![]() วันหนึ่งเมื่อตุ๊กตายางในรูปลักษณ์ของเพศหญิงเกิดมีชีวิตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร
คงไม่ได้สนุกสนานเหมือนตุ๊กตาของเล่นใน Toy Story อย่างแน่นอน
และยิ่งเป็นตุ๊กตายางที่คอยบำบัดความสุขทางเพศให้กับมนุษย์เพศชายด้วยแล้วยิ่งนึกภาพไม่ออก
แต่ฮิโรกาซึ โคเรเอดะ
ก็ทำให้การคืนชีวิตของตุ๊กตายางเพศหญิงกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนความหดหู่ เปลียวเหงา และว่างเปล่าของสังคมมนุษย์ในปัจจุบันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
Air Doll ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดของผู้กำกับที่เคยมีผลงานที่ชื่อว่า
Nobody Knows เป็นเรื่องราวของตุ๊กตายางที่ชื่อ “โนโซมิ” ที่บังเอิญมีชีวิตขึ้นมา และเริ่มที่จะเรียนรู้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบข้างนั่นก็คือมนุษย์
บางทีโนโซมิอาจจะเป็นตัวแทนของมนษย์อีกพันธ์หนึ่งที่ไม่ได้ปรุงแต่งแต่อยู่ๆวันหนึ่งต้องมาใช้ชีวิตกับอีกพันธ์ที่ได้รับการปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว
และก็เหมือนกับภาพยนตร์หลายๆเรื่องของญี่ปุ่นที่สร้างมาจากแมงก่าหรือการ์ตูนญี่ปุ่น
แต่ที่แปลกดารานำหญิงของเรื่องที่รับบทตุ๊กตายางที่มีชีวิตกลับเป็นของนักแสดงสาวเกาหลีที่ชื่อว่า
แบ ดูนา ทั้งที่ญี่ปุ่นก็มีดาราหญิงที่สามารถรับบทนี้ได้มากมาย ![]() ในสังคมที่วุ่นวายแต่เต็มไปด้วยความอ้างว้าง
ภาพของตึกสูงมากมายของโตเกียวที่ตัดกับสวนสาธารณะที่ว่างเปล่าที่มีชายแก่นั่งอยู่เป็นประจำ
บางทีก็สะท้อนถึงความว่างเปล่าในความสับสนของชีวิตมนุษย์ เช่นกัน ฮิเดโอะ ชายกลางคนพนักงานร้านอาหารที่มีชีวิตการทำงานเหมือนคนทั่วๆไปในโตเกียวกลางวันทำงาน
กลางคืนกลับบ้านนอน พร้อมกับสิ่งคลายเครียดในบ้าน
แต่สิ่งคลายเครียดของฮิเดโอะก็คือตุ๊กตายางเป่าลมที่ถูกออกนำมาขายเพื่อบำบัดความใคร่
แต่ความสุขของฮิเดโอะคือการได้อยู่กับตุ๊กตายางที่เขาตั้งชื่อว่าโนโซมิ
เหมือนกับว่าโนโซมิคือคู่รักและสมาชิกของครอบครัว
กิจวัตรประจำวันหลังเลิกงานก็คือการได้ทานอาหารและเล่าเรื่องราวต่างๆให้โนโซมิฟัง
อาบน้ำร่วมกัน รวมทั้งการหาความสุขทางเพศจากโนโซมิเป็นกิจกรรมท้ายสุดของวัน
จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งโนโซมิเริ่มมีความรู้สึกตื่นขึ้นมา “ฉันมีหัวใจซึ่งฉันไม่ควรจะมีมัน” หลังจากฮิเดโอะออกไปทำงาน โนโซมิก็เดินออกไปนอกบ้านและมองสิ่งต่างๆมากมาย
เห็นชีวิตผู้คนต่างๆจนโนโซมิเริ่มที่จะเลียนแบบ แต่ตกค่ำโนโซมิก็ไม่ได้เผยให้ฮิเดโอะรู้
ยังแสร้งทำเป็นไร้ชีวิตและรับการประกอบกิจกรรมจากเจ้าของเหมือนปกติ
เมื่อเวลาผ่านไปโนโซมิได้ทำงานในร้านวีดีโอที่มีเจ้าของกับชายที่ชื่อว่า จุนอิชิ
แม้ว่าโนโซมิจะไม่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ทั่วไปแต่การเลียนแบบก็ทำให้โนโซมิเริ่มจะมีความรักกับจุนอิชิ
และเริ่มเรียนรู้มากขึ้นว่าหัวใจที่ทำให้เธอมีทำสิ่งต่างๆเหมือนมนุษย์หาใช่หัวใจที่จะทำให้เธอเข้าใจมนุษย์ได้เลย ![]() โนโซมิได้พบกับชายชราคนหนึ่งอยู่บ่อยๆในสวนสาธารณะที่อ้างว้างแต่มีวิวทิวทัศน์ของความวุ่นวายและอารยะธรรมที่สูงส่งของมนุษย์ในปัจจุบันนั่นก็คือตึกสูงระฟ้า
วันที่โนโซมิรู้สึกว่าตัวเองแตกต่างจากมนุษย์นั่นก็คือร่างกายของเธอมีแต่ลมที่ว่างเปล่า
เธอได้พูดกับชายชราถึงความว่างเปล่าของตัวเธอที่มีแต่ลมที่เจ้าของเป่าเข้าไปเพื่อให้เธอพองโต
แต่ชายชราก็โต้ตอบมาว่า มนุษย์ทุกคนในทุกวันนี้มีแต่ความว่างเปล่าทั้งสิ้นเช่นกัน
ไม่รู้ว่าจุดหมายของชีวิตอยู่ที่ไหน มันทำให้โนโซมิรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งว่าเธอไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น
เช่นกันเมื่อเธอเกิดอุบัติเหตุของมีคมบาดมือเป็นเหตุให้ลมออกจากร่างในร้านวีดีโอที่เธอทำงานอยู่
แต่เป็นจุนอิชิขวัญใจของเธอเป็นผู้ช่วยเอาไว้ และเมื่อความจริงเปิดเผยว่าร่างของเธอก็คือหุ่นยางเป็นจุนอิขิที่บอกเขาเองก็มีแต่ความว่างเปล่าเช่นกัน
ภาพยนตร์ก็สะท้อนให้เห็นการปรุงแต่งในตัวมนุษย์ที่ชัดเจน แค่คำว่า “ว่างเปล่า” ก็มีความหมายที่แตกต่างกันแม้จะเป็นมุมมองของสิ่งที่มีชีวิตเหมือนกัน
แม้โนโซมิจะพยามปรุงแต่งให้เหมือนมนุษย์มากขึ้นก็ยังเข้าไม่ถึงสิ่งที่มีลมเข้าออกในร่างกายเหมือนตัวเธอที่เรียกว่ามนษย์สักเท่าไร
หรือบางทีโนโซมิอาจจะกลายเป็นมนุษย์มากเกินไปจนเลือกที่จะลืมเรื่องบางเรื่องแต่จำบางเรื่องที่เธออยากจำ
เพราะโนโซมิเองก็รำพึงรำพันเมื่อเธอได้พูดโกหกเป็นครั้งแรก ตอนที่ถูกเจ้าของร้านวีดีโอถามวา
“มีแฟนหรือยัง” เธอก็ตอบว่า “ยัง” ทั้งที่ในความหมายของเธอ รู้อยู่แล้วว่าแฟนก็คือฮิเดโอะเจ้าของเธอนั่นเอง
“เพราะฉันมีหัวใจทำให้ฉันโกหกเป็น” นั่นเป็นสิ่งที่โนโซมิให้เหตุผลและเพราะความเป็นมนุษย์มากไปนี่เองจึงไม่เข้าใจเรื่องของคนอื่นนอกจากเรื่องของตัวเอง
เหมือนการใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ของเธอในตอนกลางวันกับชายคนรักแต่เมื่อกลับบ้านตอนเย็นเธอก็เสแสร้งว่ายังเป็นหุ่นยางที่ไร้ความรู้สึก
รวมทั้งตอนที่โนโซมินำเอาที่สูบลมตัวเธอไปทิ้งเพื่อให้เจ้าของคือฮิเดโอะนึกว่าภรรยาเก่าของเธอเข้ามาทำความสะอาดห้องแล้วนำโนโซมิที่เป็นตุ๊กตายางไปทิ้งแล้ว
ล้วนเป็นการเสแสร้งที่โนโซมิรู้ดีอยู่แล้ว ![]() ภาพของชีวิตหลายชีวิตในเรื่องได้สะท้อนความไร้จุดหมาย
ทุกชีวิตล้วนหมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง
ชายชราที่อ้างว้างย่อมเป็นภาพของการละเลยขาดความใส่ใจของบุตรหลานและอาจะไม่เพียงในญี่ปุ่นเท่านั้นแต่เป็นทั้งโลกเลยทีเดียว
เด็กหนุ่มที่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง พ่อและลูกสาววัยเยาว์ที่ขาดแม่
เด็กสาววัยเยาว์ที่ครั้งหนึ่งมีตุ๊กตาเป็นเพื่อนแต่เมื่อพบเจอนาฬิกาเธอก็พร้อมที่จะทอดทิ้งตุ๊กตาที่เธอเคยรัก
หญิงวัยเลยกลางคนที่วิ่งไปทั่วเพื่อตะโกนว่าตัวเองผิดแต่ไร้คนสนใจ รวมถึงจุนอิชิ
ชายคนรักของโนโซมิ เมื่อยามที่ต้องการความสุขทางเพศกับเธอก็พยายามแต่ปล่อยลมออกจากร่างเธอและก็สูบเข้าไปหลายๆครั้ง
เหมือนคิดถึงแต่คนรักเก่าที่เสียชีวิตจากไปและการเป่าลมก็บอกแต่เพียงถ้าช่วยชีวิตคนได้เหมือนเป่าลมก็คงจะดีโดยไม่คำนึงถึงโนโซมิแม้แต่น้อยแต่
เมื่อโนโซมิเลือกที่จะทำแบบเดียวกันก็กลายเป็นความเศร้าที่คาดไม่ถึง การหมกหมุ่น
ความเปลี่ยวเหงาและการกระทำที่ไม่ใส่ใจคนอื่นของทุกชีวิต บ่งบอกถึงความสนใจแต่เรื่องของตัวและสะท้อนถึงความว่างเปล่าของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง
และประโยคที่บอกว่าขยะมีสองประเภทคือเผาได้และเผาไม่ได้ กับภาพสุดท้ายของชายร่างที่ไร้ชีวิตที่นำไปใส่ในถุงขยะที่คัดแยกไว้สามารถเผาได้ก็อธิบายได้ดีว่ามนุษย์แม้แต่ร่างกายยังสูญสลายไปกับอากาศธาตุเป็นการไร้ตัวตนอย่างสิ้นเชิง
![]() โนโซมิ เหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป มีความต้องการ อย่างการฉลองวันเกิด การเอาใจใส่จากคนที่ตัวเองรัก การได้เลือก การโกหก แต่สิ่งที่ขาดหายไปเหมือนกับมนุษย์มากมายหลายคนล้วนหาความสุขใส่แต่ตัวเองหาได้ทิ้งอะไรไว้ให้จดจำไม่ การนำร้านวีดีโอผู้กำกับอาจจะบอกความนัยบางอย่าง โดยเฉพาะลูกค้าที่เข้าร้านแล้วถามหาแต่ภาพยนตร์คลาสสิคและอยู่ในความทรงจำทั้งหลาย อาจจะหมายถึงชีวิตมนุษย์ถ้าจะหลุดจากความว่างเปล่าก็คือการสร้างประโยชน์ สร้างเรื่องราวดีๆให้กับชนรุ่นหลังได้ซึมซับและจะทำสิ่งนั้นได้ต้องมีหัวใจที่ไม่ใช่เพียงแต่ก้อนเนื้อในร่างกายที่เต้นได้เท่านั้น แต่เรื่องราวแบบนั้นก็ยากที่จะหาได้ในสังคมที่วุ่นวายและเร่งรีบแม้แต่โนโซมิ มือใหม่หัดมีชีวิตก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมนุษย์คือสิ่งมีชีวิตแต่หัวใจมีแต่ความว่างเปล่าหรืออาจจะเรียกว่าไร้หัวใจก็ว่าได้ และ “ลมหายใจที่เข้าออกร่าง บางครั้งก็ไม่ได้บ่งบอกถึงการมีหัวใจ” นั่นเอง ตัวอย่างภาพยนตร์ 1 |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 |