อีกครั้งที่ทุกปีจะได้ชมภาพยนตร์การ์ตูนดีๆจากหลายๆค่าย และ DreamWorks ก็เป็นหนึ่งในนั้นแถมไม่ใช่มาปีละเรื่องเหมือนสมัยก่อน เพราะทั้งวอล์ท ดิสนีย์ และ ดรีมเวิร์คส์ อาจรวมไปถึงค่ายอื่นๆที่ต่างทำมากกว่า 1 เรื่องต่อปี ล่าสุดดรีมเวิร์คส์ก็ส่ง How to train your Dragon ออกมาก่อนที่ช่วงซัมเมอร์จะคิวของยักษ์เขียวใจดีที่ชื่อเชร็ค (Shrek) ตอนที่ 4 (คู่ต่อสู้ของยักษ์เขียวในเวทีการ์ตูนปีนี้คงไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากคู่หูหุ่นอวกาศและคาวบอยจาก Toy Story 3 แห่งค่ายวอล์ท ดิสนีย์) จุดเด่นของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง How to train your dragon คือเป็นภาพยนตร์การ์ตูนอีกเรื่องที่ทำออกมาในรูปแบบ 3D หรือสามมิติในยุคที่ 3D กำลังจะเข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดภาพยนตร์โดยเฉพาะภาพยนตร์แฟนตาซี อะนิเมท หรือ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างๆ และบนจุดขายอีกหนึ่งคือการเป็นผู้สร้างชุดเดียวกับ Shrek, Kungfu Panda และ Madagascar ทำให้ผู้ชมคาดหวังได้เลยว่าจะพบเจอกับความสนุก ตลก ตัวละครทีออกแบบได้สวยงามและอารมณ์ดีเช่นเดียวกับภาพยนตร์การ์ตูนที่กล่าวมาทั้งหมด ![]() ![]() ![]() ณ หมู่บ้านไวกิ้งที่ชื่อ “เบิร์ค” บ้านแต่ละหลังจะดูใหม่อยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ก็ตาม สาเหตุน่ะหรือ? เพราะหมู่บ้านนี้ถูกฝูงมังกรเข้ามารุกรานตลอดเวลา และแย่งชิงสัตว์เลี้ยง พ่นไฟทำลายหมู่บ้าน ก่อนจะบินหายลับไปกับขอบฟ้า ชาวไวกิ้งจึงต้องสร้างบ้านหลังใหม่มาแทนบ้านที่ถูกไฟจากมังกรทำลายไป ฮิคคัพ เด็กหนุ่มลูกหัวหน้าไวกิ้งแต่เกิดมาด้วยร่างกายที่บอบบางต่างจากชาวไวกิ้งที่มีร่างกายใหญ่โตกำยำว ทำให้พ่อของเขาไม่ต้องการให้กลายเป็นนักล่ามังกร แต่ฮิคคัพมีความฝันว่าเขาจะเป็นผู้ฆ่ามังกรสักวันหนึ่ง โดยเฉพาะการที่เขาสนใจหญิงสาวรุ่นเดียวกันที่ชื่อ เอสดริด ทำให้เขาต้องใช้ความพยายามมากขึ้นไปอีกเพื่อเอาชนะใจทั้งพ่อและหญิงสาวที่หมายปอง ระหว่างวันที่ฝูงมังกรเข้ามาบุกรุกยามค่ำคืนด้วยเครื่องมือที่ฮิคคัพประดิษฐ์ขึ้นมาทำให้บังเอิญยิงไปถูกมังกรที่ตำนานว่าไว้ว่าอันตรายสุดๆที่ถูกเรียกว่า “ราตรีพิโรธ (Night Fury)” และรุ่งขึ้นเขาออกตามหาและต้องการปลิดชีพมังกรด้วยตัวเขาเอง และสิ่งที่เขาคิดก็ถูกต้องเมื่อเจ้าราตรีพิโรธบาดเจ็บและติดอยู่กับอาวุธที่เขายิงมันจนกระดิกตัวทำร้ายเขาไม่ได้ ขณะที่ฮิคคัพคว้ามีดเพื่อจะแทงที่หัวใจพร้อมกับพาหัวใจมังกรไปโชว์ให้เหล่าไวกิ้งเห็น เขาก็พบกับความรู้สึกบางอย่างทำให้เขาไม่ทำร้ายมังกรอีก และหลังจากนั้นสัมผัสที่เขาได้จากเจ้าราตรีพิโรธทำให้ไม่เพียงเขากับเจ้ามังกรตัวนี้จะพัฒนาจนเป็นเพื่อนกันพร้อมตั้งชื่อให้ว่าเจ้าฟันหลอ(Toothless) แทนราตรีพิโรธ ฮิคคัพยังเรียนรู้ที่จะเอาชนะมังกรตัวอื่นๆแทนที่จะฆ่าพวกมัน แต่ปัญหาคือมันเป็นการฝืนธรรมเนียมปฏิบัติของชาวไวกิ้งส์ที่มองว่ามังกรคือศัตรูที่เมื่อเจอต้องต่อสู้และทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับพ่อของตัวเองและปัญหาที่ใหญ่ที่สุดกลับไม่ใช่ฝูงมังกรที่มาบุกหมู่บ้านแต่มันคือ............. ![]() ![]() ![]() ภาพยนตร์การ์ตูนที่เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มที่กำลังจะโตเป็นไวกิ้งและต้องผ่านการเรียนรู้ที่จะล่ามังกรที่ตามตำราของชาวไวกิ้งกล่าวว่ามังกรทุกพันธุ์เป็นศัตรูกับมนุษย์ ไม่ว่าฮิคคัพอ่านตำราพันธุ์มังกรไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไหนต่างอธิบายสรรพคุณความโหดร้ายของมังกรแต่ละพันธุ์ สุดท้ายเมื่อพบเจอวิธีดีที่สุดก็คือฆ่ามังกรตัวนั้นซะถ้าทำได้ แต่เมื่อเขาได้สัมผัส ได้เรียนรู้กับมังกรจริงๆเขาก็พบว่าในตำรานั้นผิดหมด มังกรก็มีความกลัวเหมือนกับที่มนุษย์กลัวมังกรและการออกล่าของมังกรก็เพื่อความอยู่รอด ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการมังกรจึงไม่ได้อยู่ในตำราและการ์ตูนเรื่องนี้ก็บ่งบอกถึงหลักสำคัญของการเรียนรู้ที่แท้จริง ตำราไม่ใช่สิ่งไม่สำคัญแต่ตำราเป็นสิ่งที่ผู้ที่จะเรียนรู้ต้องนำไปต่อยอดนำไปพัฒนาหรือค้นหาบางสิ่งที่แตกต่างออกไป หาใช่การยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดจนไม่กล้าที่จะออกนอกกรอบไปไหน และอีกมุมหนึ่งที่การ์ตูนเรื่องนี้ได้ให้แง่คิดก็คือการค้นหาตัวตนของตัวเอง บางทีนี่เป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาของสังคม ในเรื่องมีการโต้แย้งระหว่างพ่อกับลูกที่พ่ออยากจะให้ลูกเป็นและสิ่งที่ลูกคือฮิคคัพตัวเอกของเรื่องอยากจะเป็น แม้จะฮิคคัพอยากจะเป็นนักฆ่ามังกรเหมือนพ่อในช่วงแรก แต่เมื่อกาลเวลาผ่านการที่เขาได้ค้นหาและพบเจอความสามารถของเขาเองว่าทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ และพบตัวตนที่แท้จริงแล้วเขาไม่สามารถเป็นนักฆ่ามังกรได้แต่สามารถทำได้ดีกว่านั้น มันคือช่วงเวลาที่มนุษย์ทุกคนต้องตามหาตัวตนของตัวเองให้พบ และบ่อยๆมักจะไม่แปลกที่จะยึดแบบอย่างจากพ่อแม่เป็นต้นแบบหรืออาจจะถูกบังคับให้ตามแบบพ่อแม่ก็ตาม แต่พรสวรรค์ของแต่ละคนอาจจะไม่ได้ถูกส่งต่อตามกรรมพันธุ์ของบิดาหรือมารดา ความฝันของแต่ละคนก็อาจจะไม่อยู่ในฝันเดียวกันกับบุพการี และทุกคนก็ต้องการช่วงเวลาของการเรียนรู้และค้นหาตัวตนก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและ How to train your Dragon ก็เป็นการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่เหมาะกับเด็กๆที่จะเรียนรู้การวางเป้าหมายในอนาคตที่ต้องหาตัวตนเสียก่อนโดยมีผู้ปกครองร่วมให้คำแนะนำแทนการกำหนดเจาะลงและเรียนรู้การที่จะเอาชนะใจผู้อื่นให้ได้ต้องค้นหาตัวเองให้เจอเสียก่อน เหมือนชื่อเรื่อง How to train your dragon และ Dragon หรือมังกรในการ์ตูนอาจจะหมายถึงหัวใจของเรานั่นเอง หมายเหตุ 1: ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกชมว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำเป็นรูปแบบ 3D ได้เจ๋งสุด ดังนั้นดูแบบ 3D จะได้ความมหัศจรรย์อีกแบบ หมายเหตุ 2: ไม่มีมังกรตัวไหนถูกทำร้ายระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ 55555 ตัวอย่างภาพยนตร์ ![]() ![]() ![]() ![]()
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มีนาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 |