ในหนังสือเรื่อง The English Patient ในตอนเริ่มต้นคนไข้ปริศนาที่ถูกไฟลวกทั้งตัวก็ได้กล่าวถึงทะเลทรายว่า In the desert it is easy to lose a sense of demarcation... ในทะเลทรายมันง่ายที่คุณจะสูญเสียประสาทรับรู้การแบ่งเขต ดิฉันเคยอ่านมาว่าเมื่อเรายืนอยู่กลางผืนทรายว่างเปล่าสุดลูกหูลูกตา บางครั้งก็คงดูไม่ออกว่าแผ่นดินสิ้นสุดตรงไหนและขอบฟ้าเริ่มโผล่ขึ้นตรงไหน ในหนังสือนำเที่ยวเล่มหนึ่งผู้เขียนบรรยายไว้ว่า ในเวลากลางคืนลมทะเลทรายก็จะหอบเม็ดทรายเล็กๆขึ้นมาก่อตัวเป็นสันทรายใหญ่จนดูเหมือนไม่รู้ว่าเรากำลังอยู่บนโลกหรืออยู่บนดวงจันทร์กันแน่... ชีวิตนี้ไม่เคยได้ไปเหยียบทะเลทรายซักครั้ง แต่ก็หลงเสน่ห์เข้าเต็มเปาแล้วค่ะ ตัวการสำคัญที่ทำให้ดิฉันต้องมนเสน่ห์อันลึกลับของทะเลทรายก็คือภาพยนตร์ยิ่งใหญ่สองเรื่องนี้ The Sheltering Sky (1990) กำกับโดยยอดฝีมือ Berrnado Bertolucci และนำแสดงโดย John Mulkovilch และ Debra Winger ดัดแปลงจากหนังสือชื่อเดียวกันของ Paul Bowles
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย หนังสือเรื่องนี้ได้รับเลือกจากไทม์แมกกาซีนให้เป็นหนึ่งในหนังสือภาษาอังกฤษร้อยเล่มที่ดีที่สุดจากปี 1923 to 2005 ดิฉันเคยไปด่อมๆมองๆอยู่ในร้านหนังสือเหมือนกันค่ะ เพราะตอนนี้มีฉบับพิมพ์ใหม่ของ Penguin Classic แต่พอได้อ่านเรื่องราวจากปกหลังก็รู้สึกว่าหดหู่เหลือเกิน เลยไม่กล้าซื้อมา ตอนดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์ก็เสียวๆอยู่ว่าจะเป็นยังไงแต่ก็ไม่ได้เศร้าโศกหดหู่มากอย่างที่คิดค่ะ เป็นหนังของBertolucciเรื่องหนึ่งที่ชอบมาก (ชอบเกือบทุกเรื่องแต่ไม่ค่อยชอบ stealing beauty นะคะ ไม่ทราบทำไม...แฟนคลับลุงBertolucciอย่าว่ากันนะคะ) ไปค้นข้อมูลจากเว็บวิจารณ์หนังก็พูดในทำนองเดียวกันว่าทำออกมาซอฟท์กว่าฉบับหนังสือมาก เรื่องราวในหนังเป็นการเดินทางของคู่สามีภรรยา Port และ Kit Moresby ที่ชีวิตสมรสกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติทั้งคู่เลยตัดสินใจออกเดินทางไปยังทะเลทรายซาฮาร่าไปตามหาความรักเก่าที่นับวันจะเลือนหายไปทุกที...มีคำพูดหนึ่งจากเรื่องที่ดิฉันชอบมากคือพระเอกนางเอกตัดสินใจจะเป็น นักเดินทาง ไม่ใช่ นักท่องเที่ยว (Traveler not Tourist) เสียดแทงค่ะ เพราะตัวเองเป็นทัวร์ริสต์เต็มขั้น ซักวันอยากจะเป็นทราเวลเลอร์บ้าง แต่การเป็นนักเดินทางก็ไม่ได้สวยหรูโรแมนติกอย่างที่ทั้งคู่คิดไว้เมื่อพอร์ทและคิทต้องเผชิญกับชาวพื้นเมืองและวัฒนธรรมทะเลทรายที่ไม่คุ้นเคย จนสุดท้ายคนหนึ่งก็ต้องสูญเสียคนรักไปในทะเลทรายที่สวยงามนั้นเอง หนังแนะนำค่ะ แต่น้องๆหนูๆรอให้โตก่อนแล้วค่อยมายืมป้าชิบูกินะคะเพราะหนังลุงBertolucciแกแรงจริงๆ ดิฉันยังไม่หายช็อคจากเดอะดรีมเมอร์...
อีกเรื่องหนึ่งที่ขอยอมรับว่าลำเอียงและเทใจให้มากกว่า(ขอโทษค่ะลุงBertolucci) คือเรื่อง The English Patient รักทั้งฉบับหนังสือและฉบับภาพยนตร์ The English Patient (1996) กำกับโดย Anthony Minghella นำแสดงโดย Ralph Fiennes, Juliet Binoche, Kristin Scott, Thomas Willem Dafoe, Colin Firth โอย...ดาราเยอะ พิมพ์จนเมื่อยมือ ดัดแปลงจากหนังสือของนักเขียนชาวศรีลังกา-แคเนเดียน Michael Ondaatje ซึ่งได้รางวัล Booker Prize เรื่องนี้คงไม่ต้องเกริ่นมากนะคะ เชื่อว่าเป็นหนึ่งในหนังในดวงใจของดิฉันและอีกหลายๆคน (ใครว่าชิบูกิดูหนังโรแมนติกไม่เป็น ชิๆ แพ้พนันเลย)
ชายหนุ่มปริศนาซึ่งทุกคนเรียกว่า คนไข้ชาวอังกฤษ เข้ามาอยู่ใต้การดูแลของพยาบาลสาวคนหนึ่งในอิตาลีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมีแผลไฟไหม้สาหัสทั้งร่าง ในไม่ช้าพยาบาลสาวคนนั้นก็ได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของชายปริศนาผ่านสมุดบันทึกและผ่านการเล่าของเขาเอง ... และในตอนท้ายก็ทราบว่าชายปริศนาก็ได้สูญเสียคนรักไปในทะเลทรายเช่นเดียวกัน ในทะเลทรายมันง่ายที่คุณจะสูญเสียประสาทรับรู้การแบ่งเขต เมื่อได้ดูภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องก็ดูเหมือนว่านอกจากการแบ่งเขตทางภูมิศาสตร์ที่เลือนลางไปในความกว้างใหญ่ของผืนทรายแล้ว การแบ่งเขตทางศีลธรรมตามมาตรฐานที่มนุษย์(ฝรั่ง)กำหนดขึ้นก็ได้หลุดลอยไปกับพายุทะเลทรายด้วย หนังสือเรื่อง English Patient เป็นเรื่องที่ใช้ภาษาได้งดงามมากค่ะ เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบเรื่องไหม (silk) ของ Alessandro Barrico ก็คงชอบเรื่องนี้เช่นกัน ก่อนออกจากทะเลทรายขอส่งท้าย ถ้าไม่มีหนังแอ็คชั่นเดี๋ยวจะไม่เชื่อว่าชิบูกิเขียนจริง Khartoum (1966) Charlton Heston ปะทะ Laurence Olivier เรื่องสงครามระหว่างอังกฤษ(ขอเขียนรวมๆว่าฝรั่งนะคะ ไม่อยากให้เป็นเรื่องศาสนา และในเรื่องความขัดแย้งก็มาจากผลประโยชน์มากกว่า)กับชาวมุสลิมในซูดานยุคปี 1883 ฟังพล็อตเรื่องในสถานการณ์ตอนนี้อาจจะเบื่อกันแล้ว แต่ถ้าวัดด้วยมาตรฐานหนังแอ็คชั่นก็จัดได้ว่าสนุกมากเลยค่ะ ที่ดิฉันประทับใจที่สุดคือเป็นหนังที่มีฉากความรุนแรงมากมาย แต่ผู้กำกับสามารถแสดงความรุนแรงออกมาได้อย่างไม่น่าเกลียด ไม่ต้องเห็นเลือดพุ่งกระฉูดแต่คนดูก็อยากจะเอามือปิดตาแล้ว ใครมีหนังที่ทำให้หลงเสน่ห์ทะเลทรายอีกช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่า ข้อมูลจิ๊กมาจากวิกิพีเดียและอะเมซอนด็อทคอมค่ะ เพลง snow on the sahara (Anggun) โอมเพี้ยง ขอให้โหลดได้ด้วยเทิ้ดด
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กุมภาพันธ์ 2008 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |