เมื่อโลกเริ่มมีภาวะขาดแคลนด้านทรัพยากรไม่ว่าจะเป็นอาหาร
อากาศ
น้ำสะอาดหรือทรัพยากรอื่นๆจึงได้มีกำเนิดวิชาๆหนึ่งที่กลายมามีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน
เป้นวิชาที่ว่าถึงการจัดสรรทรัพยากร นั่นคือวิชาเศรษฐศาสตร์
หลักหรือกฎข้อแรกเลยก็คือการหามาได้ยาก หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า Scarcity ความหามาได้ยากทำให้มนุษย์ต้องรู้จักจัดสรรทระยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ถ้าไม่มีความหามาได้ยากก็คงไม่เกิดคำว่าเศรษฐศาสตร์ หรือนักเศรษฐศาสตร์ในปัจจุบัน
ในเบื้องต้นนักเศรษฐศาสตร์จะแบ่งสินค้าเป็น 2 ประเภทใหญ๋ๆคือ
สินค้าไม่มีราคา (Free Goods) หรือสินค้าเศรษฐทรัพย์ (Economic
Goods) ความหมายง่ายๆก็คือสินค้าไม่มีราคาก็คือสินค้าที่เราสามารถบริโภคได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร
เช่น อากาษที่เราหายใจ น้ำสะอาดทียุคหนึ่งหาบริโภคได้ตามต้นน้ำลำธารทั่วไป
หรือก้อนหินดินทราย
ส่วนเศรษฐทรัพย์ก็ง่ายๆตรงกันข้ามกันคือมีราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย เช่น อาหาร ยา
บ้าน
หรืออะไรอีกมากมายแม้แต่สินค้าไร้ราคาในยุคหนึ่งก็อาจกลายเป็นสินค้าที่มีราคาในปัจจุบันหรือในอนาคต
เช่น น้ำสะอาดถ้าย้อนไป 30 ปีที่แล้วไปบอกใครในตอนนั้นว่าจะต้องเสียเงิน
10 บาทเพ่อซื้อน้ำสะอาดดื่มคงบอกว่าบ้าแน่ๆ
และนั่นก็คือที่มาของเศรษฐศาสตร์เพราะความหามาได้ยากนั่นเอง
และถ้าเรานำเอาแนวคิดนี้มาวเคราะห์สินค้าตัวหนึ่งก็คือ “การข้ามเวลา” เราอาจจะพบว่าราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อให้สามารถข้ามเวลาได้อาจจจะมีมากกว่าที่คาดคิดก็ได้
และนั่นอาจเป็นสาเหตุหลักที่มนุษย์ยังไม่สามารถข้ามเวลาได้แม้ในปัจจุบันและอนาคต The Girl Who Leapt Through Time (時をかける少女) คือภาพยนตร์การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์หรือเรียกง่ายๆว่าไซไฟนั่นเองแต่ไม่ได้มีองค์ประกอบหรือฉากในอนาคตเหมือนภาพยนตร์การ์ตูนแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆอย่าง
Ghost in the Shell หรือ Appleseed ภาพของเรื่องนี้เป็นบ้านเมืองในยุคปัจจุบัน
โดยภาพยนตร์สร้างจากนิยายชุดชื่อเรื่อง Toki o Kakeru Shōjo (時をかける少女, "The Girl Who Dashes Through
Time") ที่เขียนโดนยาสึตากะ ซึซึอิ ตีพิมพ์ในนิตยสารระหว่างปี 1965 – 1966 ซึ่งนิยายชุดนี้ถูกสร้างทั้งเป็นภาพยนตร์ที่คนแสดงและละครโทรทัศน์
รวมถึงหนังสือการ์ตูนที่เรียกว่ามังก่าด้วย
นั่นแสดงถึงความนิยมในเรื่องนี้ของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างดี ในด้านภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้สร้างโดยสตูดิโอแมดเฮาส์
(Madhouse) กำกับการสร้างโดย มาโมรุ โฮซาดะ ออกฉายในปี 2006 ในจำนวนโรงภาพยนตร์ที่ไม่มากนักแต่ด้วยคุณภาพของภาพยนตร์กลายเป็นการบอกแบบปากต่อปากทำให้คนดูญี่ปุ่นแห่แหนไปชมจนแน่นโรงและเพิ่มโรงฉายในที่สุดและส่งผลให้ได้ไปเปิดตัวในเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศหลายๆแห่งรวมทั้งได้รางวัลมากมายทั้งในบ้านเกิดและต่างประเทศในฐานะภาพยนตร์การ์ตูนยอดเยี่ยมแห่งปีอีกหลายรางวัล
ที่สำคัญได้รางวัล Japan Academy Prize for Animation of the Year เหนือภาพยนตร์การ์ตูนของสตูดิโอจิบลิ เรื่อง Tales from Earthsea อีกด้วย มาโกโตะ คันโน สาวมัธยมวัย 17 ปี ที่มีบุคลิกคล้ายผู้ชายเนื่องจากมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย
2 คนที่มักจะเล่นเบสบอลด้วยกันเสมอหลังโรงเรียนเลิก
นิสัยส่วนตัวจึงค่อนข้างกระโดกกระดากและซุ่มซ่ามอยู่เป็นประจำ เช่น
การตื่นสายทำให้มาโรงเรียนสาย
หรือในชั้นเรียนที่มีการทดลองวิทยาศาสตร์ก็เผลอทำไฟลุกไหม้ฮือฮากันทั้งชั้น รวมทั้งการขับจักรยานมาโรงเรียนก็เคยเกือบทำให้มาโกโตะเกือบพบอุบัติเหตุถูกรถไฟชน
มาโกโตะพักอาศัยอยู่กับครอบครัวทีค่อนข้างอบอุ่นมี พ่อ แม่ และน้องสาวอีกคน แต่วันที่แสนธรรมดาก็เปลี่ยนไปเมื่อมาโกโตะบังเอิญเข้าไปในห้องวิทยาศาตร์แล้วเกิดได้พลังวิเศษมานั่นคือมาโกโตะสามารถเปลี่ยนแปลงเวลาได้
หรือง่ายๆก็คือมาโกโตะสามารถข้ามเวลาไปมาระหว่างอดีตกับอนาคตได้ และเมื่อรู้ว่าตัวเองมีความสามารถนั้นมาโกโตะได้ใช้มันไปกับการแก้ไขเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ
เช่น
เมื่อกลับมาถึงบ้านพบว่าพุดดิ้งถูกน้องสาวกินไปแล้วเธอก็ย้อนไปอดีตเพื่อให้กลับมากินพุดดิ้งก่อนน้องสาวของเธอ
หรือวันที่เธอมาเรียนสายก็ย้อนเวลาให้มาเรียนทันเวลา และเมื่อวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตที่อาจกระทบถึงชีวิตเพื่อนสนิทของเธอ
มาโกโตะได้พบว่าพลังวิเศษนั้นกับหายไปแล้วและเธอไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่นั้นได้ ![]() ภาพยนตร์นำเสนอลายเส้นที่สวยงามเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
แถมยังเป็นภาพยนตร์การ์ตุนที่ดูสนุกสนานมีอารมณ์ขันในบางอารมณ์ที่ไม่เฝือจนเกินไป
และเนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยเรียนมัธยมหลายๆฉากก็ทำให้ระลึกถึงวัยอดีตของผู้ชมที่ไม่ต่างจากเรื่อง
Only Yesterday ของสตูดิโอจิบลิ
แต่ไม่ลึกเท่าเพราะประเด็นหลักของเรื่องไม่ใช่การโหยหาอดีตแต่เป็นเรื่องของการข้ามเวลาและการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้แม้จะสร้างจากนิยายชุดในช่วง 60 และมีภาพยนตร์หลายเรื่องสร้างในช่วง
80 แต่ตัวละครสำคัญในเรื่องก็ไม่ใช่ตัวเดียวกันแต่มีความเกี่ยวเนื่องกัน
เนื่องจากฉากในเรื่องนี้ใช้เวลาปัจจุบันตัวละครเอกในนิยายคือโยชิยาม่า คาซูโกะ
มีบทบาทเป็นน้าของมาโกโตะตัวเอกของเรื่องนี้
ถ้าไม่ใช่คนญี่ปุ่นหรือคนที่ติดตามเรื่องนี้มาก่อนคงงงเล็กๆว่าน้ำของเธอทำไมถึงเข้าใจเรื่องข้ามเวลาได้เช่นกัน ![]() ![]() มาเข้าประเด็น “การข้ามเวลา”และที่มาของเศรษฐศาสตร์กัน
การบังเอิญได้ความสามารถพิเศษของโมโกโตะทำให้สามารถย้อนเวลาหรือไปข้างหน้าได้ทำให้มาโกโตะนึกว่ามันสามารถทำได้ตลอดเข้าทำนอง
“การข้ามเวลา” เป็นสิ่งที่เรียกว่าเหลือเฟือไม่มีราคาต้องจ่าย
มาโกโตะจึงนำไปแก้ไขเรื่องราวเล็กๆน้อยๆในอดีตเสมอ การร้องคาราโอเกะผิดคีย์มาโกโตะก็ใช้การย้อนเวลาอยู่หลายหนเพื่อทำให้เธอร้องได้ไพเราะ
การซุ่มซ่ามโดนเพื่อนชนจนหกล้มมาโกโตะก็ยังย้อนเวลาไปแก้มันซะ
หรือแม้แต่ความรักเธอก็ยังพยายามใช้ความสามารถพิเศษนี้ในการแก้ปัญหาและต้องบอกว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
และเมื่อการข้ามเวลาของมาโกโตะที่เปรียบเป็นเหมือนสินค้าไร้ราคา (Free Goods)
ไม่มีราคาต้องจ่าย มันได้เปลี่ยนเป็นสินค้าที่มีราคาหรือเศรษฐทรัพย์
(Economic Goods) เกิดการหามาได้ยาก (Scarcity) เมื่อการข้ามเวลาของเธอมีจำนวนสิ้นสุด และเมื่อครั้งสุดท้ายที่เธอใช้หมดไป
ผลที่ตามมาก็คือราคาที่เธอต้องจ่ายนั่นคือเธอไม่เคยรู้จักการแก้ปัญหาเลย และเมื่อเกิดปัญหาใหญ่ที่หนักหนาก็รู้สึกถึงความบกพร่องในการใช้ความสามารถพิเศษที่ตนเคยมี
ลองคิดกันเล่นๆว่าถ้ามนุษย์สามารถ “ข้ามเวลา”
ได้ไม่ต้องทุกคนโลกคงวุ่นวานน่าดูเพราะธรรมชาติของมนุษย์มักจะบริโภคความสามารถพิเศษนี้อย่างฟุ่มเฟือยและสิ่งที่มนุษย์คิดจะทำคือการแก้ปัญหาในอดีตของตัวเองก่อนเสมอ
ในอดีตมนุษย์เคยมีทรัพยากรธรรมชาติมากมายก็ใช้กันฟุ่มเฟือยนึกว่าเป็นสินค้าไม่มีราคาแต่สุดท้ายราคาที่ต้องจ่ายก็ตกมาสู่คนรุ่นหลัง
และเมื่อถึงคราววิกฤติมนุษย์จึงเพิ่งจะมาใส่ใจกับการจัดสรรทรัพยากรที่เหลืออย่างเป็นจริงเป็นจัง
จึงเป็นที่มาของวิชาเศรษฐศาสตร์และนักเศรษฐศาสตร์ ![]() ท้ายสุดในภาพยนตร์แม้จะจบอย่างมีความสุขเพราะเป็นภาพยนตร์และก็การ์ตูนที่ผู้ชมจะได้อิ่มเอมจากการชม แต่บทเรียนในความสนุกก็มีสาระมากมาย มาโกโตะถ้าในชีวิตจริงไม่เจอกับปัญหาร้ายแรงเหมือนในเรื่องตอนท้าย มาโกโตะก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักการแก้ปัญหาใดๆเลยและนั่นก็คือราคาที่เธอต้องจ่ายจากการใช้พลังวิเศษที่ฟุ่มเฟือย และไม่ใช่เพียงมาโกโตะคนเดียว ฟิล ใน Groundhog Day หรือมาร์ตี้ แมคฟาย ใน Back to the Future ก็ไม่ต่างกันมุ่งแต่แก้ไขเรื่องที่ผิดพลาดในอดีตและอนาคต ถ้าในอนาคตมนุษย์สามารถข้ามเวลาได้จริงก็คงเป็นได้แค่เพียงจิตวิญญาณคงไม่สามารถเอาร่างกายมาสร้างความวุ่นวายได้แน่ มิฉะนั้นเราคงเห็นมนุษย์ในอนาคตมาแก้ไขอะไรวุ่นวายไปหมด อืม..หรือว่าตอนนี้ที่วุ่นวายก็เพราะมีใครแก้ไขเรื่องผิดพลาดของตัวเองอยู่ แต่ว่านักเศรษฐศาสตร์ไทยก็เยอะ ท่านนายกฯก็เป็นนักเศรษฐศาสตร์ทำไมปล่อยให้มาบตาพุดยังจะมีการเพิ่มโรงงานอุตสาหกรรมอีกล่ะนั่น MV - Clean Up Your Eyes OST. The Girl Who Leapt Through Time - Daylife |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กันยายน 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 |