หลังจากการประสบความสำเร็จของฮีโร่ไต่กำแพง “ไอ้แมงมุม” ทำให้ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายในโลกหนังสือการ์ตูนหรือคอมมิคส์ได้มีโอกาสกลายเป็นฮีโร่ในโลกภาพยนตร์เพราะนั่นหมายถึงมูลค่าตลาดที่จะกระโดดเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล ไล่เรียงตั้งแต่ ไตรภาคของ Spiderman ที่ภาค 4 จะตามมาในไม่ช้า การเปลี่ยนจากยี่เกฝรั่งของแบทแมนมาเป็นอัศวินรัตติกาลที่แสนคลาสสิค Iron Man ที่ฮิตระเบิด และอีกไม่นานก็จะมีตามมาอีกเป็นกองทัพ และเมื่อแจ้งเกิดกันขนาดนี้เหล่าของเล่นสุดฮิตก็พร้อมร่วมสร้างความตื่นตะลึงในโลกภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน Transformers คือทัพหน้าของบรรดาตัวตุ๊กตุ่นที่เปิดซิงและไม่สร้างความผิดหวังให้กับคอหนังซูเปอร์ฮีโร่และผู้ชมทั่วโลกทั้งหลาย และล่าสุดภาคสองของตุ๊กตุ่นยักษ์ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น Transformers ก็ออกมากวาดเงินเข้าคลังไปรอภาค 3 อีกครั้ง ดังนั้นตุ๊กตุ่นสัญชาติอเมริกาแท้ๆมีหรือจะยอมน้อยหน้า G.I. Joe ของเล่นเด็กที่พัฒนามาตั้งแต่ทศวรรษที่ 60 ก็กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่สัญชาติอเมริกันรายล่าสุดที่โลกเล่นบนจอยักษ์ของโลกบันเทิง
G.I. Joe ของเล่นที่มีศัพท์เฉพาะว่า Action Figure หรือเรียกง่ายๆว่าตุ๊กตุ่นที่มีจุดขยับได้ของค่ายของเล่นสุดดัง Hasbro เริ่มปรากฏบนพื้นพิภพในปี 1964 ในรูปแบบของขนาด 12 นิ้ว โดยใช้ชื่นชนไปอ G.I. Joe ที่มีความหมายถึงทหารสหรัฐฯที่ไปรบในสงครามตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยันสงครามเวียดนาม (ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการออกของเล่นชุดนี้) โดย G.I. ที่มาจากคำว่า Government Issue หรือหมายเรียกรับราชการทหาร และ Joe หมายถึงชื่อเรียกขานชาวอเมริกันทั่วๆไป หน้าตาของเจ้าตุ๊กตุ่นชุดนี้ในช่วงแรกๆก็คือเหล่าทหารอเมริกันทั่วๆไป ของเล่นชุดนี้นัยหนึ่งเป็นของเล่น ของเหล่าบรรดาลูกของทหารอเมริกันที่ไปรับใช้ชาติทำให้ลูกรำลึกถึงวีรกรรมที่กล้าหาญของพ่อตัวเอง ทำให้ G.I. Joe กลายเป็นของเล่นสุดฮิตและคลาสสิคของอเมริกันชนไปทันที และหลังจากการมาของ Star Wars ตลาดของเล่นในอเมริกาก็เปลี่ยนมาฮิตขนาด 3 ¾ นิ้ว G.I. Joe ก็ออกชุดของเล่นในขนาด 3 ¾ นิ้วออกมาอีกเวอร์ชั่นในปี 1982 (ทั้ง Star Wars และ G.I. Joe เป็นของเล่นของ Hasbro ทั้งคู่) และความฮิตของ G.I. Joe ก็ทำให้กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน โดยค่าย Marvel รวมทั้งการ์ตูนชุดทางโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน ในปี 2007 ก็มีตอนที่ G.I. Joe ร่วมมือกับเหล่า Autobots ในการต่อสู่กับ Cobra ที่มี Decepticons เป็นพันธมิตร
ในโลกภาพยนตร์ G.I. Joe เริ่มตอนแรกด้วยการพัฒนาอาวุธนาโนเทคโนโลยี่ที่ประสบความสำเร็จโดยบริษัทมาร์ส (Mars) ในขณะที่ขนส่งอาวุธล้ำยุคนี้ทหารอเมริกันที่คุ้มครองกับถูกโจมตีด้วยผู้ก่อการร้ายแต่โชคดีมีทหารอีกกลุ่มเข้าช่วยเหลือได้ทัน และทหารกลุ่มนั้นเรียกตัวเองว่า จีไอโจ (G.I. Joe) อย่างไรก็ตามผู้ก่อการร้ายไม่ลดละที่จะช่วงชิงอาวุธ และใช้ผู้มีฝีมืออย่าง ชาโดว์ สตอร์ม ผู้มีวิชานินจา และ บารอนเนส สาวเซ็กซี่ส์แต่ไร้ปราณี นำทัพในการช่วงชิงอาวุธนาโนจนได้และใช้ถล่มกรุงปารีสเกือบสำเร็จ ในขณะที่อาวุธที่เหลือที่สามารถถล่มโลกได้กับแผนการลับที่ยังไม่เปิดเผยของเหล่าร้ายที่เปิดตัวภายหลังนำทัพโดยคอบบร้า จึงเป็นหน้าที่ของเหล่าจีไอโจที่จะหยุดหายนะของโลกและค้นหาว่าแผนการเบื้องหลังของคอบบร้าคืออะไร โดยเหล่าจีไอโจนำทัพโดยนายพลฮอว์ค (เดนนิส เควด) พร้อมลูกทีมสเน็คอาย คู่ปรับนินจาชาโดว์สตอร์ม, สการ์เลต สาวสวยแต่มากฝีมือ, ดุ๊กทหารอเมริกันที่เปลี่ยนตัวเองมาเป็นจีไอโจ และมีความหลังฝังใจกับคู่ปรับสาวบารอนเนส
การเริ่มต้นในโลกภาพยนตร์ของ G.I. Joe จึงตามแบบของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลายที่ประสบความสำเร็จไปแล้วโดยเฉพาะแนวทางของ Transformers และก็แน่นอนพร้อมที่จะสร้างภาคต่ออย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อพิจารณาจากชื่อตอนของภาคปฐมบทและจำนวนฐานแฟนของตัวของเล่นเองที่ปัจจุบันเด็กในยุค 60 ก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีรายได้หลักของตลาดอเมริกาตอนนี้ แถมการมาของภาพยนตร์ก็อาจจะสร้างฐานใหม่ต่อยอดออกไปอีก ภาพยนตร์ไม่ได้มีพล็อตซับซ้อน แต่อาศัยฉากแอ็คชั่นถล่มกันทั้งเรื่อง ในช่วงพักรบก็ใช้ความหล่อและเซ็กซี่ส์ของตัวละครดึงดูดให้ผู้ชมรุ่นใหญ่ลืมฉากแอ็คชั่นได้ชั่วขณะเหมือนกับที่ Transformers ใช้เมแกน ฟ็อกซ์ ดึงความสนใจไปบางส่วน แต่การเดินตามความสำเร็จคนอื่นก็ทำให้ G.I. Joe ขาดบุคลิกของตัวละครเด่นๆหรือฉากเด็ดๆให้คนจดจำไปในความเป็นตัวเอง ไม่ว่าการเลียนแบบดาร์ทเวเดอร์ทั้งรูปร่างและน้ำเสียงของตัวร้ายคอบบร้า ชุดตัวเอกก็เห็นจนชินตาแล้วในซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆ รวมทั้งฉากที่เจ๋งสุดในเรื่องคือการไล่ล่ากลางเมืองปารีสรวมทั้งการถล่มหอไอเฟลก็คุ้นๆตามาแล้วทัั้งในเมทริกซ์หรือเอ็กซ์เมนทำให้ G.I. Joe คงต้องหาลูกเล่นอื่นมาขายในภาคต่อๆไปที่คงมีอย่างแน่นอน หรือบางทีอาจจะเป็นการรวมทีมกับ Transformers เหมือนในภาคการ์ตูนก็มีโอกาสเป็นไปได้ในอนาคต แต่คงต้องรอให้เจ้าหุ่นออฟติมัสไพร์มกับบับเบิ้ลบีหมดมุขซะก่อน และสิ่งที่ควรระวังสำหรับการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ของเยาวชนเพราะแนวทางของหนังคือภาพยนตร์สงครามแต่เปลี่ยนจากสนามรบแบบปกติมาเป็นโลกไซไฟแห่งโลกปัจจุบันแทน รวมทั้งเป็นการสร้างจากของเล่นที่มาจากการส่งเสริมการต่อสู้แบบทหารในยุค 60 ของอเมริกัน เรื่องจึงแฝงไปด้วยความรุนแรงมากมายในเรื่องที่ดูเอาสนุกจนเพลินโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าห้ามดูแต่ควรดูแลและให้คำอธิบายแก่ลูกหลานด้วยความเหมาะสม เพราะการให้คำแนะนำจากการชมภาพยนตร์ง่ายและปลอดภัยกว่าการปล่อยเยาวชนไปประสบพบเจอในชีวิตจริงนั่นเอง สำหรับคอหนังแอ็คชั่น ผสมจินตนาการพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง