปพบปะกับทำความเข้าใจกับทหารพรานเลยทีเดียว

            “ดอดพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ดูไบ”การกระทำดังกล่าว ไม่ได้มีการขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด โทษสูงสุดถึงจำคุกตามวินัยทหารเลยทีเดียว 

            “ลอบเข้าเขมรพบพ.ต.ท.ทักษิณ” เหตุการณ์ครั้งนั้นในตอนแรก “เสธ.แดง” บอกว่า มีคนของ “ฮุนเซน”มารับไม่ต้องประทับตราเข้าเมือง แต่เมื่อเป็นข่าวไปแล้วออกมาบอกอีกครั้งหนึ่งว่า เป็นรูปเหมือน “เสธ.แดง”

            การสอบสวนของ“กองทัพบก” ดำเนินการมานานแล้ว แต่เหมือนไม่ได้รีบเร่งอะไร หากไม่ทำงานชักช้าเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่า “เสธ.คนดัง” คงเหมือนกับทหารที่อยู่ในระเบียบวินัยทั่วๆ ไป สามารถคุมความประพฤติต่างๆ ให้อยู่ในแถวได้เป็นอย่างดี และสิ่งสำคัญคงสงบปากสงบคำได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องรอให้ตำรวจกองปราบปรามจับกุมได้เหมือนเหตุการณ์ไม่กี่วันมานี้

            รัฐบาลคงไม่สามารถบอกกับผู้ใหญ่ในกองทัพได้มากเท่าไรนัก คงต้องเชือดโชว์ให้เห็นกันเท่านั้นเอง

                                                            ++++++++++++++++++