*/
<< | มกราคม 2018 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |
ใบกระท่อม : ถึงเวลาที่ราชการพิจารณาใหม่ได้แล้วหรือยัง สมัยที่ยังเป็นเด็ก บ้านของผู้เขียนที่บ้านชุมพร มีต้นกระท่อมอยู่ ๒ ต้น ต้นหนึ่งโตและสูงมาก อีกต้นหนึ่งนั้นโตปานกลางและไม่สูงมากนัก หน้าที่ของผู้เขียนอย่างหนึ่งก็ขึ้นไปเก็บใบกระท่อม เฉพาะต้นโตปานกลางเท่านั้น ส่วนต้นโตนั้นไม่มีใครขึ้นไปเก็บหรอกครับ แต่ทำได้โดยจ้างคนขึ้นไปตัดทั้งกิ่งลงมา การเก็บใบกระท่อม ต้องเก็บเฉพาะใบแก่ และต้องเหลือใบอ่อนไว้อย่างน้อย ๓ ใบ เพื่อจะได้ขึ้นไปเก็บในคราวต่อไป แหม ต่างกับการเก็บใบชานะครับ ที่เก็บเฉพาะใบอ่อนเท่านั้น พี่สาวเป็นผู้ทำหน้าที่ต่อไป โดยบางครั้งหากเก็บได้มากแม่ก็ช่วยพี่สาวด้วย โดยนำใบมาซ้อนกัน ๑๐ ใบ ซึ่งเรียกว่า ๑ กระแบะ นำ ๑๐ กระแบะ มามัดเป็นกำ ทำเหมือนใบพลูที่ขายในท้องตลาดในปัจจุบันราคาขายในสมัยนั้นกำละ ๕๐ สตางค์ อย่านึกว่าราคาถูกนะครับ เพราะก๋วยเตี๋ยวในสมัยนั้นราคาเพียงชามละ ๑ บาท ถ้ามีใบเล็กๆ อยู่ด้วยก็ตัดออก นำมารูดโดยเอาก้านออก ตากแดดให้แห้งแล้วนำมาบดเป็นผงละเอียด พอๆ กับยาหอมนั่นแหละครับ พี่สาวจะนำกระท่อมที่มัดเรียบร้อยแล้วนี้ไปขายที่ตลาดนัดนาชะอัง ซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ ๖ กม. ตลาดนัดมีสัปดาห์ละ ๒ วัน เท่านั้น คือวันพุธและวันเสาร์ หลายท่านที่เป็นคนรุ่นใหม่คงสงสัยกันแล้วซิครับว่าชาวบ้านเขาซื้อไปทำอะไรกัน ชาวบ้านแถวนั้นมีทั้งชาวนาและชาวประมงครับ เขานำกินใบกระท่อมเพื่อให้มีเรี่ยวแรงในการทำงานและสามารถทนแดดทนฝนอยู่กลางแจ้งได้นานโดยไม่รู้สึกเหนื่อย กินอย่างไรหรือครับ หากเป็นใบสดก็นำมาเคี้ยวแล้วดื่มน้ำลงไป ภาษาปักษ์ใต้เรียกว่า “หวนน้ำ” ส่วนที่บดนั้นก็กินกับน้ำได้ในทันที ชาวประมงชอบชนิดเป็นผงเพราะนำไปใช้ได้ง่าย ที่เล่ามายืดยาวก็เพื่อให้ท่านที่ไม่เคยทราบวิถีชีวิตของชาวบ้านในสมัยก่อนได้ทราบ เพราะในสมัยนั้นไม่มียาชูกำลัง ไม่มียาขยันหรือยาบ้าขายกันเกร่อเหมือนปัจจุบันนี้ แต่วิถีชีวิตของชาวบ้านที่สามารถปลูกกระท่อมได้หรือซื้อหามาได้ไม่ยากนักก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อกฎหมายบัญญัติให้กระท่อมเป็นยาเสพติด ต้นกระท่อมที่บ้านทั้งสองก็ต้องตัดไป ไม่ทราบว่าผู้ใดที่เสนอให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ทั้งๆ ที่ข้อมูลทางยานั้นนำมาใช้เป็นยาแก้โรคบิด ท้องร่วง และปวดมวนท้อง และชาวบ้านได้ใช้เพื่อให้มีเรี่ยวแรงในการทำงาน ในประเทศมาเลเชียใช้ใบกระท่อมตำพอกแผล และใช้ทั้งใบเผาให้ร้อนวางบนท้องรักษาโรคม้ามโต ตลอดจนใช้กระท่อมเพื่อทดแทนฝิ่นในท้องที่ซึ่งหาฝิ่นไม่ได้ ไม่ทราบว่าเริ่มมีกฎหมายนี้เมื่อไร แต่ทราบว่ามาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ บัญญัติให้กระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๕ เช่นเดียวกับกัญชา โทษฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออกหรือครับ มาตรา ๗๕ บัญญัติว่าเฉพาะพืชกระท่อม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท แต่ถ้าเสพละครับ มาตรา ๙๒ บัญญัติให้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินสองพันบาท โชคยังดีที่ปัจจุบันชาวบ้านปลูกกระท่อมในสวนกันอยู่บ้าง ก็ไม่ทราบว่าปลูกไว้เพื่อให้ร่มเงาหรือใช้ประโยชน์อย่างไร และตำรวจก็คงเข้าใจและยังเฉยๆ กันอยู่ ไม่ได้จับกุม เว้นแต่กรณีโด่งดังเคยเห็นข่าวในทีวีที่เจ้าหน้าที่ไปตัดต้นกระท่อมกันทั้งสวน เหตุที่ต้องเสียเวลาค้นคว้าในเรื่องนี้ เพราะได้เห็นในไลน์กลุ่ม มีผู้เผยแพร่เกี่ยวกับกระท่อม ดังนี้ “เมืองไทยนี้แปลก ปล่อยให้คนอื่นเขาเอาของดีเราไปหมด แล้วเราก็เป็นทาสเขาต่อไป มันคือใบกระท่อมค่ะ มีขายแล้วที่ Portland USA ทั้งปั๊มน้ำมัน และซุปเปอร์ทั่วไป ราคาก็แพงน่าดู 60 เม็ดแคปซูล 1,800 บาท มีทั้งแบบเม็ดและแบบผง สรรพคุณลดความเจ็บปวด และสู้งานเหมือนเป็นยาดีชูกำลัง ประเทศอื่นนำไปจดทะเบียนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น มีแต่ประเทศเรานี่ แหละซื้อยาเคมีมาแดกกัน 😆😆😆 ถ้าใบกระท่อมถูกกฏหมาย กลัวว่าเครื่องดื่มชูกำลังจะขายไม่ออกเหรอค่ะ” พร้อมมีภาพประกอบข้างล่างนี้ ผู้เขียนไม่ทราบว่าเรื่องข้างต้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะข่าวทางไลน์เขื่อถือยากนักหน่อย ยิ่งใช้ว่า “KRATOM” ด้วย ยิ่งไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้ เท็จจริงอย่างไร หากกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบเรื่องนี้สักหน่อยก็ดีนะครับ เพราะตรวจสอบได้ไม่ยากนักหรอกครับ หากเป็นจริงจะได้ให้กระท่อมเป็นสินค้าส่งออก ส่งไปขายที่สหรัฐอเมริกาคงเป็นรายได้ที่ดีไม่น้อย ทั้งยังส่งเสริมการปลูกกระท่อมของคนไทยด้วย และเพราะไลน์เรื่องนี้นี่เอง ทำให้กระตุ้นความรู้สึกของผู้เขียน เพราะเห็นกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงมิให้ใช้บังคับเกี่ยวกับการขออนุญาตผลิต จําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะเฮมพ์ซึ่งเป็นพืชย่อยของกัญชาได้ กระทรวงสาธารณสุขน่าจะมอบให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกศึกษาอย่างจริงจังเรื่องกระท่อมสักหน่อยได้ไหมครับว่า ประเทศอื่นเขาอนุญาตให้ใช้กระท่อมหรือไม่ และมีประโยชน์ในทางยามากน้อยเพียงใด เพราะมีผู้ศึกษาว่าประโยชน์ของกระท่อมนั้นมีมากมายหลายอย่าง แม้อาจมีโทษอยู่บ้างเนื่องจากใบกระท่อมมีแอมเฟตามีน จึงอาจมีอาการเบื่ออาหาร ทำงานได้มากเกินปกติ ตื่นเต้นเพราะประสาทถูกกระตุ้น แต่ทราบว่ายังไม่เคยมีรายงานว่าผู้เสพติดใบกระท่อมก่อปัญหาอาชญากรรมหรืออุบัติเหตุ เหมือนที่ได้รับรายงานกรณีผู้เสพติดแอมเฟตามีน หากเป็นไปได้ เราอาจเห็นกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และอาจช่วยลดปัญหายาเสพติดร้ายแรงอื่นๆ เช่น ยาขยันหรือยาบ้า รวมทั้งลดการกินเครื่องดื่มชูกำลังตามไลน์นั้นได้อีกด้วย พุธทรัพย์ มณีศรี |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |