ก่อนหน้าน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง ถ้ามีบ้านไหนตระเตรียมเก็บของขึ้นสูงหรือสร้างกำแพงกั้นน้ำหน้าบ้านเพื่อหลบภัยน้ำท่วมคงต้องถูกมองอย่างประหลาดจากเพื่อนบ้านรอบๆแน่ พร้อมอาจจะถูกมองว่าบ้าเข้าไปอีก เพราะน้ำท่วมแบบมิดคอคงไม่มีทางเกิดที่กรุงเทพฯหรือปริมณฑลเป็นแน่นอนในความคิดของคนส่วนใหญ่ Take Shelter คือภาพยนตร์ที่อาจไม่ได้มีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับมหาอุทกภัยดังกล่าวแต่ก็มีสิ่งที่คล้ายคลึงกันบางอย่าง เรื่องราวของการตระเตรียมกับภัยที่ยังไม่ได้เกิดโดยเฉพาะในดินแดนที่สงบสุขและไม่ได้มีภัยธรรมชาติใดๆมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จนการเตรียมตัวเตรียมภัยที่ยังไม่ได้เกิดกลายเป็นเรื่องแปลกและไม่สามารถหาเหตุผลใดๆมาอธิบายได้ Take Shelter ภาพยนตร์ที่เปิดหน้าด้วยภาพของภัยธรรมชาติและสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าแห่งหายนะแต่ขณะเดียวกันกับแฝงความนัยในเรื่องของครอบครัวได้อย่างมีชั้นเชิงโดยเฉพาะความหมายของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวหรือ พ่อ ภาพยนตร์โดย เจฟฟ์ นิโคลล์ ที่มีผลงานไม่มากนักในฐานะผู้อำนวยการสร้าง แต่ Take Shelter ก็ทำให้เจฟฟ์ได้เครดิตไปมากทีเดียว ทั้งนี้ต้องยกคำชมให้กับศูนย์กลางของเรื่องอย่าง ไมเคิล แชนนอน ที่รับบทเคอร์ติส หรือ พ่อ ของครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นก่อนจะเห็นภาพนิมิตแห่งหายนะ โดยไมเคิล แชนนอน มีผลงานผ่านตามาหลายเรื่องแต่ก็รับบทไม่โดดเด่นมากนัก จนมารับบทเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้ตงฉินและอาสามาปราบคอรร์รัปชั่นในซีรี่ย์ชั้นดีเรื่อง Boardwalk Empire ด้วยบุคลิกที่ดูจริงจังและเคร่งเครียด บทพ่อใน Take Shelter ทำให้ผู้ชมเชื่อสนิทใจกับการบีบคั้นทางอารมณ์ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เพราะแค่เหนหน้าไมเคิล แชชน่อนในสภาวะปกติก็เครียดอยู่แล้วโดนไม่ต้องปั้นหน้าเพิ่มเติม เรื่องราวของเคอติส ลาฟรอช (ไมเคิล แชนน่อน) ผู้นำของครอบครัวที่อบอุ่นกับซาแมนท่า ภรรยา และลูกสาวที่มีปัญหาด้านการฟัง เคอติสทำงานในบริษัทก่อสร้างมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นทั้งเพื่อนสนิท มีชีวิตที่เรียบง่ายในเมืองสงบตามชนบทแถบโอไฮโอ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสิ่งผิดปกติจนวันหนึ่งเคอติสฝันเห็นพายุลูกใหญ่กำลังมา เป็นมหันตภัยที่ไม่เคยเกิดและทุกครั้งที่เขาฝันจะมีเรื่องร้ายในฝันตามมา เช่น ถูกสุนัขที่เขาเลี้ยงเองกัด เพื่อนรักทำร้าย ก่อนจะสะดุ้งตื่น พร้อมกับอาการที่เขาคิดว่าเหมือนจริงอย่างไม่น่าเชื่อ รวมทั้งบางครั้งก็เห็นภาพแปลกๆบนท้องฟ้าในยามตื่น เช่น ฝูงนกขนาดใหญ่ที่แตกตื่น ในขณะที่ไม่มีคนอื่นเห็นเลย จากความฝันและสิ่งปกติที่เขาพบเจอ ทำให้เคอร์ติสมีความเชื่อว่ามันเป็นสัญญาณอันตรายบางอย่างที่บอกเขาล่วงหน้า แตขณะเดียวกันเขาก็ไม่ปิดตัวเองจากสมมุติฐานที่ว่าเขาอาจจะผิดปกติทางจิตด้วย เมื่อประวัติของครอบครัวก็มีคุณแม่มีความผิดทางจิตอยู่เช่นกัน ดังนั้นเคอร์ติสจึงเตรียมการรับมือกับภัยด้วยการสร้างหลุมหลบภัย แต่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ชีวิตที่เคยสุขสบายทั้งครอบครัว รวมทั้งลูกสาวที่จะมีโอกาสได้รับการรักษาจากปัญหาทางการฟังก็ต้องกับเผชิญปัญหาทางเงินครั้งใหญ่จนอาจจะเป็นอีกมหันตภัยนั่นก็คือปัญหาทางการเงินจนมาสู่ปัญหาครอบครัวของเคอติสเอง.omujl6f ภาพยนตร์วางน้ำหนักของเรื่องให้ไม่ถูกเชื่อว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไรระหว่างสัญชาตญาณของเคอติสเป็นจริงหรือจริงๆแล้วเขาเป็นบ้ากันแน่จนกว่าผู้ชมจะชมจบ และนั่นก็ต้องชมทั้งเจฟฟ์ นิโคลล์ ผุ้อำนวยการสร้างและไมเคิล แชนน่อน ที่ดึงอารมณ์คนดูจนเครียดตามไปกับสถานการณ์ แม้ภาพยนตร์จะดึงเป็นประเด็นมหันตภัยทางธรรมชาติออกมาสื่อให้เห็นแต่เนื้อแท้แล้ว Take Shelter คือภาพยนตร์ดราม่าที่มุ่งเน้นครอบครัวเป็นหลัก โดยเฉพาะบทบาทและหน้าที่ของ พ่อ เราจึงได้เห็นหน้าที่ของพ่อที่พร้อมจะปกป้องครอบครัวไม่ว่าภัยนั้นจะมาถึงหรือยังไม่มาก็ตาม และเราก็ได้เห็นว่าท้ายที่สุดพ่อก็ยอมรับได้แม้ว่าอันตรายนั้นอาจจะเกิดจากสมาชิกในครอบครัวตัวเองก็ตาม ทุกๆครั้งที่ฝันและเกิดสิ่งที่เกิดตามมาเช่น สุนัขที่เลี้ยงกัดเคอติส หรือเพื่อนรักทำร้าย เคอติสจะพยายามหาทางห่างจากสุนัขหรือเพื่อนรักด้วยการให้สุนัขให้พี่ชายเลี้ยงแทนหรือบอกเจ้านายว่าเขาจะแยกทีมทำงานกับเพื่อน แต่วันหนึ่งเมื่อในฝันบอกว่าคนที่จะทำร้ายคือภรรยาของเขาเอง เคอติสก็ไม่เคยคิดที่จะแยกภรรยาออกจากห่างตัวเขาแม้ว่าเขาคิดว่าอันตรายจะเกิดกับเขาแน่ๆก็ตาม บางทีหลุมหลบภัยตามชื่อเรื่องและสิ่งที่เคอติสสร้างอาจจะเป็นเพียงสัญลักษณ์อยางหนึ่งที่แท้จริงแล้วภาพยนตร์ต้องการจะบอกว่าหลุมหลบภัยที่สำคัญที่สุดเป็นกำบังภัยให้กับครอบครัวหาใช่หลุมหลบภัยที่เคอติสสร้างขึ้นไม่ ถ้า แม่ คือผู้ฟูมฟักของครอบครัว หน้าที่กำบังของครอบครัวก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก พ่อ หรือเคอติสในเรื่องนั่นเอง |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | ธันวาคม 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |