เมื่อไม่นานมานี้ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” หรือ “ดีเอสไอ.สามารถติดตาม“เครื่องเพชร”ของกษัตริย์แห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่หลายไปกว่า 20 ปีกลับคืนมาได้อีกครั้ง นับว่าเป็นเครื่องเพชรชุดล่าสุดที่ติดตามกลับมาได้ แต่“บลูไดมอนด์” ที่ทางการซาอุฯ ต้องการมากที่สุดนั้น ยังไม่สามารถติดตามกลับคืนมาได้

พ.ต.อ.ณรัชย์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้บอกอย่างชัดเจนว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับผิดชอบคดิดตามเครื่องเพชรที่หายไป โอนให้มาเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากยังติดตามของกลางกลับคืนมาไม่ครบถ้วน และยังส่งกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับซาอุฯ อีกด้วย

“เมื่อไม่นานมานี้ สามารถติดตามเครื่องเพชรของกลางคืนคืนมาอีก 5 ชิ้น เช่น สร้อยข้อมือลักษณะคล้ายทอง 18 เค ลักษณะสานสร้อยทับกัน สร้อยคอถักทรงกลม ตรงกลางมีจี้เป็นรูปตราสัญลักษณ์คล้ายตราแผ่นดินของประเทศซาอุฯ และเครื่องประดับที่ทำจากมรกต ทั้งนี้ได้นำไปให้อุปทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย ท่านบอกเพียงแต่ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นทรัพย์สินที่สูญหายไปจากซาอุดีอาระเบีย ต้องให้ทาง DSI ตรวจสอบอีกครั้ง”

            พ.ต.อ.ณรัชย์ บอกว่า ของกลางทั้ง 5 ชิ้นได้เก็บไว้ที่ตู้นิรภัยของธนาคารอย่างดี นอกจากนี้ทาง ดีเอสไอ ยังส่งสายลับออกติดตามเครื่องเพชรกลับคืนมาอีก โดยเฉพาะเพชรเม็ดใหญ่ รวมไปถึง“บลูไดมอนด์”ที่มีมูลค่าสูง และหากติดตามมาได้มีปริมาณมากพอ ก็จะดำเนินการส่งมอบเพชรคืนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อที่จะได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย ซาอุฯกลับคืนมา

            หากย้อนไปถึงยุคของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ผู้ติดตามเครื่องเพชรซาอุฯ กลับคืนมาจาก “นายเกรียงไกร เตชะโม่ง” ผู้ขโมยเครื่องเพชร มาจากประเทศซาอุฯ ปัจจุบันต้องโทษประหารชีวิต เคยนำเครื่องเพชรไปคืนซาอุฯ เพื่อหวังจะฟื้นความสัมพันธ์ในลักษณะนี้เช่นกัน ปรากฏว่า เครื่องเพชรที่นำไปคืนนั้นเป็น“ของปลอม” ทำให้ไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างช้ำลงไปอีก

            มาในครั้งนี้ก็เช่นกัน ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า “เครื่องเพชร”ที่ได้คืนมาจำนวน 5 ชิ้นในครั้งนี้ เป็น “ของจริง” หรือ “ของปลอม” มีเพียง พ.ต.อ.ณรัชย์ ที่มีความเชื่อว่า เป็นของจริงเท่านั้น

            แต่เมื่อมีภาพ “เครื่องเพชร” หลุดเป็นภาพถ่าย ออกไปเผยแพร่ได้เพียงชิ้นเท่านั้น ก็มีประชาชนเป็นจำนวนมาก ได้จับผิด มองกันออกเป็น 2 มุม บางคนก็บอกว่า “ของจริง” และบางคนก็เชื่อว่า “ของปลอม” จึงหาข้อสรุปในเรื่องนี้กันไม่ได้

            ประเด็นที่มีการจับผิดภาพนี้นั้นเริ่มจาก

            1.ภาพสัญลักษณ์ของ”ซาอุฯ”นั้น คือต้นไม้ตั้งอยู่ในบนคมดาบ แต่สัญลักษณ์ที่พบบนสร้อยนั้นมีดาบไขว้ทับตัดต้นไม้

            2.ด้ามดาบด้านขวาเบลอไม่ชัดเจน

            3.ด้ามดาบด้านซ้ายมีห่วง สัญลักษณ์ของจริงนั้นไม่มี

            4.หลายคนไม่อยากเชื่อว่า ช่างสุดสอดฝีมือที่ทำเครื่องประดับให้กษัตริย์ซาอุฯ นั้น จะมีฝีมือที่ไม่พิถีพิถรรธ์ขนาดนี้เลย

            5.ตรงกลางดาบที่พบบนเครื่องประดับนั้น ไม่มีรูปสัญลักษณ์อะไร แต่ของจริงมี

            ลองช่วยกันตรวจสอบกันให้ละเอียด พร้อมกับแสดงความคิดเห็น ถึงเรื่องนี้กันอีกครั้ง หากนำของปลอมไปส่งให้ทางประเทศซาอุฯ กันครั้งนี้แล้ว คงไม่ต้องมาพูดกันถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “ไทย-ซาอุฯ”กันอีกต่อไปแล้ว

                                                            ++++++++++++++++++