ในปี 1995 หรือ 15 ปีที่แล้ว ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องหนึ่งได้ปฏิวัติรูปแบบของการ์ตูนบนโลกภาพยนตร์ไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อเปลี่ยนเทคนิคจากการวาดภาพด้วยมือให้กลายมาเป็นการวาดในคอมพิวเตอร์หรือที่รู้จักกันในชื่อ CGI หรือ Computer- Generated Imaginary หมดทั้งเรื่อง (จนเว็บไซด์เกี่ยวกับหนังชื่อดังอย่าง EW.com บอกว่าการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการฆ่าการ์ตูนที่ใช้เทคนิคแบบวาดมืออย่างสมบูรณ์แบบ) แม้เทคนิคนี้จะมีการใช้ในโรงภาพยนตร์มาก่อนหน้าบ้างแล้วแต่ก็เป็นการใช้เพียงบางส่วนเช่น Terminator 2 ในปี 1991, Forest Gump ในปี 1993 หรือแม้แต่ในการ์ตูนอย่าง Beauty and the Beast การมาของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องดังกล่าวไม่เพียงทำให้ผู้ชมได้บริโภคและชื่นชมกับภาพที่สวยแปลกตา แต่ยังผสมผสานความสนุกสนาน ดราม่า และข้อคิดที่ค่อนข้างจะลงตัวจนเป็นที่มาของการสร้างภาคต่อและภาคแยกออกมาอีกหลยตอน ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก Toy Story 3 และเมื่อเปิดตัว Toy Story ภาคล่าสุดก็ทำสถิติใหม่จนแซงเจ้าของสถิติเดิม Shrek 2 ไปนั่งแท่นภาพยนตร์การ์ตูนที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลก (แต่เฉพาะในสหรัฐสถิติยังเป็นของเจ้าของเดิมอยู่) การมาของภาคล่าสุดที่อาจจะเป็นตอนสุดท้ายของไตรภาคเมื่อบทสรุปตอนท้ายเรื่องคือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเหล่าตัวการ์ตูนที่ทั่วๆโลกรู้จักกันอย่างดี ![]() พิกซ่าร์สตูดิโอ ผู้สร้างสรรค์ Toy Story จนกลายเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเข้าขั้นคลาสสิค โดยเฉพาะตัวละครอย่าง วู๊ดดี้ บัทซ์ไลท์เยียร์และผองเพื่อน กลายเป็นคาร์แล็คเตอร์ที่น่าจดจำในยุค 90 เปรียบก็เหมือนตัวละครอย่างอินเดียน่าโจนส์ ลุ๊ค สกายวอล์กเกอร์ หรือโอบีวัน เคนโนบี ที่กลายเป็นตำนานจากยุค 70 และ 80 แม้ว่าหลายคาร์แล็กเตอร์จะมาจากของเล่นในยุครุ่นบูมเมอร์ (ราวทศวรรษที่ 60) คาร์แล็กเตอร์ของวู๊ดดี้ มาจากหุ่นกระบอกที่ชื่อ Howdy Doody ในรายการทีวีสำหรับด็กในยุค 60 (มีที่มาของวู๊ดดี้ปรากฏในภาค 2) ในขณะที่ บัทซ์ ไลท์เยียร์ ชื่อเรียกก็มาจากนักบินคนที่สองที่เหยียบดวงจันทร์นามว่า บัทซ์ อัลดิน แต่พิกซ่าร์ก็นำมาสร้างเป็นบุคลิกที่มีความเฉพาะตัวอย่างอย่างสมบูรณ์จนเป็นคาร์แล็กเตอร์แห่งยุค 90 เช่น วู๊ดดี้ นายอำเภอผู้นำของเหล่าของเล่น บัทซ์ไลท์เยียร์ พรานอวกาศที่หลงลืมว่าตัวเองไม่ใช่ของเล่น เร็กซ์ไดโนเสาร์ขี้ตกใจ หรือ มิสเตอร์โปเตโต้เจ้าอารมณ์ ผนวกกับบทภาพยนตร์ที่ให้มุมมองของมิตรภาพขอเหล่าผองเพื่อนที่ผูกพันกันจนไม่ทิ้งกันสร้างความอบอุ่นให้กับผู้ชมตามสไตล์การ์ตูนของดิสนีย์ในยุคปัจจุบัน ![]() ![]() ![]() ในภาค 3 เริ่มตนจากแอนดี้เจ้าของเหลาของเล่นพ้นวัยการเล่นของเล่นและกำลังเข้าสู่การเนนักศึกษาของมหาวิทยาลัย และนั่นก็เป็นข่าวร้ายเมื่อแอนดี้จะต้องย้ายไปประจำที่มหาวิทยาลัย เหล่าของเล่นหรือของใช้ก็จะต้องถูกโละออกจากห้อง แต่ด้วยความเข้าใจผิดที่เหล่าของเล่นคิดว่าพวกเขาจะต้องถูกบริจาคทำให้เหล่าของเล่นต่างพร้อมใจกันอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก ในขณะที่มีเพียงวู๊ดดี้เท่านั้นที่รู้ว่าแอนดี้ไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่บัทซ์ไลท์เยียร์และผองเพื่อนไม่เชื่อและที่สถานเลี้ยงเด็กนี่เองที่พวกเขาอาจจะได้เป็นขอเล่นของเหล่าเด็กมากมายอีกครั้ง แต่สถานการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับเหล่าของเล่นเจ้าถิ่นที่นำโดยลอซโซ่ ตุ๊กตาหมีหัวหน้ากลุ่ม และเคน ตุ๊กตาหนุ่มหล่อ ที่ล่อหลอกให้บัทซ์ไลทืเยียร์และพวกต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่คิด และมีเพียงวู๊ดดี้เท่านั้นที่จะช่วยเหล่าผองเพื่อนให้พ้นภัยอันตรายนั้นได้ ![]() ![]() ![]() แต่ละภาคของ Toy Story จะมีคาร์แล็คเตอร์ใหม่ๆเพิ่มเติมเข้ามาในภาค 1 เจซซี่คาวบอยหญิงจอมซ่าและบลูอายส์กลายมาเป็นเพื่อนร่วมก๊วนของนายอำเภอและพรานอวกาศ ในภาค 3 มีการเติมตุ๊กตาที่เด็กหญงทั่วโลกต่างรู้จักนั่นคือ บาร์บี้ และ คู่ขวัญ เคน ในความเป็นจริงบาร์บี้ถูกวางว่าจะเป็นคาร์แล็กเตอร์ที่จะต้องมีตั้งแต่ในภาคแรก แต่ก็พลาดไปมาเพราะมัทเทล(Mattel)บริษัทเจ้าของตุ๊กตาบาร์บี้ไม่อนุญาตเพราะเกรงว่าการปรากฏตัวของบาร์บี้ในภาพยนตร์ที่มีทั้งเสียงและการเคลื่อนไหวจะทำลายจินตนาการและความฝันของเหล่าเด็กหญิงที่มีต่อภาพลักษณ์ของตุ๊กตาบาร์บี้ แต่ในที่สุดบาร์บี้ก็มาโผล่ให้เห็นในภาคที่ 2 สำหรับในภาคแรกถูกแทนที่โดยสาวน้อยเลี้ยงแกะชุดชมพูนามว่าโบปีป แต่ในภาค 3 น่าเสียดายที่ตัดโบปีปออกไป ทั้งที่เป็นคาร์แล็คเตอร์ประกอบที่สำคัญตัวหนึ่ง และในภาค 3 ยังมีการนำของเล่นตุ๊กตาที่ชื่อว่า “โตโตโร่” มาประกอบอยู่หลายตอน ถ้าใครเป็นแฟนการ์ตูนจากฝั่งเอเชียก็คงรู้ว่าเจ้าโตโตโร่สำคัญเพียงใดในวงการการ์ตูนของญี่ปุ่นและการปรากฏตัวของโตโตโร่ใน Toy Story ไม่เพียงอธิบายความสัมพันธ์ที่ดีของค่ายการ์ตูนของฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่นเท่านั้นแต่ยังส่งผลถึงตลาดหนังในญี่ปุ่นที่จะทำให้ Toy Story จะต้องเพิ่มความนิยมในญี่ปุ่นอีกมากมาย (ในปี 2008 สตูดิโอพิกซ่าร์เป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงผลงานและร่วมประมูลภาพวาดเพื่อช่วยสตูดิโอจิบลิในการระดมเงินทุนเพื่อซื้อพื้นที่ป่าซายาม่า ใกล้กรุงโตเกียว ป่าที่เป็นแรงบันดาลใจให้ ฮายาโอะ มิยาซากิใช้เป็นที่อยู่ของโตโตโร่ในการ์ตูน เรื่อง My Neighbor Totoro จนป่าแห่งนี้ได้ชื่อว่า ป่าหรือบ้านเกิดของโตโตโร่ ก่อนที่ป่าผืนนี้จะถูกนายทุนรุกคืบเพื่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ และสตูดิโอจิบลิก็สามารถระดมทุนได้ถึง 3 ล้านเหรียญในชื่อโครงการ Totoro Forest Project) ![]() ![]() ถ้าภาคแรกเมื่อ 15 ปีก่อนมุ่งเน้นประเด็นการค้นพบตัวเอง ว่าของเล่นก็คือของเล่นไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้ ภาคสองก็คงเป็นเรื่องของมิตรภาพที่ไม่ทิ้งกัน และสำหรับภาคที่สามก็คงเป็นมิตรภาพในช่วงของการเปลี่ยนแปลง ทุกๆสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงและเหล่าของเล่นก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเช่นกันเมื่อเจ้าของผ่านวัยไปสู่การเป็นผู้ใหญ่ แต่ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเช่นใดมิตรภาพและความสามัคคีจะสามารถทำให้ผ่านพ้นการเปลี่ยนแปลงนั้นไปได้ และนั่นก็เป็นข้อดีที่พิกซ่าร์เลือกมาใส่ใน Toy Story 3 ในยุคที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติการณ์กลายเป็นอารมณ์ร่วมที่ใครต่างก็พากันซาบซึ้ง ในภาคล่าสุดคาร์แล็คเตอร์ที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างเด่นชัดและเหมือนที่จะจงใจให้โดดเด่นกว่าทุกภาคเลยก็คือ วู๊ดดี้ที่ในทุกภาคก็เป็นตัวเอกอยู่แล้วแต่มักจะแชร์บทบาทกับบัทซ์ไลท์เยียร์(ที่คาร์แล็คเตอร์ที่ดูแล้วเด็กๆชอบมากกว่า) ในภาคก่อนนายอำเภอวู๊ดดี้มีมิติของความเป็นมนุษย์มากกว่า เพราะเป็นคาร์แล็คเตอร์ที่มีข้อบกพร่อง ในภาคแรกวู๊ดด้เกิดอาการอิจฉาที่แอนดี้เจ้าของได้ของเล่นใหม่ที่ชื่อว่า บัทซ์ไลท์เยียร์ ในขณะที่ภาคต่อมาวู๊ดดี้เกิดหลงไปกับกิเลศที่อยากไปอยุ่พิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นจนเป็นเหตุให้เพื่อนๆต้องตามมาช่วยเหลือจนเป็นทีมาของคำพูดของบัทซ์ไลท์เยียร์ที่ว่า “วู๊ดดี้เสี่ยงชีวิตมาช่วยฉัน(ในภาคแรก) และครั้งนี้ฉันก็ไม่สามารถจะกล่าวว่าเป็นเพื่อนของวู๊ดดี้ได้เลยถ้าไม่ไปช่วยเขา ใครจะมากับฉันบ้าง” วู๊ดดี้ในตอนล่าสุดกลับกลายเป็นความสมบูรณ์แบบ และโดยเฉพาะสาสน์ตอนสุดท้ายที่แอนดี้กล่าวถึงวู๊ดดี้ว่าคุณสมบัติที่สำคัญคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคือเขา(วู๊ดดี้)ไม่เคยยอมแพ้ และมันอาจะเป็นสาสน์ถึงชาวอเมริกันทั้งประเทศด้วยคาร์แล็คเตอร์คาวบอย ภาพลักษณ์ของอเมริกันชนในอดีตในยามที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันว่าอย่ายอมแพ้ และวู๊ดดี้ก็อาจเป็นจิตวิญญาณแห่งอเมริกันชนในยุคเริ่มบุกเบิกและบางทีอาจจะเป็นไอค่อนหรือสัญลักษณ์ที่ให้อเมริกันชนต่อสู้และก้าวผ่านปัญหาต่างๆไปให้ได้ บางทีจิตวิญญาณดั้งเดิมของบรรพบุรุษเท่านั้นที่จะพาอเมริกันชนผ่านพ้นวิกฤติการณ์ ทรนง หยิ่งในศักดิ์ศรี รักอิสระ ยุติธรรม ไม่ยอมแพ้ ดั่งคาวบอยในยุคแห่งการสร้างชาติ ไม่ใช่ทาสของเงินที่จ้องกอบโกยจนไม่สนใจสิ่งใดๆเลยแบบทุนนิยมในปัจจุบัน แล้วเมืองไทยล่ะจะก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงไปด้วยแบบใด????? ![]() ตัวอย่างภาพยนตร์ ![]()
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2010 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 |