หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงามในยิปมันภาคแรกด้วยปรัชญากังฟูที่มุ่งเน้นความสงบ สง่างามและป้องกันตัวมากกว่าทำลายล้าง ภาพยนตร์ไม่เพียงได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งฮ่องกง 28th Hong Kong Film Awards แต่ยังยกระดับ ดอนนี่ เยน หรือ เจินจือตัน ให้กลายเป็นกังฟูอันดับ 1 ของเอเชียแทนที่รุ่นพี่ที่ห่างหายไปกับวงการฮอลลีวู๊ดบ้างหรือหมดยุคทองผ่องอำไพของภาพยนตร์กังฟูของฮ่องกง บางทีอาจจะเรียกว่าอันดับ 1 ในแนวศิลปะป้องกันตัวเลยก็ว่าได้นั่นหมายถึงดอนนี่ เยน น่าจะก้าวผ่านโทนี่ จา ของไทยที่ยังย่ำอยู่กับที่กับแนวแอคชั่นที่ขาดอารมณ์ร่วมให้กับคนดู แม้ว่าภาพยนตร์อย่างยิปมัน 2 ก็แทบจะไม่มีพล็อตเรื่องอะไรที่ซับซ้อนหรือเลิศเลอ แล้วปัจจัยอะไรล่ะที่ทำให้ ดอนนี่ เยน หรือภาพยนตร์ของเขาเริ่มจากเล็กๆจนเติบโตเป็นแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญภาค 2 ได้ก้าวล้ำภาคแรกไปอย่างมากทั้งการตอบรับจากนักวิจารณ์และการทำรายได้อย่างมากมายจนเป็นสถิติเมื่อออกฉายทั้งในจีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ บนฉากหลังของสงครามมหาเอเชียบูรพาที่ญี่ปุ่นรุกรานจีน และยิปมันได้รับผลกระทบจากสงครามจนเรียกว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ปรัซญาของเพลงมวยหย่งชุนยังสะท้อนบนตัวยิปมันอย่างสมบูรณ์ เรียบง่าย สงบ และไม่หวั่นไหว แม้จะเปลี่ยนสถานะจากร่ำรวยมาเป็นยาจก เมื่อยิปมันภาค 2 เริ่มต้นก็สานรับกับภาคแรกเมื่อยิปมันต้องระหกระเหินมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ฮ่องกงและสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดก็เป็นครูมวย ยิปมันต้องเผชิญกับอาจารย์หงษ์(หงจินเป่า) ที่เป็นผู้ดูแลสมาคมค่ายมวยแห่งฮ่องกงและการส่งส่วยให้กับนายตำรวจฝรั่งที่ดูแลอยู่ แต่ท้ายที่สุดเรื่องราวไม่ต่างจากภาคแรกที่ยิปมันต้องต่อสู้กับนักมวยต่างชาติที่ในภาคแรกคือชาวญี่ปุ่นแต่ในภาค 2 เป็นฝรั่งที่ชื่อว่าทวิตเตอร์บนเรื่องราวที่เดาได้ไม่ยากและการปรากฏตัวของลูกศิษย์ยิปมันที่ชื่อว่า “บรูซ ลี” ![]() ![]() ยิปมัน 2 ยังคงขายเอกลักษณ์ความเป็นชายหนุ่มที่มากฝีมือแต่ให้เกียรติกับภรรยาและดูเป็นคนรักครอบครัวและเคารพความเป็นคนของทุกชีวิต ในขณะเดียวกับจุดเด่นของเรื่องคือฉากกังฟูที่ไม่ต้องดัดแปลงอะไรมากมายจากเรื่องแรก เพลงมวยที่อ่อนน้อมถ่อมตน การเคารพคู่ต่อสู้ และการต่อสู้ที่สะท้อนของปรัชญาป้องกันตัวมากกว่าการทำร้าย แค่ฉากการต่อสู้ในตลาดปลาที่ยิปมันหยิบมีดขึ้นมาแล้วสลับด้านคมออกเอาสันที่ทื่อมาสู้กับมาเฟียก็เรียกเสียงฮือให้กับคนดูและตอกย้ำบุคลิกของยิปมันได้อย่างชัดเจน เพียงเสน่ห์เล็กๆแค่นี้ที่มีตลอดเรื่องก็เพียงพอดึงอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ฉากต่อสู้ในเรื่องยังมีทีเด็ดที่น่าสนใจระหว่างกังฟูต่างยุคคือหงจินเป่าในบทอาจารย์หงส์กับดอนนี่เยนในบทยิปมัน และมันก็เป็นสิ่งที่ผู้ชมอยากดูเป็นที่สุดและก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง และน่าจะเป็นฉากสู้ที่ดีทีสุดของภาพยนตร์แนวศิลปป้องกันตัวในรอบหลายๆปี รวมทั้งบทสนทนาดีๆก็ช่วยเสริมแรงเพิ่มคุณภาพของภาพยนตร์ได้เป็นอย่างมาก ![]() บุคลิกของอาจารย์หงส์(หงจินเป่า)กับยิปมันน่าจะไม่แตกต่างมากนักในแง่ของการเป็นคนรักครอบครัว มีความรู้และเพลงยุทธ์ แต่สิ่งที่สะท้อนและเป็นมุมมองที่น่าสนใจก็คือสภาพแวดล้อมที่ต่างกันกลับทำให้อาจารย์หงส์กับยินยอมให้เงินเข้ามาครอบงำในบางมุม เนื่องจากสภาพของฮ่องกงที่มีการคอร์รัปชั่นและการต่อสู้แย่งชิงเพื่อครอบครองพื้นที่ทำมาหากิน ในขณะที่ยิปมันมาจากพื้นฐานของเมืองฝอซานที่เคยสงบและรุ่งเรืองก่อนที่ญี่ปุ่นจะมายึดครอง กังฟูจึงถูกใช้เพื่อวัตถประสงค์ที่ต่างกันโดยไม่นับความแตกต่างของเพลงมวยของทั้งสองตระกูล แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ดึงมาใช้อย่างเด่นชัดคือ “ความรักชาติ” ผ่านคำว่า “มวยจีน” วัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่ตกทอดและเป็นส่วนหนึ่งหรือองค์ประกอบของชาตจีนหรือคนจีน และเป็นอารมณ์ร่วมที่ตรึงผู้ชมไม่เพียงแต่คนจีนเท่านั้น และสิ่งนี้เองที่ทำให้ภาพยนตร์พล็อตเรื่องธรรมดาก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ดีได้เรื่องหนึ่ง ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้อธิบายว่าภาคแรกเป็นมุมหนึ่งของการเอาชีวิตรอดจากภัยสงคราม แต่ภาคสองเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของการมีชีวิตอยู่ ยิปมันได้สะท้อนให้เห็นค่านิยมที่มุ่งเน้นคุณค่าของครอบครัว ตอนหนึ่งที่ปะทะฝีมือกับอาจารย์หงส์ในช่วงที่ครอบครัวของอาจารย์หงส์กำลังจะทานข้าวเย็น แต่อาจารย์หงส์ที่มุ่งมั่นกำราบยิปมันให้ได้จึงขอปะลองก่อน แต่ไม่เพียงแต่ยิปมันแสดงฝีมือป้องกันตัวเองแล้วยังคำนึงถึงคนอื่นในเวลาเดียวกันอีกด้วย ก่อนที่ลูกชายคนเล็กของอาจารย์หงส์จะโดนลูกหลงของอาจารย์หงส์เองเป็นยิปมันที่ช่วยไว่ได้และขอให้อาจารย์หงส์ทานอาหารกับครอบครัวก่อน การต่อสู้มีขึ้นเมื่อใดก้ได้ และเป็นที่มาของคำว่า “ชัยชนะสำคัญนักหรือเมื่อเทียบกับการกลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารกับครอบครัว” รวมทั้งไม่เพียงหัวหน้าครอบครัวที่ดียังแสดงถึงการปกป้องลูกน้องในมุมที่หาดูได้ยากในปัจจุบันที่หัวหน้าคนทุกคนควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และบทสรุปที่ชัดเจนเมื่อยิปมันประกาศว่า “คนทุกคนเกิดมาบนพื้นฐานที่แตกต่างกัน แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นคนไม่ได้ต่างกันเลยแม้แต่น้อย” เพื่อเป็นการสยบชาวฝรั่งและต่างชาติที่ดูถูกคนจีน และเพียงแนวคิดที่สอดแทรกอย่างกลมกลืนก็ไม่แปลกที่ยิปมัน 2 จะกลายเป็นภาพยนตร์ที่ชนชาวจีนทั้งหลายต่างแห่แหนกันไปดูแบบถล่มทลายทั้งในจีนแผ่นดินใหญ่หรือจีนแผ่นดินน้อยทั้งหลาย เพราะการดึงอารมณ์ร่วมและปรัชญาอันลึกซึ้งของชาวตะวันออกผ่านเพลงมวยทำได้อย่างไม่มีที่ติ และยิปมัน 2 ก็เป็นภาพยนตร์ดีอีกเรื่องหนึ่งที่แฝงแนวคิดดีๆอยู่ในฉากการสู้ที่สวยงาม และทิ้งทายเห็นว่าชัยชนะไม่ได้สำคัญเลยถ้าได้มาบนซากปรักหักพัง ชัยชนะที่แท้จริงคือการไม่ต้องทำศึกต่างหาก ตัวอย่าง ภาพยนตร์ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | พฤษภาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |