เอาเข้าจริงๆ ปัญหาน้ำท่วม ก็ลากยาวจะเกือบเดือนแล้ว เฉพาะน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. นี้ยังไม่รวม น้ำท่วมตั้งแต่ทางภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งถ้านับด้วยก็เกือบสองเดือนเศษ

  ตั้งแต่นำท่วมเข้ามาในพื้นที่ กทม. ชาวกรุงต่างก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ทั้งอาหารการกิน ซึ่งปัญหาหนักเข้าจริง ๆ ก็หนีไม่พ้น การโก่งราคา ค้าขายที่เกินจริง แม้ทาง ก.พาณิชย์ ขู่ว่าจะเล่นงานอย่างเด็ดขาด แต่ที่สุดแล้วก็เป็น แค่การ “เขียนเสือให้วัวกลัว” สุดท้าย วัวมันไม่กลัว เพราะมันรู้เสือไม่กัด

 มาเข้าประเด็นที่ผมอยากหยิบยกมาพูดกันเลยดีกว่า !

ผมอยากกล่าวถึง ปัญหาที่มากับภัยน้ำท่วมของชาวกรุง ในเรื่องที่ทางรัฐบาลยังไม่สามารถจัดการปัญหาน้ำท่วมได้เลย แต่ยังไม่ยอมประกาศให้หยุด ตามมติ ครม.

 ด้วยสภาพการณ์ในตอนนี้ ผมไม่เข้าใจเลย ทางรัฐบาลว่า ใช้สมองส่วนไหนคิด ! น้ำก็เจิ่งซะเต็มพื้นที่ ยังจะให้ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างชั่วคราว ฝ่าด่านน้ำ ลุยน้ำเสีย เพื่อที่จะไปทำงาน ต้องไปทำงานแบบกระเสือกกระสน เพื่อจะไปเข้างานให้ทัน พอไปถึงที่ทำงาน ก็ไม่มีกระจิตกะใจทำงาน เพราะสถานการณ์การรายงานข่าว มันชวนให้ตื่นเต้นว่าน้ำจะขึ้นอีกหรือป่าว และจะลามไปท่วมที่ไหนอีกหรือป่าว ?

 สภาพจิตใจไม่อยู่กับร้องกับรอย ห่วงไอ้โน้น ห่วงไอ้นี้ !

 การทำงาน คงไม่ต้องบอก คุณภาพหาได้ยากในช่วงนี้

ไม่เข้าใจรัฐบาล จะปล่อย ขรก. และตลอดจนเจ้าหน้าที่ ลุยกับภัยธรรมชาติ ไปทำงานแค่ให้ทันเวลา ทำไมเหรอ !

 เห็นทาง ครม. ประกาศหยุด น้ำท่วมไปแค่ช่วงแรก เพียงช่วงเดียว คือช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งทางรัฐบาล คงคิดว่าจะเอายังไงกับชีวิตดี จึงประกาศหยุดไปพลางก่อน  

 พอวันประกาศหยุดหมดสิ้นลง พร้อมกับสภาพงงๆ ของรัฐบาลว่า จะประกาศหยุดอีกมั้ย แล้วจะเอายังไงต่อดีน่า ?

 ผมยังงงๆ กับรัฐบาล เหมือนกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมารูปแบบไหน

 พอถึงเวลา ครม. ชี้แจงแข็งขัน ว่า ครม. จะไม่ประกาศหยุดแล้ว

เอาละหว่า ! พวกคนทำงานตายพอดี อย่างที่บอกน้ำมันก็สูง จะไปทำงานยังไงหว่า !

สรุปยังไงก็ต้องไป งั้นลุยไปแบบทุลักทุเล เลยละกัน ! จะได้สมใจรัฐบาล ขรก. ต้องไปทำงานรับใช้ ปชช.

 พูดตรง ๆ นะครับ ! สมเพช เป็นบ้า

ผมเห็นคนทำงานแถวบ้านผม แต่งตัวไปทำงานแต่เช้าตรู่ ขึ้นรถทหาร ต่อสองแถว ต่อมอไซค์ไปทำงาน กว่าจะถึงที่ทำงาน ก็หมดแรงทำงานแล้ว สภาพจิตใจก็อิดโรย

ลองไปฟังความรู้สึกของ หนึ่งในผู้ที่ยังต้องไปทำงาน ได้กล่าวด้วยความมีอารมณ์ว่า “น้ำไม่ท่วม แต่ มาทำงานลำบาก จากเคยเดินทาง ไป ถึงที่ทำงาน ไม่เกิน 1 ชม. เดี๋ยวนี้ 4 ชม. รถโดยสารน้อยเนื่องจากเติมแก๊ส ไม่ได้ หยุดวิ่งไปหลายคัน รถตู้ก็น้อยเต็มทน ลำบาก ครับ น้ำไม่ท่วมก็เหมือนท่วม ไหนจะต้องคอยฟังข่าวที่บ้าน ด้วย ห่วงบ้านเป็นนะครับ บ้านอยู่ ตจว. ตอนนี้ไม่ท่วม แต่ถ้าท่วมกลับไปจะทันไหม จะเข้าบ้านได้ไหม พ่อ กับแม่ อยู่บ้าน แต่ผมต้องมาทำงานพักอยุ่ กทม งานก็ต้องทำ ห่วงบ้าน ตจว ก็ห่วง คนเราเลือกงานไม่ได้นะ แล้วถ้าเกิดมันท่วมเยอะทั้งกทม. จริงๆ แล้วที่นี้ มาประกาศหยุด กรู จะกลับบ้าน ตจว ได้ไหม ไม่มีหัวคิด นายกไม่มีประสบการณ์ เอ้ย คิดถึงใจคนอื่นบ้าง เอ้ย”

 เห็นสภาพแล้ว บอกได้อยากเดียว คงต้องเป็นไปตามยถากรรมแล้ว ละไอ้ทิด !

ความจริงแล้ว ทางรัฐบาลทำไม ไม่แสดงการวางแผนอะไรที่เป็นรูปธรรม มากกว่าการที่แก้ปัญหาแบบวันต่อวัน

เพราะเหตุใด ทางรัฐบาลไม่ประกาศวัยหยุดแบบระยะยาวไปเลย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีเวลาอย่างเต็มที่ในการจัดการปัญหาน้ำท่วม

 รัฐบาลควรที่จะสร้างแผน กำหนดยุทธศาสตร์ ที่เป็นขั้นเป็นตอน ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ไม่ใช่พอถึงเวลา ไม่ประกาศวันหยุด ก็มาอ้าง บอกว่ากลัวจะไม่มี ขรก. มาทำงานรับใช้ ปชช.

 เอาเข้าจริง ผมไปเดินสำรวจพื้นที่ ก็ไม่เห็น ขรก. เลย

เห็นมีแต่ทหารที่ช่วย …

ไอ้พวกที่ต้องทำงาน ก็ลากเท้าลงน้ำท่วมไปเถอะ !

 พูดยังไม่ขาดคำ ข่าวออกมาอีกแล้ว ช่วงเที่ยง 8 พ.ย. “ครม.เบรกวันหยุดเพิ่ม 9-11 พ.ย. ชี้จะไม่มีคนทำงาน”

  ไม่รู้ยังไงดีกับรัฐบาล ไอ้ที่อยากพูดก็พูดไปซะหมดแล้ว ที่จะด่าก็ด่าไปหมดแล้ว !

 ยังไงก็ลุยน้ำท่วมไปทำงานต่อไปนะครับ ผู้ที่ยังต้องไปทำงาน ยังไงพวกคุณก็โดนรัฐบาลลอยแพแล้ว ลุยต่อไปตามยถากรรม !