![]() ณ ดินแดนแห่งหนึ่งที่ต้องการความรุ่งเรืองเทียบเท่าอารยะประเทศจึงออกกฎหมายพิเศษที่เรียกว่า
“กฎหมายธำรงไว้เพื่อความรุ่งเรืองของชาติ” โดยมุ่งหวังให้คนในประเทศเห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ จากโอกาสที่จะตายได้เมื่อไรก็ได้แบบไม่รู้ตัว
โดยรัฐบาลจะฉีดวัคซีนที่มีนาโนแคปซูลผสมอยู่ในอัตราร้อยละ 0.01 หรือใน 1000
จะมีอยู่ 1 หลอด ให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถมทั้งประเทศ
และเมื่อเวลาผ่านไปนักเรียนเหล่านั้นเข้าสู่ช่วงอายุ 18 -24 ปี ในจำนวน 1000
คนจะมีผู้โชคร้ายที่ได้รับนาโนวัคซีีนไปจะออกฤทธิ์ในช่วงอายุนี้และมีผลให้ถึงตายทันที
และก่อนเวลาตาย 24 ชั่วโมง รัฐบาลซึ่งมีข้อมูลและรับทราบถึงความตายเหล่านั้นก็จะส่งเจ้าหน้าที่นำสาสน์ที่เรียกว่า
อิคิงามิ (Ikigami) หรือสาสน์แจ้งตายไปถึงผู้โชคร้ายนั้น
และให้ผู้โชคร้ายสามารถไปใช้เวลาที่เหลืออยู่ 24 ชั่วโมงตามที่อยากจะทำ
พร้อมกับมีสิทธิ์พิเศษในเรื่องต่างๆที่รัฐบาลจะเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมด
รวมทั้งมีกองทุนเพื่อผดุงความรุ่งเรืองมอบเงินส่วนหนึ่งให้กับญาติของผู้ตายด้วย เคนโกะ ฟูจิโมโตะ เป็นชายหนุ่มอายุ 25 ปี
นั่นหมายความว่าเขาพ้นจากเกณฑ์ที่จะได้รับสาสน์แจ้งตาย ฟูจิโมโตะได้รับการอบรมให้เป็นเจ้าหน้าที่ผู้นำสาสน์
อิคิงามิ ไปส่งให้ผู้เคราะห์ร้าย โดยงานแรกผู้ที่จะประเดิมให้กับฟูจิโมโตะคือ ทานาเบะ
ทาซูกุ นักดนตรีริมถนนคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันร่วมกับเพื่อนอีกคนที่จะเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง
และเมื่อโอกาสมาถึงบริษัทปั้นนักดนตรีนำเขามาปลุกปั้นและกำลังจะออกอากาศในฐานะนักดนตรีดาวรุ่ง
เขาก็ได้รับสาสน์อิคิงามิจากฟูจิโมโตะ
และเมื่อเขารู้ว่าเวลาออกอากาศคือช่วงเวลาสุดท้ายของเขาจึงเป็นช่วงเวลาที่ทั้งแสนรันทดและสร้างความเศร้าใจให้กับเพื่อน
แม่ และแน่นอนรวมทั้งผู้ส่งสาสน์มือใหม่อย่างฟูจิโมโตะ ![]()
![]() นาโอกิ ทากิซาว่า คือผู้โชคร้ายคนที่ 2
ที่จะได้รับสาสน์จากฟูจิโมโตะ ในขณะที่กำลังไปส่งสาสน์นาโิอกิิกำลังฆ่าตัวตาย
แต่ฟูจิโมโตะไปช่วยไว้ก่อนที่จะส่งอิคิงามิให้
นาโอกิเป็นเด็กหนุ่มที่มีปัญหาเนื่องจากแม่ของเขาสนใจแต่การลงสมัครรับเลือกตั้งจนขาดความอบอุ่น
แต่เมื่อเขาได้รับอิคิงามิน่าสนใจว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปกับ 24
ชั่วโมงที่เหลืออยู่ รายที่สามคือนักเลงติดตามหนี้ ซาโตริ
ที่มีน้องสาวตาบอด ซากุระ
เขามีความมุ่งมั่นทำงานเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านและนำน้องสาวมาอยู่ด้วย
ในวันที่ความฝันของเขาเป็นจริง วันที่เขาไปบอกน้องสาวว่าจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว
เขากับถูกพิพากษาด้วย สาสน์สั่งตาย อิคิงามิ และในวันเดียวกันนั้นซากุระ
น้องสาวของเขาก็ได้รับข่าวว่าจะมีคนบริจาคดวงตาเพื่อทำให้เธอได้มองเห็นอีกครั้ง สิ่งที่ซาโตริคงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาคงต้องถูกสั่งให้ตายในวันนั้น
ในขณะเดียวกันฟูจิโมโตะก็สังเกตเห็นความไม่ถูกต้องจากกฎหมายเพื่อธำรงความรุ่งเรืองนี้ ![]() ภาพยนตร์ค่อนข้างกระชับและรวบรัด
แม้จะมีเรื่องราวซ้อนกันถึง 4 เรื่องคือ ผู้โชคร้าย 3
คนและผู้นำสาสน์อีกหนึ่งแต่ก็ไม่ได้เยิ่นเย้อประการใด
และข้อดีของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ชัดเจนก็คือการสร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชม และ 24
ชั่วโมงสุดท้ายของผู้โชคร้ายก็ดึงความรู้สึกจากผู้ชมที่จะเอาใจช่วยเหมือนเป็นญาติคนหนึ่งของผู้โชคร้ายเลยทีเดียว
ประเด็นของเรื่องก็น่าสนใจมากที่นำสิ่งที่เรียกความตายมาสื่อให้เห็นเข้าทำนอง “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา” เรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่าไม่ว่าในอดีตจะเป็นคนเช่นใด
แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองจะตายก็เข้าใจสัจธรรมขึ้นมา
แต่ปัญหาคือคนที่จะตายกลายเป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 18 – 24 ปี
วัยที่เพิ่งผ่านพ้นความสนุกและอยู่ในช่วงทางแยกของชีวิตที่จะโตเป็นผู้ใหญ่
ความแตกต่างของการรับรู้เรื่องชีวิตที่เหลือเพียง 24
ชั่วโมงจึงบีบคั้นผู้ชมมากกว่าปกติ
เพราะช่วงวัยที่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามนุษย์เหล่านี้มีความผิดหรือความดีมากน้อยเพียงใดที่ใครจะมาตัดสินพิพากษาถึงชีวิตได้
![]() อิคิงามิเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากมังก่าหรือการ์ตูนญี่ปุ่นในชื่อเรื่องเดียวกัน
โดยหยิบยกบางตอนออกมาทำเป็นภาพยนตร์ ภาพยนตร์ที่ไม่ได้กล่าวถึงประเทศใดแม้จะเข้าใจว่าผู้เขียนการ์ตูนหรือผู้สร้างภาพยนตร์อาจจะมีเจตนาบอกว่าเป็นประเทศญี่ปุ่นเอง
แต่ในความจริงภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนปัญหาในหลายๆประเทศ
ปัญหาหลายๆอย่างรวมกันออกมาเป็นกฎหมายเพื่อธำรงความรุ่งเรืองของประเทศ
ถ้าจะมองประเทศในโลกที่มุ่งหวังการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นที่ตั้ง
แต่ละเลยคุณภาพชีวิตของคน ประเทศที่ก้าวหน้าทางเศรษฐกิจแต่ยังมีปัญหาอาชญากรรม
ยาเสพติด โสเภณี
หรือความยากจนของคนในประเทศมันจะต่างอะไรจากกำหนดให้คนเหล่านั้นตายทั้งเป็นไปแล้ว ในภาพยนตร์แม้จะบอกว่าหลังจากการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้แล้วทำให้อาชญากรลดลง
ประเทศกลายเป็นมหาอำนาจของโลก แต่มันคงเป็นการประชดประชันชนชั้นปกครองมากกว่า
บางทีเรื่องราวทั้งหมดอาจจะสะท้อนอยู่ในบทเพลงของผู้โชคร้ายคนแรกในเรื่อง ทานาเบะ
กับเพลง “ป้ายบอกทาง” ที่รวมๆกล่าวถึงชีวิตที่ต้องเจอกับเส้นทางที่ต้องเลือกเสมอ
เลือกที่จะสู้หรือที่จะท้อ เลือกที่จะสุขหรือจะขมขื่น
เลือกที่จะเปียกฝนหรือเลือกที่จะกางร่ม
บางทีมนุษย์ไม่ได้ต้องการให้ใครมากำหนดชะตากรรมโดยเฉพาะความตาย แต่มนุษย์ต้องการแนวทางในการดำเนินชีวิตมากกว่า
และในหลายๆคนก็มีแนวทางชีวิตในใจของพวกเขาแล้ว เหมือนผู้โชคร้ายทั้งสาม
บางคนเกิดมาชีวิตยากจนแต่ก็มีความฝันและเลือกที่จะต่อสู้อย่าง ทานาเบะและเพื่อนนักดนตรีริมถนน
หรือ ซาโตชิกับน้องสาวผู้กำพร้าพ่อแม่แต่ก็เลือกที่จะสู้เพื่อชีวิตในอนาคต
หรือลูกนักการเมืองที่เกิดมาพร้อมสรรพที่เลือกที่จะตายก่อนได้รับ “อิคิงามิ” เพราะนั่นคือแนวทางของการเป็นมนุษย์ในคือได้เลือกว่าจะทำอะไรมากกว่าการถูกกำหนดให้เขาได้ตายโดยไม่ได้เลือกเสมือนหนึ่งมนุษย์บางคนเป็นพระเจ้าซะเองจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกใบนี้
![]() ![]() ถ้าจะเทียบกันง่ายๆถ้าการทำแท้งคืออาชญากรรมการกำหนดให้คนตายโดยนโยบายของรัฐบาลก็ไม่ต่างจากอาชญากรแห่งมนุษยชาติอย่างแท้จริง
บางทีคำตอบของแนวทางในการดำเนินชีวิตอาจจะเป็นคำตอบของ ซากุระสาวตาบอด
ที่บอกกับพี่ชาย ซาโตชิ ว่าเธออยากตาบอดไปตลอดเพราะเธอไม่แน่ใจว่าถ้าเธอตาดีและมองเห็น
เธอจะผิดหวังกับสิ่งที่เธอมองไหม บางทีการที่เธอตาบอด
เธอได้ใช้จินตนาการและจิตใจกับสิ่งรอบข้างของเธอและเธอรู้สึกดีกับสิ่งที่เธอทำอยู่
และนั่นอาจจะหมายถึงเพราะโลกทุกวันมุ่งหวังความเจริญที่มาจากสัมผัสทั้งห้ามากไป
แม้แต่ความรุ่งเรืองทางวัตถุยังต้องสังเวยด้วยความตาย เลยมองข้ามความรู้สึกของจิตใจจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่โตถึงทุกวันนี้
และถ้ามนุษย์มีเวลาเหลือ 24
ชั่วโมงจริงก็ควรเป็นเวลาที่มนุษย์เลือกจะมีความสุขมากกว่าที่จะกลายเป็นทุกข์รอความตายจากอิคิงามิที่เกิดจากกำหนดโดยใครไม่รู้ที่พยายามทำตัวเป็นพระเจ้าซะเอง
แม้ความตายจะเป็นการทำให้มนุษย์เข้าใจในคุณค่าของการดำรงอยู่ แต่ความตายที่ถูกกำหนดมาโดยมนุษย์ด้วยกันเองหาใช่คุณค่าของชีวิตที่แท้จริงไม่
เนื้อเพลง Michishirube (Guidepost) เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Ikigami ที่มา : http://www.megchan.com Mou sukoshi de watashi no tanjoubi
ga yatte kuru kedo It'll be my birthday
soon Tada rousoku wa fueru But that'll just mean
more candles Migi e hidari e oshikakaru mono no My heart sways in the
balance Baransu no naka de kokoro wa yureru Between the things that
crowd me from the left and the right Arasoi wa kirai da ga kokoro no
naka de wa itsumo I hate fighting, but in
my heart Dareka ni pisutoru wo muketari
shiteru I'm always pointing a
pistol at someone Hito wo tsukiotoshitemo agaritai
hyoushoudai I want to get up on that
victory stand, even if I have to push others down Nanika ga hoshikute nanika wo
mezashite Wanting something,
aiming for something Daremo ga gendai ni michishirube wo
sagashite iru Everyone's searching for
a guidepost these days Ikiru to wa nan darou ka? What is living? Tatakau koto ka Is it fighting? Tatakai wo sakeru koto ka Or is it avoiding
battle? Tadashisa to wa nan darou ka? What is right? Machigawanu koto ka Is it not being wrong? Miushinawanu koto deshou ka Or is it not losing
sight? Mada asa ga kite kao wo araeba Morning comes again and
I wash my face Watashi ni owari ga aru nado mizu
ni nagareru Washing away the fact
that I will someday come to an end, too Kuyashii kurai ni kakko yoku itai It's galling how much I
want to be cool Kuyashii kurai ni yoki hito de itai It's galling how much I
want to be good Namida de karete egao de shiwa ga
fuete My tears will dry and
the smile lines will grow Itoshiki hito to nanika wo seoi
koshi wo maruku suru My back will grow bent,
shouldering something with my beloved Kurushii kurai ni shiawase de itai It hurts how much I want
to be happy Kurushii kurai ni shiawase ni
shitai It hurts how much I want
to make you happy Sore demo sore sura wasureru toki
ga aru But still there are
times I forget that Yasashisa to wa nan darou ka? What is kindness? Yuruseru koto ka Is it forgiving? Yurusanu koto deshou ka Or is it not forgiving? Ai suru to wa nan darou ka? What is love? Omoiyaru dake ka Is it just sympathy? Utagau kokoro wo mo kakusu koto
deshou ka Or is it hiding the
doubts in your heart? Ame ni mo makete kaze ni mo makeru
keredomo The rain gets me down,
and the wind does, too Itsuka watashi mo michi shirusu But someday I'll show
the way Ikiru to wa nan darou ka? What is living? Tatakau koto ka Is it fighting? Mamoritsuzukeru koto ka Or is it continuing to
protect? Tadashisa to wa nan darou ka? What is right? Fumihazusanu koto ka Is it not stepping off
the path? Jibun dake ga ushinawanu koto na no
ka Or is it not losing
yourself? Kore kara saki ayumu ippo ga I want this next step Shiniyuku ippo de naku To be a step towards
life Ikiyuku ippo de are Not death Kore kara saki utau kotoba ga The words I'm going to
sing Hazukashinagara mo May be embarrassing Hito no kokoro wo utsu you ni to But I hope they'll
resonate in people's heart Sore ga watashi no michishirube They are my guidepost Michishirube.. Guidepost/signpost... Ost Michishirube |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |