ย้อนรำลึกวันสดใสของรูเบิ้ล

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565

วันพฤหัสบดี ที่ 12 กรกฎาคม 2555

ย้อนรำลึกวันสดใสของรูเบิ้ล

Posted by รุสสกี้ , ผู้อ่าน : 5240 , 00:38:27 น.
หมวด : ต่างประเทศ

พิมพ์หน้านี้

โหวต 2 คน BlueHill , hayyana โหวตเรื่องนี้

วันนี้ไปเจอรูปอยู่รูปหนึ่ง ดูข้อความในรูปแล้วก็ชอบ นั่งยิ้มอยู่นานเหมือนกัน ข้อความในรูปภาพ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง และหากดูจากหนุ่มน้อยในภาพ ก็อนุมานได้ว่า ข้อความช่วงแรก บ่งบอกถึงในยุคที่ยังเป็นสภาพโซเวียต ส่วนข้อความหลัง เป็นช่วงที่กลับมาเป็นรัสเซียแล้ว แต่ที่ผมชอบก็คือการหักมุมของมันครับ ข้อความตอนแรกบอกว่าตอนที่หนุ่มน้อยในภาพยังเป็นเด็กๆ แม่ได้เอาเงินให้เขา 2 รูเบิ้ล และสั่งให้เขาไปที่ร้านขายของชำ เพื่อไปซื้อข้าวของมากมายหลายอย่าง ในยุคโซเวียต ค่าเงินรูเบิ้ลยังแพงอยู่ครับ ก็เลยซื้อของได้มากมาย เมื่ออ่านข้อความแรก เราจะเห็นได้ว่าค่าเงินรูเบิ้ลในยุคนั้นน่าจะสูงมากจริงๆ และในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ข้าวของในโซเวียตถูกมาก เพราะที่แม่สั่งให้ซื้อด้วยเงิน 2 รูเบิ้ลนั้น มีทั้งมันฝรั่ง 1 กิโลกรัม ขนมปัง 2 ก้อน นม 2 ขวด ไข่ 10 ฟอง ชา 1 กล่อง แถมยังเนยสดอีก ผมเคยอยู่ในยุคปลายของโซเวียต คือประมาณ 20 ปีก่อน ตอนนั้นค่าเงินรูเบิ้ลอย่างเป็นทาง การก็ราวๆ 30 กว่าบาท ในยุคก่อนการลอยตัวค่าเงินบาทของบ้านเรา โดยสมัยนั้น 1 ดอลล่าร์เท่ากับ 25 บาท เงิน 2 รูเบิ้ล ก็เท่ากับ 60 กว่าบาท ด้วยเงินแค่ 60 กว่าบาท แม้จะเป็นเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เมื่อมองดูข้าวของที่แม่สั่งซื้อแล้วก็จะเห็นได้ว่า ข้าวของในโซเวียตค่อนข้างถูกมาก แต่พออ่านประโยคหลังแล้วก็ขำครับ เพราะลุงคนนี้เหมือนกับจะบอกว่า แต่เงินรูเบิ้ลยุคสมัยนี้ ใช้ซื้ออะไรไม่ได้แล้ว เพราะในยุคนี้ 1 รูเบิ้ลร่วงลงมาเท่ากับ 1 บาทไทยครับ ในยุคที่บาทไทยลอยตัว ลดค่าไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เท่ากับว่า 2 รูเบิ้ลของลุงคนนี้ ก็เท่ากับ 2 บาทไทยในยุคของเรา ซึ่ง 2 บาท ก็คงจะเอาไปใช้ซื้ออะไรไม่ได้หรอกครับ อันนี้ไม่นับในประเด็นที่ว่า ข้าวของในรัสเซียยุคนี้ ค่อนข้างจะแพงมาก แต่ความขำในคำพูดประโยคหลังของลุงไม่ได้อยู่ที่ปัญหาเงินเฟ้อ แต่อยู่ที่กล้องวงจรปิดที่อยู่ตามห้างตามร้านครับ คือลุงแกบอกว่า เงิน 2 รูเบิ้ลยุคนี้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะที่ไหนที่ไหนก็มีแต่กล้องวงจรปิดทั้งนั้น 555555 คือถ้าไม่มีกล้องวงจรปิด เงิน 2 รูเบิ้ลของลุงในยุคนี้ก็คงจะมีค่ามากมายเช่นเดิม เมื่อลุงแกสามารถฉกข้าวของกลับไปบ้านได้มากมาย แล้วก็ทำให้เรากลับไปมองถึงในประโยคแรกว่า จริงๆแล้ว ข้าวของในยุคโซเวียตนั้นถูกจริงหรือ ? หรือเพราะว่าในยุคโซเวียต ลุงแกก็ไปฉกเขามาเช่นกัน ก็ต้องบอกว่า ที่เอามาเล่านี้ เป็นเรื่องขำขันล้อเลียนเท่านั้น ก็จึงมีการตีไข่ใส่สีลงไปมากบ้างน้อยบ้าง ไม่มีอะไรจริงจัง แต่ในฐานะที่ผมเคยอยู่ในโซเวียต ก็ยอมรับครับว่าข้าวของในยุคโซเวียตนั้นถูกจริง เมื่อเทียบกับรายได้ของประชาชน แม้ว่าในหลายๆทางแล้ว คุณภาพของมันก็สมกับราคาแหละครับ ( คือห่วย ) ช่วงนี้เราจะมาดูกันว่า สมัยนั้น 20 ปีก่อน ข้าวของราคาถูกกันขนาดไหน โดยอาศัยอัตราแลกเปลี่ยนในยุคปลายโซเวียต คือ 1 รูเบิ้ล แลกได้ประมาณ 30 กว่าบาท ในยุคที่ 1 ดอลล่าร์ยังแลกได้ 25 บาทครับ รูเบิ้ล มี 100 โกเปค อ้อ......งานนี้ เราจะเปรียบเทียบโดยอาศัยธนบัตรขนาดราคาต่างๆของโซเวียตครับ สำหรับรายได้ของคนโซเวียตนั้น ผมเทียบกับของตัวเองก็แล้วกัน เพราะรายได้ของเราก็ไม่ได้ต่างไปจากคนโซเวียตทั่วไปมากนัก ตอนผมเรียนหนังสืออยู่ ทางการจ่ายทุนการศึกษาให้ผมเดือนละ 100 รูเบิ้ลครับ ( ในปีหลังๆ ปรับมาเป็น 120 รูเบิ้ล ) ซึ่งน้อยกว่าคนทำงานแล้วระดับกลางๆนิดหน่อยครับ อย่างพนักงานธนาคาร และนักศึกษาจบใหม่ได้ 120 รูเบิ้ล ครูได้ 130 กว่า โชเฟอร์ขับรถบัสไฟฟ้าได้ 140 อาจารย์ได้ 170 ( สมัยยังไม่ปรับรายได้ ) ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็อาจจะได้สัก 300 กว่ารูเบิ้ล ถ้าเรามีธนบัตรราคา 1 รูเบิ้ล 1 ใบ ( 30 กว่าบาท ) ที่เราจะซื้อได้ ( อย่างใดอย่างหนึ่ง ) ก็มี ไม้ขีดไฟ 100 กลัก ( กลักละ 1 โกเปค ) ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถราง รถบัสไฟฟ้าได้ 20 เที่ยว ( เที่ยวละ 5 โกเปคตลอดสายทุกประเภท ) ใช้หยอดตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรศัพท์ได้ 50 ครั้ง ( ต้องไปแลกเหรียญโกเปคมาก่อน ) น้ำหวานรสมะนาว 33 แก้ว ( ไม่อร่อย.....จากตู้กดอัตโนมัติ ) ถ้าเป็นโซดาธรรมดาก็ 100 แก้ว ไอศครีม 5 ถ้วย นม 5 ลิตร ดูหนังรอบกลางวันได้ 3 รอบ ( รอบกลางคืนจะแพงกว่า หนังต่างชาติก็แพงกว่าหนังรัสเซีย ) เบียร์ 2 ขวด ( ขวดละครึ่งลิตร ซดเบียร์เสร็จ เอาขวดเปล่าไปขาย ก็ยังได้เงินกลับมาเกือบจะซื้อเบียร์ได้อีก 1 ขวด ) บุหรี่ 8 ซอง ( บุหรี่แบบรัสเซีย เรียกว่าปาปิรอส ไม่มีก้นกรอง และ 1 ตัวมีความยาวเท่ากับบุหรี่ปกติ ครึ่งตัว รสชาติแรงมาก ) แตงโม 6 กิโลกรัม ตัดผมท่านชาย หรืออบซาวน่า 5 ครั้ง ( อันนี้เนื่องจากผมไม่เคยเข้าร้านตัดผมในโซเวียต ไม่เคยใช้บริการซาวน่า ก็เลยไม่ขอยืนยันว่าข้อถูกต้องหรือไม่ ) ขนมปังขาว 4 ก้อน(ใหญ่) ขนมปังดำ 5 ก้อนใหญ่(มาก) หรืออาหารกลางวันในโรงอาหาร 1 มื้อ ( แต่ต้องเลือกหน่อย ไม่งั้นเกินงบ ) ถ้ามีธนบัตร 3 รูเบิ้ล 1 ใบ ( ประมาณ 100 บาท ) อาหารกลางวันในโรงอาหารโรงงานหรือโรงเรียน 5-6 คน ค่าทัวร์ชมเมืองสำหรับ 1 ครอบครัว บุหรี่นอก 1 ซอง ไก่สดขนาดย่อม 1 ตัว ค่าปรับสำหรับการขึ้นรถเมล์แล้วไม่ยอมกดตั๋ว ค่าหอพัก พร้อมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ( ใช้ได้ไม่อั้น ) ค่าเปลี่ยนผู้ปูที่นอนเดือนละ 2 ครั้ง 1 เดือนสำหรับนักศึกษา ค่าตั๋วเดือนสำหรับรถเมล์ รถราง รถบัสไฟฟ้ารวมกันสำหรับนักศึกษา ( ขึ้นได้ทุกสาย ขึ้นวันละกี่ครั้งก็ได้ แต่ไม่รวมรถไฟใต้ดิน ) ค่าแท็กซี่ ( ระบบต่อรอง ) ในระยะทางไกลพอประมาณ ( เพราะรถไม่ติด เมืองใหญ่ ก็เลยกลายเป็นเมืองไม่ใหญ่ เมื่อต้องนั่งแท็กซี่ ) ถ้ามีธนบัตร 5 รูเบิ้ล 1 ใบ ( ประมาณ 150 บาท ) เนื้อแดง 1 กิโลกรัม ( ไม่ติดกระดูก ) ว๊อดก้า 1 ขวด พร้อมกับแกล้ม ( ยุคก่อนกอร์บาชอฟ ออกมาต่อสู้กับปัญหาการติดเหล้า เลยปรับขึ้นราคาว๊อดก้า ) ทอฟฟี่ระดับดีมาก ( ทำจากช็อคโกแล็ต ) 1 กิโลกรัม ถ้ามีธนบัตร 10 รูเบิ้ล 1 ใบ ( ประมาณ 300 กว่าบาท ) ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมากมายหลายอย่างราคาไม่เกินนี้ ของเล่นดีๆ ระดับหรู เช่นรถเด็กเล่น ( เด็กลงไปนั่งขับได้ ) หรือโต๊ะบิลเลียด ( สำหรับเด็ก ) ถ้ามีธนบัตร 25 รูเบิ้ล ตั๋วเครื่องบินไปกลับมอสโก – เลนินกราด ( เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ) 2 ที่ ถ้ามีธนบัตร 50 รูเบิ้ล ทุนการศึกษาประจำเดือนสำหรับนักศึกษาโซเวียต ยุคยังไม่ปรับ ( ที่นักศึกษาโซเวียตได้น้อยกว่านักศึกษาต่างชาติถึง 1 เท่าเพราะคนโซเวียตมีพ่อแม่คอยช่วยเหลือ แต่ในทางหลักการแล้วไม่มีใครช่วยเหลือพวกนักศึกษาต่างชาติ ทางการก็เลยต้องจ่ายให้มากหน่อย ) รถจักรยาน 1 คัน บำนาญ ( ระดับล่าง ) ถ้ามี 100 รูเบิ้ล ตั๋วเครื่องบินไปกลับ มอสโก – ภาคใต้ ( ไปเที่ยวทะเล ) ทุนการศึกษานักศึกษาต่างชาติ 1 เดือน บำนาญ ( ระดับสูง ) แต่เนื่องจากสังคมโซเวียตเป็นสังคมปิด ก็เลยเกิดตลาดมืดสำหรับเงินดอลล่าร์ขึ้น จากที่เงิน 1 ดอล ล่าร์มีค่าไม่ถึง 1 รูเบิ้ล ก็กลับกลายเป็นว่า ในตลาดมืด หลายรูเบิ้ลแลกได้ 1 ดอลล่าร์ ตอนผมไปอยู่ใหม่ๆ เรตติ้งที่ดีที่สุดในตลาดมืด ( ฟังดูอาจจะน่ากลัว แต่จริงๆก็คือการแลกเงินกันในหมู่นักศึกษาต่างชาตินั่นเอง ) คือ 1 ดอลล่าร์ต่อ 4 รูเบิ้ล แต่ 6 ปีให้หลัง ไม่นานก่อนสหภาพโซเวียตล่มสลาย 1 ดอลล่าร์ ปาเข้าไป 25 รูเบิ้ล ในขณะที่ราคาข้าวของก็ยังเป็นแบบเดิมๆ ไม่ได้มีการขึ้นราคาอะไรเลย ก็เท่ากับว่า ข้าวของไอ้ที่มันถูกอยู่แล้ว สำหรับเรา พวกที่ถือดอลล่าร์อยู่ในมือ มันก็ยิ่งถูกลงไปอีก

วันนี้ไปเจอรูปอยู่รูปหนึ่ง ดูข้อความในรูปแล้วก็ชอบ นั่งยิ้มอยู่นานเหมือนกัน

ข้อความในรูปภาพ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง และหากดูจากหนุ่มน้อยในภาพ ก็อนุมานได้ว่า ข้อความช่วงแรก บ่งบอกถึงในยุคที่ยังเป็นสภาพโซเวียต ส่วนข้อความหลัง เป็นช่วงที่กลับมาเป็นรัสเซียแล้ว

แต่ที่ผมชอบก็คือการหักมุมของมันครับ

ข้อความตอนแรกบอกว่าตอนที่หนุ่มน้อยในภาพยังเป็นเด็กๆ แม่ได้เอาเงินให้เขา 2 รูเบิ้ล และสั่งให้เขาไปที่ร้านขายของชำ เพื่อไปซื้อข้าวของมากมายหลายอย่าง

ในยุคโซเวียต ค่าเงินรูเบิ้ลยังแพงอยู่ครับ ก็เลยซื้อของได้มากมาย

เมื่ออ่านข้อความแรก เราจะเห็นได้ว่าค่าเงินรูเบิ้ลในยุคนั้นน่าจะสูงมากจริงๆ และในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ข้าวของในโซเวียตถูกมาก

เพราะที่แม่สั่งให้ซื้อด้วยเงิน 2 รูเบิ้ลนั้น มีทั้งมันฝรั่ง 1 กิโลกรัม ขนมปัง 2 ก้อน นม 2 ขวด ไข่ 10 ฟอง ชา 1 กล่อง แถมยังเนยสดอีก

ผมเคยอยู่ในยุคปลายของโซเวียต คือประมาณ 20 ปีก่อน ตอนนั้นค่าเงินรูเบิ้ลอย่างเป็นทาง การก็ราวๆ 30 กว่าบาท ในยุคก่อนการลอยตัวค่าเงินบาทของบ้านเรา โดยสมัยนั้น 1 ดอลล่าร์เท่ากับ 25 บาท

เงิน 2 รูเบิ้ล ก็เท่ากับ 60 กว่าบาท ด้วยเงินแค่ 60 กว่าบาท แม้จะเป็นเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เมื่อมองดูข้าวของที่แม่สั่งซื้อแล้วก็จะเห็นได้ว่า ข้าวของในโซเวียตค่อนข้างถูกมาก

แต่พออ่านประโยคหลังแล้วก็ขำครับ เพราะลุงคนนี้เหมือนกับจะบอกว่า แต่เงินรูเบิ้ลยุคสมัยนี้ ใช้ซื้ออะไรไม่ได้แล้ว

เพราะในยุคนี้ 1 รูเบิ้ลร่วงลงมาเท่ากับ 1 บาทไทยครับ ในยุคที่บาทไทยลอยตัว ลดค่าไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เท่ากับว่า 2 รูเบิ้ลของลุงคนนี้ ก็เท่ากับ 2 บาทไทยในยุคของเรา

ซึ่ง 2 บาท ก็คงจะเอาไปใช้ซื้ออะไรไม่ได้หรอกครับ อันนี้ไม่นับในประเด็นที่ว่า ข้าวของในรัสเซียยุคนี้ ค่อนข้างจะแพงมาก

แต่ความขำในคำพูดประโยคหลังของลุงไม่ได้อยู่ที่ปัญหาเงินเฟ้อ แต่อยู่ที่กล้องวงจรปิดที่อยู่ตามห้างตามร้านครับ

คือลุงแกบอกว่า เงิน 2 รูเบิ้ลยุคนี้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะที่ไหนที่ไหนก็มีแต่กล้องวงจรปิดทั้งนั้น 555555

คือถ้าไม่มีกล้องวงจรปิด เงิน 2 รูเบิ้ลของลุงในยุคนี้ก็คงจะมีค่ามากมายเช่นเดิม เมื่อลุงแกสามารถฉกข้าวของกลับไปบ้านได้มากมาย

แล้วก็ทำให้เรากลับไปมองถึงในประโยคแรกว่า จริงๆแล้ว ข้าวของในยุคโซเวียตนั้นถูกจริงหรือ ?

หรือเพราะว่าในยุคโซเวียต ลุงแกก็ไปฉกเขามาเช่นกัน

ก็ต้องบอกว่า ที่เอามาเล่านี้ เป็นเรื่องขำขันล้อเลียนเท่านั้น ก็จึงมีการตีไข่ใส่สีลงไปมากบ้างน้อยบ้าง ไม่มีอะไรจริงจัง

แต่ในฐานะที่ผมเคยอยู่ในโซเวียต ก็ยอมรับครับว่าข้าวของในยุคโซเวียตนั้นถูกจริง เมื่อเทียบกับรายได้ของประชาชน แม้ว่าในหลายๆทางแล้ว คุณภาพของมันก็สมกับราคาแหละครับ ( คือห่วย )

ช่วงนี้เราจะมาดูกันว่า สมัยนั้น 20 ปีก่อน ข้าวของราคาถูกกันขนาดไหน โดยอาศัยอัตราแลกเปลี่ยนในยุคปลายโซเวียต คือ 1 รูเบิ้ล แลกได้ประมาณ 30 กว่าบาท ในยุคที่ 1 ดอลล่าร์ยังแลกได้ 25 บาทครับ

รูเบิ้ล มี 100 โกเปค

อ้อ......งานนี้ เราจะเปรียบเทียบโดยอาศัยธนบัตรขนาดราคาต่างๆของโซเวียตครับ

สำหรับรายได้ของคนโซเวียตนั้น ผมเทียบกับของตัวเองก็แล้วกัน เพราะรายได้ของเราก็ไม่ได้ต่างไปจากคนโซเวียตทั่วไปมากนัก ตอนผมเรียนหนังสืออยู่ ทางการจ่ายทุนการศึกษาให้ผมเดือนละ 100 รูเบิ้ลครับ ( ในปีหลังๆ ปรับมาเป็น 120 รูเบิ้ล ) ซึ่งน้อยกว่าคนทำงานแล้วระดับกลางๆนิดหน่อยครับ อย่างพนักงานธนาคาร และนักศึกษาจบใหม่ได้ 120 รูเบิ้ล ครูได้ 130 กว่า โชเฟอร์ขับรถบัสไฟฟ้าได้ 140 อาจารย์ได้ 170 ( สมัยยังไม่ปรับรายได้ ) ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็อาจจะได้สัก 300 กว่ารูเบิ้ล

ถ้าเรามีธนบัตรราคา 1 รูเบิ้ล 1 ใบ ( 30 กว่าบาท ) ที่เราจะซื้อได้ ( อย่างใดอย่างหนึ่ง ) ก็มี

ไม้ขีดไฟ 100 กลัก ( กลักละ 1 โกเปค )
ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถราง รถบัสไฟฟ้าได้ 20 เที่ยว ( เที่ยวละ 5 โกเปคตลอดสายทุกประเภท )
ใช้หยอดตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรศัพท์ได้ 50 ครั้ง ( ต้องไปแลกเหรียญโกเปคมาก่อน )
น้ำหวานรสมะนาว 33 แก้ว ( ไม่อร่อย.....จากตู้กดอัตโนมัติ )
ถ้าเป็นโซดาธรรมดาก็ 100 แก้ว
ไอศครีม 5 ถ้วย
นม 5 ลิตร
ดูหนังรอบกลางวันได้ 3 รอบ ( รอบกลางคืนจะแพงกว่า หนังต่างชาติก็แพงกว่าหนังรัสเซีย )
เบียร์ 2 ขวด ( ขวดละครึ่งลิตร ซดเบียร์เสร็จ เอาขวดเปล่าไปขาย ก็ยังได้เงินกลับมาเกือบจะซื้อเบียร์ได้อีก 1 ขวด )
บุหรี่ 8 ซอง ( บุหรี่แบบรัสเซีย เรียกว่าปาปิรอส ไม่มีก้นกรอง และ 1 ตัวมีความยาวเท่ากับบุหรี่ปกติ ครึ่งตัว รสชาติแรงมาก )
แตงโม 6 กิโลกรัม
ตัดผมท่านชาย หรืออบซาวน่า 5 ครั้ง ( อันนี้เนื่องจากผมไม่เคยเข้าร้านตัดผมในโซเวียต ไม่เคยใช้บริการซาวน่า ก็เลยไม่ขอยืนยันว่าข้อถูกต้องหรือไม่ )
ขนมปังขาว 4 ก้อน(ใหญ่)
ขนมปังดำ 5 ก้อนใหญ่(มาก)
หรืออาหารกลางวันในโรงอาหาร 1 มื้อ ( แต่ต้องเลือกหน่อย ไม่งั้นเกินงบ )

ถ้ามีธนบัตร 3 รูเบิ้ล 1 ใบ ( ประมาณ 100 บาท )

อาหารกลางวันในโรงอาหารโรงงานหรือโรงเรียน 5-6 คน
ค่าทัวร์ชมเมืองสำหรับ 1 ครอบครัว
บุหรี่นอก 1 ซอง
ไก่สดขนาดย่อม 1 ตัว
ค่าปรับสำหรับการขึ้นรถเมล์แล้วไม่ยอมกดตั๋ว
ค่าหอพัก พร้อมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ( ใช้ได้ไม่อั้น ) ค่าเปลี่ยนผู้ปูที่นอนเดือนละ 2 ครั้ง 1 เดือนสำหรับนักศึกษา
ค่าตั๋วเดือนสำหรับรถเมล์ รถราง รถบัสไฟฟ้ารวมกันสำหรับนักศึกษา ( ขึ้นได้ทุกสาย ขึ้นวันละกี่ครั้งก็ได้ แต่ไม่รวมรถไฟใต้ดิน )
ค่าแท็กซี่ ( ระบบต่อรอง ) ในระยะทางไกลพอประมาณ ( เพราะรถไม่ติด เมืองใหญ่ ก็เลยกลายเป็นเมืองไม่ใหญ่ เมื่อต้องนั่งแท็กซี่ )

ถ้ามีธนบัตร 5 รูเบิ้ล 1 ใบ ( ประมาณ 150 บาท )

เนื้อแดง 1 กิโลกรัม ( ไม่ติดกระดูก )
ว๊อดก้า 1 ขวด พร้อมกับแกล้ม ( ยุคก่อนกอร์บาชอฟ ออกมาต่อสู้กับปัญหาการติดเหล้า เลยปรับขึ้นราคาว๊อดก้า )
ทอฟฟี่ระดับดีมาก ( ทำจากช็อคโกแล็ต ) 1 กิโลกรัม

ถ้ามีธนบัตร 10 รูเบิ้ล 1 ใบ ( ประมาณ 300 กว่าบาท )

ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมากมายหลายอย่างราคาไม่เกินนี้
ของเล่นดีๆ ระดับหรู เช่นรถเด็กเล่น ( เด็กลงไปนั่งขับได้ ) หรือโต๊ะบิลเลียด ( สำหรับเด็ก )

ถ้ามีธนบัตร 25 รูเบิ้ล

ตั๋วเครื่องบินไปกลับมอสโก – เลนินกราด ( เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ) 2 ที่

ถ้ามีธนบัตร 50 รูเบิ้ล

ทุนการศึกษาประจำเดือนสำหรับนักศึกษาโซเวียต ยุคยังไม่ปรับ ( ที่นักศึกษาโซเวียตได้น้อยกว่านักศึกษาต่างชาติถึง 1 เท่าเพราะคนโซเวียตมีพ่อแม่คอยช่วยเหลือ แต่ในทางหลักการแล้วไม่มีใครช่วยเหลือพวกนักศึกษาต่างชาติ ทางการก็เลยต้องจ่ายให้มากหน่อย )
รถจักรยาน 1 คัน
บำนาญ ( ระดับล่าง )

ถ้ามี 100 รูเบิ้ล

ตั๋วเครื่องบินไปกลับ มอสโก – ภาคใต้ ( ไปเที่ยวทะเล )
ทุนการศึกษานักศึกษาต่างชาติ 1 เดือน
บำนาญ ( ระดับสูง )

แต่เนื่องจากสังคมโซเวียตเป็นสังคมปิด ก็เลยเกิดตลาดมืดสำหรับเงินดอลล่าร์ขึ้น จากที่เงิน 1 ดอล ล่าร์มีค่าไม่ถึง 1 รูเบิ้ล ก็กลับกลายเป็นว่า ในตลาดมืด หลายรูเบิ้ลแลกได้ 1 ดอลล่าร์

ตอนผมไปอยู่ใหม่ๆ เรตติ้งที่ดีที่สุดในตลาดมืด ( ฟังดูอาจจะน่ากลัว แต่จริงๆก็คือการแลกเงินกันในหมู่นักศึกษาต่างชาตินั่นเอง ) คือ 1 ดอลล่าร์ต่อ 4 รูเบิ้ล

แต่ 6 ปีให้หลัง ไม่นานก่อนสหภาพโซเวียตล่มสลาย 1 ดอลล่าร์ ปาเข้าไป 25 รูเบิ้ล ในขณะที่ราคาข้าวของก็ยังเป็นแบบเดิมๆ ไม่ได้มีการขึ้นราคาอะไรเลย

ก็เท่ากับว่า ข้าวของไอ้ที่มันถูกอยู่แล้ว สำหรับเรา พวกที่ถือดอลล่าร์อยู่ในมือ มันก็ยิ่งถูกลงไปอีก

แสดงความคิดเห็น | ส่งเรื่องนี้ให้เพื่อน | แจ้งเตือนเรื่องไม่เหมาะสม

อ่านความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 5

(0)

รุสสกี้ วันที่ : 14/07/2012 เวลา : 23.54 น.
http://oknation.nationtv.tv/blog/russky
รุ่งอรุณ.....ที่นี่เงียบสงบ

คุณ Hiriotappa ครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูหนังรัสเซีย ก็เลยไม่รู้ว่าจะแนะนำอย่างไร และหนังที่ดี ส่วนมากก็จะเป็นหนังเก่า คิดคงไม่น่าจะเข้ากับความประสงค์จของคุณสักเท่าใด

สำหรับเรื่องของภาพที่เป็นปัยหาในเอนทรี่นี้ ก็บอกแล้วว่าเป็นแค่เรื่องขำๆเท่านั้น ไม่มีอะไรมากหรอกครับ

สมัยก่อน โทษรุนแรงมาก คดีขโมยขโจรอะไรแบบที่ว่านั้นไม่มีหรอกครับ และ 2 รูเบิ้ล แม้ว่าจะซื้่อของได้มาก แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรอย่างที่ในรูปภาพบอก

แค่เรื่องขำๆเท่านั้น

ขอขอบคุณในความใส่ใจครับ

ความคิดเห็นที่ 4

(0)

Hiriotappa วันที่ : 13/07/2012 เวลา : 23.26 น.
http://oknation.nationtv.tv/blog/Hiriotappa

เห็นแล้วฉุกคิดมาได้เหมือนกันครับพอดียังอยู่ด้านข้างของบล็อกที่อัพของตัวเองก็เลยเข้ามาดูเผื่อจะแนะนำหนังอะไรให้ดู มาอ่านดูอีกทีก็สงสัยครับว่าสมัยเขาเป็นเด็กนั้นหากซื่ออะไรได้มากเท่านั้นเด็กจะขนกลับมาไหวเหรอครับ ท่าทางหนักไม่ใช่เล่น เด็กๆไม่น่าจะขนหมดนะครับ

ความคิดเห็นที่ 3

(0)

BlueHill วันที่ : 12/07/2012 เวลา : 21.29 น.
http://oknation.nationtv.tv/blog/charlee
นักดูนก

เงิน 2 รูเบิ้ลยุคนี้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะที่ไหนที่ไหนก็มีแต่กล้องวงจรปิดทั้งนั้น

กำลังคิดอยู่พอดีว่า ประโยคนี้ต้องมีเลศนัยแน่ ๆ
คนรัสเซียเขาไปดูนกกันไหมครับ คงมีบ้างแหละเน๊าะ

ความคิดเห็นที่ 2

(0)

Hiriotappa วันที่ : 12/07/2012 เวลา : 12.28 น.
http://oknation.nationtv.tv/blog/Hiriotappa

แต่ถ้ามีเงินผมคงไม่เอาไปซื้อดอกบัว กับแตงโม แน่นอน55555แนะนำหนังรัสเซียสนุกๆมั่งสิครับ
แต่เรื่องนี้หมายความว่าเขาเสียดสีวงการตำรวจรัสเซียหรือ ผู้ดูแลบ้านเมืองได้เหมือนกันนะครับ เพราะหากแกแก่ขนาดนี้แล้วยังขโมยของได้เป็นว่าเล่น เห็นทีตำรวจท่าจะมีแต่แก่ๆมากมายเช่นกัน

ความคิดเห็นที่ 1

(0)

hayyana วันที่ : 12/07/2012 เวลา : 09.26 น.
http://oknation.nationtv.tv/blog/hayyana
You are what you is !

ร้านเพื่อนแถวภูเก็ตต้องติดกล้องเช่นกันครับ

แสดงความคิดเห็น

ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้ ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ OKNATION กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น 1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ 2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่" OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
		กลับไปหน้าที่แล้ว กลับด้านบน

ท่านชื่นชอบอวัยวะส่วนไหนของร่างกายมากที่สุด
	ขนจมูก
	9 คน
	ข้อศอก
	9 คน
	รูหู
	15 คน
	ซอกเล็บ
	8 คน
	ตาตุ่ม
	7 คน
	ไส้อ่อน
	10 คน
	ม้าม
	4 คน
	ฟันน้ำนม
	63 คน
	ไซนัส
	2 คน
	ต่อมปิตูอิตารี
	26 คน
	โหวต 153 คน

<<	กรกฎาคม 2012					>>
อา	จ	อ	พ	พฤ	ศ	ส
1	2	3	4	5	6	7
8	9	10	11	12	13	14
15	16	17	18	19	20	21
22	23	24	25	26	27	28
29	30	31