"ครั้งแรกในชีวิต ร้องเพลงให้ข้าวฟัง"

     ตามรอยนักวิชาการ-นักวิชาเกินบอกว่าแถบๆนี้เมื่อครั้งก่อนโน้นเป็นดินแดนแห่งภูเขาไฟ ในดินขณะนี้ยังมีแร่"pumichเหมาะอย่างมากในการปลูกข้าวหอมมะลิ หอมแม้กระทั่งที่ตอนยังเป็นต้นกล้าอยู่ทีเดียวเชียว ยิ่งตอนตั้งท้อง..."ยิงแข่ว"ยิ่งหอมทั่วทั้งท้องทุ่ง ฝรั่งแอบไปจดลิขสิทธิ์เป็นของตัวเอง...ท่านด็อกเตอร์...มองดูฝรั่งทำตาปริบๆ

     มาเรื่องคอนเสิร์ตดีกว่า เราบอกพรรคพวกให้หาเครื่อง เป็นต้นว่าตู้แอมป์ กีตาร์ 2 ตัว เบส 1 ตัว ไมค์ร้อง 4-5 ตัว ไมค์ชุดกลองอีกให้ครบ มือกลองบอก ขอ soundengineeฝีมือดๆหน่อยก็แล้วกัน มิกซ์แซบๆ เล่นดนตรีมันก็สนุกเองแหละ ขอให้เครื่องเสียงโอเค...

     มือโซโลบอก ขอมอนิเตอร์สัก 3 ตัวก็พอ ให้เหตุผลว่า"เราเล่นกันบรรยากาศง่ายๆแบบ"อะคูสติค"ไม่ต้องอะไรมากหรอก คอนเซ็ปต์งาน-เป้าหมายคือร้องเพลงให้ต้นข้าวฟัง

     เราเตรียมเครื่องคูโบต้าไปปั่นไดนาโม เพราะที่เราจัดคอนเสิร์ต อยู่กลางทุ่งนา ไฟฟ้าเข้าไปไม่ถึง จุดศูนย์กลางอยู่โพนกลางนา เพราะข้าวจะได้ฟังเพลงกันได้ครบทุกๆต้นกันอย่างทั่วถึง เราเชื่อว่าเขาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน และที่สำคัญไม่มีใครเคยร้องเพลงให้ต้นข้าวฟังเลย เราตกลงกันว่าจะร้องเพลงเกี่ยวกับความรักที่สร้างสรรค์ ให้กำลังใจ ร้องเพลงเกี่ยวกับข้าว-ชาวนา ร้องเพลงเกี่ยวกับควาย ซึ่งมีอยู่มากมาย ร้องสามวันสามคืนยังไม่จบเลย

     ใกล้วันมาถึงยิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นตรงที่ว่า เราเคยแต่ตระเวณเล่นดนตรีให้คนฟังตามผับตามบาร์-งานบุญประเพณีต่างๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผู้ฟังเราเป็นต้นข้าวหอมมะลิ...ถึงวันนั้นเธอคงจะโยกย้ายส่ายสะโพกตามบทเพลงของฉันและเพื่อนๆที่เต็มใจมอบเพลงเหล่านี้แด่เธอ...ข้าวที่รัก