เมื่อมนุษย์และมังกรซึ่งเคยอยู่ร่วมกันในตำนานโดยที่ไม่มีความแตกต่างกัน แต่เมื่อทั้งสองเผ่าพันธุ์ต่างเลือกเส้นทางที่ไม่มีทางบรรจบกัน มนุษย์เลือกดินและน้ำ้นั่นหมายถึงพื้นโลกและมหาสมุทร ในขณะที่มังกรเลือกไฟและสายลม การปรากฏตัวของมังกรจึงเป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับมวลมนุษย์ว่า ความสมดุลของพลังกำลังถูกทำลาย พลังอำนาจเวทย์มนต์กำลังถูกบิดเบือน และเมื่อนั้นมนุษย์จะประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่กำหนดเหล่าชะตากรรมของมนุษย์เอาไว้ โกโร่ มิยาซากิ ลูกชายของฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ได้มีโอกาสแสดงฝีมือเป็นเรื่องแรกโดยการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Tales from the Earthsea(ゲド戦記, Gedo Senkiゲド戦記ゲド戦記) ที่สร้างจากนิยายชุดแฟนตาซีอันโด่งดังเรื่อง Earthsea ของ เออร์ซูลา เค. เลอกวิน (Ursula K. Le Guin) ซึ่งนิยายชุดนี้มีทั้งหมด 6 เล่ม ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ได้หยิบเล่มที่ 3 และ 4 ของชุดนำมาเป็นพล็อตหลักของเรื่อง และเมื่ออกฉายในญี่ปุ่นเมื่อ 26 กรกฎาคม 2006 ก็ประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่งเมื่อครองอันดับ 1 ของ Box Office ที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 สัปดาห์ รวมทั้งการเขี่ยหนังของแจ็ค สแปรโรว์ตอนที่สอง Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest ตกบัลลังก์ไปด้วย และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำรายได้ไปทั้งหมด 7.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ 900 ล้านเยนในสัปดาห์เปิดตัว พร้อมทั้งกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่นประจำปี 2006 ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้หลังออกฉายแล้วมีทั้งคำชมและเสียงวิจารณ์มากมายเรียกว่าไม่ชอบก็ด่าเลยก็ว่าได้ ที่สำคัญก็คือ เออร์ซูลา เค. เลอกวิน เจ้าของต้นฉบับนิยายได้วิจารณ์ว่าเรื่องราวต้นฉบับถูกบิดเบือนไปอย่างมาก และเธอก็ไม่ชอบภาพยนตร์ในเวอร์ชั่นของจิบลิเลย ซึ่งในแง่ของการเป็นภาพยนตร์การ์ตูน Tales from the Earthsea ไม่สามารถนิยามการเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กได้เลย เพราะขาดองค์ประกอบหลักๆที่จะทำให้เด็กเพลิดเพลินจากการชมภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ขันที่ไม่มีแม้แต่น้อย ตัวละครที่เปี่ยมจินตนาการที่ไม่ปรากฏ ตลอดทั้งเรื่องมีแต่อารมณ์เคร่งเครียด ด้านมืดของตัวละคร และปริศนาที่บางครั้งแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่เข้าใจเพราะการตัดตอนมาจากนิยายเล่มที่ 3 และ 4 ของนิยายชุดจึงอาจเป็นส่วนหนึ่งของการขาดที่มาที่ไปในเรื่องถ้าไม่รู้จักนิยายชุดนี้มาก่อน ภาพโปสเตอร์ที่ประชาสัมพันธ์อาจจะเห็นมังกรซึ่งเหมือนเป็นตัวละครหลักของเรื่องแต่ความเป็นจริงมังกรโผล่มาเพียงตอนต้นกับตอนจบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและแทบจะไม่มีผลใดๆต่อเรื่องมากนักทำให้การคาดหวังของผู้ชมที่ผิดไป ถ้าการ์ตูนหลายๆเรื่องของจิบลิสะท้อนถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม สมดุลของธรรมชาติ การ์ตูนเรื่องนี้อาจจะมีการกล่าวอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่สาระหลักของเรื่อง โกโร่ มิยาซากิอาจจะพยายามใส่ปัญหาสังคมไว้ในเรื่องมากมาย เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ บุคลิกที่ขัดแย้งในคนๆเดียวกัน การทำร้ายเด็กในครอบครัว หรือลูกทำร้ายบุพการีแต่ก็เป็นการใส่ลงมามากแต่ขาดน้ำหนักของเรื่องที่ชัดเจน สาระหลักของเรื่องกลับเป็นการเห็นคุณค่าของชีวิตมากกว่า อาเรนเจ้าชายหนุ่มที่ทำร้ายพ่อซึ่งเป็นพระราชาในต้นเรื่องแล้วหลบหนีโดยไม่รู้ทิศทาง เป็นการต่อสู้กับด้านมืดของตัวเองที่หลบหนีปัญหาตลอดเวลา และไม่คิดจะสร้างคุณค่าให้กับตนแม้จะเกิดมาในตระกูลที่เหนือกว่าผู้อื่น แต่เมื่อได้เรียนรู้จากเทรุ เขาก็พบว่าชีวิตที่เป็นอมตะที่พ่อมดค็อบต้องการหรือการไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันของตัวเองเป็นการทอดทิ้งคุณค่าของชีวิตที่ควรมี ความตายเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการกลัวความตายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่แสดงให้เห็นว่าเราจะสร้างคุณค่าชีวิตที่มีอยู่ช่วงเวลาสั้นๆนั้นให้ได้ดีเพียงใดได้อย่างไร บางทีบทเรียนการให้ความสำคัญกับการมีชีวิตและการให้ความสำคัญกับทุกๆช่วงเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่อาจเป็นสิ่งแรกเลยของสังคมทุกวันนี้ หลายคนมักท้อแท้ชีวิตเมื่ออกหัก หลายคนมักท้อแท้ชีวิตเมื่อเกิดสิ่งผิดพลาดในอดีต หลายคนมักกล่าวโทษโอกาสที่ไม่มีแก่พวกเขา แต่คนๆเหล่านั้นรวมทุกๆคนต้องหันมาดูที่ตัวเองก่อนว่าเราได้ให้ความสำคัญกับชีวิตที่เหลือเพียงใด สิ่งที่ผ่านมามันก็เพียงเป็นอดีต ถ้าทิ้งมันไปแล้วใส่ใจกับชีวิตที่เหลืออยู่ ให้ความสำคัญกับวันพรุ่งนี้ บางทีก็เป็นคำตอบให้เป็นพลังอย่างน่ามหัศจรรย์ เหมือนที่อาเรนเข้าใจในคุณค่าของชีวิตในตอนท้าย แม้จะต้องตายแต่ไมสำคัญหรอก เพราะการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตที่เหลืออยู่ต่างหากที่จะทำให้ชีวิตมีความสุข อาเรน: อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดหรือ เทรุ: ชีวิตคือสิ่งที่สำคัญที่สุด อาเรน: สักวันเราทุกคนล้วนต้องตาย แล้วจะมีประโยชน์อันใด จะสู้ชีวิตไปทำไม เพราะอย่างไรเรารู้ว่าชีวิตต้องจบสิ้น เทรุ: ไม่นะ ชีวิตนั้นมีค่าเพราะเรารู้ว่าเราต้องตาย ท่านไม่ได้กลัวความตายหรอก แต่ท่านกลัวการมีชีวิตอยู่ ท่านอยากมีชีวิตชั่วนิรันดร แต่ท่านมิเคยทำสิ่งใดที่สำคัญออกมา มันก็เหมือนกับว่าท่านกลัวการมีชีวิตอยู่ ทั้งๆที่มันเป็นเพียงชีวิตเดียวที่ท่านมี ด้วยสาระหนักๆนี่เองทำให้ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้เคร่งเครียดขึ้นมาทันใด ถ้าผู้ปกครองท่านใดเปิดให้ลูกหลานชมก็คงจะโดนเด็กๆต่อว่าแน่ว่าเปิดอะไรให้ดูก็ไม่รู้ ไม่เห็นสนุกเลยและดูไม่รู้เรื่องด้วยแม้แต่ผู้ใหญ่ที่ชมก็ตามก็อาจจะไม่อดทนดูจนจบเพราะไม่มีองค์ประกอบความเป็นการ์ตูนเหมือนการ์ตูนจิบลิหรือการ์ตูนทั่วไปนั่นเอง ส่วนดีของภาพยนตร์เรื่องอีกอย่างก็คือการออกแบบปราสาทในเทพนิยายที่ค่อนข้างสวยงาม ภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะทำรายได้พอสมควรแต่เพราะแรงวิจารณ์ในด้านลบที่มากมายทำให้ Tales from the Earthsea ค่อนข้างแตกต่างจากการ์ตูนจิบลิทั่วๆไป และส่วนหนึ่งของผู้ชมและนักวิจารณ์ก็โยนความรับผิดไปที่โกโร่ มิยาซากิ มือใหม่หัดสร้างการ์ตูนไปพอสมควร แต่ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังมีคุณค่าสำหรับผู้ใหญ่ที่เปิดดูแม้จะต้องใช้ความพยายามก็ตาม “ที่ใดมีความมืด ย่อมหาความสว่างเจอเสมอ” เรื่องสั้นๆที่เกี่ยวข้องกับนิยาย Tales from the Earthsea Earthsea เป็นนิยายแฟนตาซี 6 เล่มจบ ผลงานของ เออร์ซูลา เค. เลอกวิน (Ursula K. Le Guin) โดยเริ่มจากเรื่องสั้นชื่อ The Word of Unbinding ที่ตีพิมพ์ในปี 1964 ก่อนจะมาเป็นนิยาย 2 ไตรภาค เริ่มด้วยไตรภาคแรก คือ A Wizard of Earthsea (1968), The Tombs of Atuan (1971) และ The Farthest Shore (1972) ก่อนทิ้งช่วงมาออกอีก 3 เล่มคือ Tehanu (1990), Tales from Earthsea (2001), The Other Wind (2001) Earthsea เป็นเรื่องราวของโลกที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นน้ำมีพื้นดินที่เป็นเกาะมากมายและแต่ละเกาะก็ปกครองตนเองอิสระ เวทมนต์เป็นสิ่งสำคัญและผู้วิเศษต่างๆจะถูกฝึกที่ดินแดนที่เรียกว่าเกาะโรก (Island of Roke) และถูกส่งไปดินแดนต่างๆที่ต้องการพวกเขา ผู้วิเศษทั้งหมดจะเป็นผู้ชาย ชื่อที่แท้จริงของบุคคลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเวทมนต์ ถ้าใครรู้ชื่อจริงของคนอื่นก็สามารถควบคุมคนๆนั้นได้ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กรกฎาคม 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |