อีกครั้งหนึ่งที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ได้พยายามแก้ปัญหา “วินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง” จากปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่า “ผิดกฎหมาย” แก้ไขใหม่เพื่อให้ “ถูกฎหมาย” และแก้ปัญหาเรื่อง “ส่วยเสื้อวิน” ที่มี “มาเฟีย-ตำรวจหลายคน”ไปมีส่วนในการรับผลประโยชน์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมในการกระทำผิดกฎหมายเช่นกัน แต่ทั้งผู้ดูแลตำรวจ และนายกรัฐมนตรีไม่เคยเชือดตำรวจรับส่วยที่เกิดขึ้นในทุกๆ เดือนได้เลย

“ของขวัญชิ้นที่ 3 นะครับ คือในส่วนของพี่น้องที่ประกอบอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้างครับ ปัจจุบันก็มีปัญหาเพราะว่า หลังจากที่เคยมีการขึ้นทะเบียนกันไว้ ก็ปรากฏว่ามีจำนวนมากครับซึ่งประกอบการอยู่ในลักษณะที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย นำมาสู่ปัญหาในเรื่องของการที่จะต้องมีการส่งเงินให้กลุ่มคนต่างๆ เป็นภาระอาจจะ 1,000-2,000 บาทต่อเดือน แล้วขณะเดียวกันครับสภาวะแวดล้อมการทำงาน แม้กระทั่งภาพลักษณ์ของอาชีพก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อยู่เป็นระยะๆ นะครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำเป็นของขวัญชิ้นที่ 3 ก็คือเรื่องของการที่จะให้มีการดำเนินการ ขึ้นทะเบียนเพื่อที่จะให้รถจักรยานยนต์รับจ้างนั้น ถูกต้องตามกฎหมาย 100 % แล้วก็จะมีการจัดระบบ มีการออกบัตรประจำตัว ให้เลขในเรื่องของทะเบียน เลขเสื้อเสื้อวินฯ นะครับ หมวกนิรภัย สอดคล้องต้องกันทั้งหมด และบัตรประจำตัวครั้งแรกตรงนี้ที่จะมีนั้น ก็จะนำไปสู่การพัฒนาระบบสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์ต่อไปได้ในอนาคตเช่นเดียวกัน”

การแก้ปัญหาให้ใช้รถจักรยานยนต์แบบ “ถูกกฎหมาย”นั้น พอแก้กันได้บ้าง แต่ปัญหาเรื่อง “ส่วย”นั้น คงเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง เพราะผลประโยชน์ระหว่าง “มาเฟีย”คุมวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างกับ “ตำรวจหลายคน”นั้นยากอย่างยิ่ง

จากการสัมภาษณ์คนขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างคนหนึ่ง ประกอบอาชีพนี้มาประมาณ 20 ปี ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 102 ในรายการ “ระวังภัย 24 ชั่วโมง”ออกอากาศทุกวันตั้งแต่ 20.00-21.00 น.ได้เล่าให้ฟังว่า ตั้งเริ่มต้นขับรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ก็มีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยต้องเสียค่า “เสื้อวิน” ในภาษามอเตอร์ไซด์รับจ้างเรียกว่า “ค่าเปลี่ยนหน้า”เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนคนขังวินฯจะต้องเสียค่าใช้จ่ายตัวละ 4,000 บาท เป็นการแลกเข้าขับรถในวินฯ

หลังจากนั้น จะต้องมาเสียค่ารายเดือนอีกตั้งแต่ 1,500-2,500 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งของวินฯนั้นๆ ว่า มีทำเลดีขนาดไหน หรือมีประชาชนมาใช้บริการมาก ก็จะต้องมีค่ารายเดือนแพงเพิ่มมากขึ้น

การจ่ายเงินนั้น ต้องจ่ายผ่านหัวหน้าวินฯ หลังจากนั้น หัวหน้าวินฯก็จะส่งต่อไปให้ตำรวจท้องที่อีกครั้งหนึ่ง

แต่หากลูกวินฯไม่ยอมจ่ายเงินให้เป็นรายเดือน ผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้าวินฯ ก็จะมาไล่บี้กับลูกวินฯอีกครั้งหนึ่ง มีทั้งเก็บย้อนหลัง หรือตัดออกจากการขับในวินฯนั้นๆ ไปเลย หากลูกวินฯมีเงินอยากจะมาขับอีกครั้ง จะต้องจ่ายเงินเท่ากับเริ่มต้นใหม่ ด้วยการจ่ายค่าเสื้อวินตัวละ 4,000 บาทและรายเดือนตามกติกาเถื่อนเหมือนเดิม

“ในกรณีหัวหน้าวินฯ เบี้ยวไม่จ่ายส่วยให้กับตำรวจท้องที่ ก็จะมีตำรวจจราจรมาเยี่ยมถึงวินฯด้วยเหมือนกัน โดยจะมาแจกใบสั่งให้กับลูกวินฯถึงที่ พร้อมกับแจกข้อหาแบบเบาๆ เช่น การจอดรถกีดขวางการจราจร หรือไม่พกสำเนาทะเบียนรถ เป็นต้น เพื่อเป็นการเตือนว่า ถึงเวลาส่งส่วยแล้วนะ”

คนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างคนเดิม บอกด้วยว่า การจ่ายรายเดือนนั้น บางวินฯจะมีโปรโมชั่นพิเศษ ด้วยการอำนวยความสะดวกในการไปเสียค่าปรับ หากลูกวินฯ มีการไปทำผิดกฎจราจร ตำรวจท้องที่ยึดใบขับขี่ไป หัวหน้าวินฯ เป็นผู้รับหน้าที่ไป “เคลียร์”นำใบขับขี่มาให้ แต่ทำผิดกฎจราจรได้เดือนละ 1 ครั้ง หากเกินกว่านี้จะต้องไปเสียค่าปรับเอง

จนกระทั่ง เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการออกใบอนุญาตให้รถจักรยานยนต์มี “ป้ายเหลือง” เพื่อเป็นการวิ่งรับจ้าง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของ “ส่วย-มาเฟีย”อีกเช่นกัน แต่ลูกวินฯ ก็ยังคงต้องส่งส่วยเหมือนเดิม โดยมีค่า “เสื้อวินฯ”แลกเข้าต้อง 4,000 บาท

ในส่วนของรายเดือนนั้นจะลดลง จากเดิม 1,500-2,500 บาท ลดลงมาเหลือ 450 บาท ทุกคนต้องจ่ายให้กับหัวหน้าวินฯ ซึ่งจะอ้างว่า เป็นการเก็บค่าน้ำดื่ม ค่าน้ำแข็งบ้าง ถ้าใครไม่จ่ายก็อยู่ในวินฯนั้นไม่ได้เช่นกัน

“แม้จะมีวินฯถูกต้องตามกฎหมายเกิดขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีวินฯเถื่อนเกิดขึ้นมาซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก ตามตรอก ซอกซอยหรือคอนโดมิเนียมสร้างใหม่ พร้อมกับจ่ายส่วยที่หนักกว่าเดิม โดยมีค่าเสื้อวินฯไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ค่ารายเดือนอีก 1,500-2,500 บาท”

ในการปฏิรูปมอเตอร์ไซด์รับจ้างกันใหม่ เพื่อแก้เรื่องส่วย พร้อมกับคาดหวังว่า จะทำให้ชีวิตครอบครัวและคนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างดีขึ้นมานั้น คนขับรายนี้ เชื่อว่า ไม่สามารถจะแก้ปัญหาเรื่อง “ส่วย” และ “มาเฟีย”คุมวินฯ ได้ อีกเช่นเคย

เมื่อถามคนขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างรายนี้ว่า หากนายกรัฐมนตรีเชิญไปปรึกษาการแก้ปัญหาเรื่อง “ส่วย-มาเฟีย”จะทำการแก้ปัญหานี้อย่างไร เขาตอบว่า มึนตึ๊บเหมือนกัน เพราะเรื่องของผลประโยชน์ที่มีอยู่ทั่วไปหมดนั้น ทำกันได้ยาก และไม่เชื่อว่า จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้อย่างถาวรแน่นอน

                                                ++++++++++