ได้อ่านข่าวผลการสำรวจของ SDSN เครือข่ายในสังกัดสหประชาชาติที่จัดลำดับ 'ประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก' ถ้าให้เดาเล่น ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นภูฏาน เพราะทราบมาว่าภูฏานนั้นให้ความสำคัญกับความสุขโดยใช้ความสุขเป็นเป้าหมายเพื่อสร้างนโยบายในการบริหารประเทศ แถมนายกภูฏานยังเป็นผู้ผลักดันให้สหประชาชาติกำหนดวันความสุขของโลกขึ้นมาอีกด้วย ภาพ: World Happiness Day เริ่มมีขึ้นครั้งแรกในปี 2012 (www.carelpress.com) ถามลูกสาวเล่นๆ เธอเดาว่าสหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุด เด็กวัยรุ่นคิดว่าสหรัฐมีกูเกิ้ลเฟสบุ๊คแอ้ปเปิ้ลคือมีเศรษฐีและคนฉลาดเยอะ น่าจะแฮ้ปปี้ว่างั้นเถอะ แต่ด็กน้อยหารู้ไม่ว่าความสุขนั้นไม่ใช่วัดกันแค่เงินในกระเป๋าเท่านั้น พอมาอ่านคำตอบกลับผิดคาดไปทั้งแม่ลูก เพราะในบทความระบุว่า The happiest country in the world ในปี 2016 นั้นคือเดนมาร์ก ตามด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และฟินแลนด์
ภาพจาก www.madworldnews.com
จัดลำดับประเทศกันด้วยความสุข ว่าไปแล้ว ประเทศไทยก็น่าจะติดอันดับต้นๆกับเขาบ้างนะ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองยิ้ม คนยิ้มมันก็ต้องเป็นคนที่มีความสุขใช่ไหม ภาพ: land of smile www.chiptaylor.com ใช้นิ้วจิ้มสำรวจตารางที่มีทั้งหมด 157 ประเทศจากอันดับหนึ่งลงมาเรื่อยๆผ่านอเมริกาอันดับที่ 13 สิงคโปร์ 22 อังกฤษ 23 แล้วก็มาถึงไทยอยู่ในอันดับที่ 33 ปรากฎว่ายูเอ็นวัดค่าความสุขของคนไทยมากกว่าคนจีน ญี่ปุ่นเกาหลีเสียอีกแม้แต่ภูฏานต้นคิดของ Gross National Happiness ความสุขที่เป็นนโยบายหลักของประเทศก็ยังถูกลงไว้ในลำดับที่ 88 ภาพจาก www.Dailymal.co.uk
การจัดลำดับประเทศใน หมวดความสุข เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่ เพราะผลสำรวจครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สี่เท่านั้น ตามปกติโลกเราจะวัดกันว่าใครรวยกว่าหาเงินได้มากกว่า เศรษฐกิจของใครโตเร็วกว่าแต่นั้นก็มีข้อแย้งกันว่าการวัดค่าเศรษฐกิจด้วย GDP และ GNP มันไม่ได้ช่วยพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ถูกโดยเฉพาะต่อคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ เศรษฐกิจส่งออกดีขึ้นการลงทุนมากขึ้นแต่คนก็ยังจนเหมือนเดิมคุณภาพชีวิตไม่มีแล้วมันจะไปมีความสุขได้อย่างไร ข้อมูลวัดความสุขนี่ซิเชื่อกันว่าอาจเป็นตัวช่วย ให้รัฐบาลคิดค้นนโยบายเพื่อตอบสนองการอยู่ดีกินดีของประชาชนได้ แต่ความสุขนั้นวัดกันได้แบบระดับประเทศด้วยหรือแล้วผู้สำรวจใช้อะไรเป็นกฎเกณฑ์ในการวัด บริษัทวิจัยของอเมริกา Gallup ได้ทำการสำรวจสุ่มสัมภาษณ์บุคคลตั้งแต่อายุ15 ขึ้นไปมากกว่า 160 ประเทศ คนเหล่านี้จะถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับการเรียนการทำงาน ความพอใจในผลการทำงาน รวมทั้งความพอใจในชีวิตและความเป็นอยู่ หนึ่งในตัวอย่างของคำถามที่ Gallup ใช้ก็คือ 'โปรดนึกภาพของบันไดที่มีขั้นบันไดสิบขั้นขั้นบันไดที่อยู่ใกล้พื้นคือเลขศูนย์และขั้นบันไดที่อยู่สูงสุดคือเลขสิบขั้นบันไดสูงสุดคือชีวิตที่ดีเท่าที่คุณจะคิดว่าเป็นไปได้ส่วนขั้นตำ่สุดคือชีวิตที่เลวร้ายที่สุดที่คุณจะนึกได้ ถามว่าชีวิตคุณ ณ ขณะนี้อยู่ขั้นไหนของบันได' คำตอบของข้อนี้จะเป็นพื้นฐานของการประเมินคุณค่าของชีวิต ในสิบประเทศแรกที่มีความสุขที่สุดในโลก จะมีค่าเฉลี่ยของคำถามข้อนี้ที่ 7.4 ส่วนสิบประเทศปลายแถวจะน้อยกว่าครึ่งคือ 3.4
เมื่อได้ผลสำรวจของ Galllup มาแล้วมันจะถูกนำมารวมกับผลข้อมูลที่เหล่านักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์นานาชาติรวบรวมมาเช่นข้อมูลทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและสุขภาพ เช่น การมีรายได้ต่อคน อายุยืนโดยเฉลี่ยของประชากร ระดับคอรัปชั่นของประเทศความเสมอภาคและอิสรภาพในสังคม ภาพจาก www.imgism.com จะเห็นได้ว่าสิ่งหนึ่งที่การสำรวจวัดค่าความสุขนั้นให้ความใส่ใจก็คือโครงสร้างและระบบสังคม คนที่อายุยืนสุขภาพดีมักมาจากสังคมที่มีองค์กรรองรับและแนะนำช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่เล็กจนถึงแก่เฒ่า จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกเลยที่คนทางยุโรปเหนืออย่างประเทศในแถบสแกนดิเนเวียและยุโรปกลางอย่างสวิสเซอร์แลนด์ออสเตรีย นั้นจะเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกเพราะประเทศเหล่านี้ขึ้นชื่อว่ามีสวัสดิการสังคมให้กับพลเมืองเขาดีมาก
การจ่ายเงินค่าภาษีสูงที่สุดในโลกแต่สวัสดิการที่ได้กลับคืนมาจากรัฐนั้น มันคุ้มเหลือหลาย ความกังวลในอนาคตที่กลัวจะไม่มีกินไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลหรือส่งลูกเรียนหนังสือนั้นไม่มีเลย แม้ว่าคุณเป็นคนกวาดถนน ล้างจาน ถังแตก ไม่มีลูกหลานก็ไม่ต้องกังวลว่าถ้าแก่แล้วใครจะมาเลี้ยงดู รัฐบาลรับภาระดูแลเรื่องเหล่านี้ให้แก่พลเมืองเต็มที่ เพื่อที่พวกเขาจะได้มีความก้าวหน้าในการทำงานและดูแลครอบครัวเต็มที่ ความสุขเบื้องต้นเหล่านี้ถ้าได้ถูกเติมเต็มและรับประกันให้หมดแล้ว ความสุขมันจะหนีไปไหน
เมืองไทยเราอยู่ในอันดับที่ 33 ย้อนหลังกลับไปดูรายงานปีก่อนๆก็ไม่หนีห่างกันเท่าไหร่จาก36 ลงมา 34 ผลลัพท์ดูเหมือนว่าเราจะมีความสุขมากกว่าปีที่ผ่านๆมา พยายามคิดหาเหตุผลและปัจจัยว่าทำไม หรือเพราะคอรัปชั่นน้อยลง สังคมเปลี่ยนโครงสร้างที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากขึ้น รายได้ต่อหัวสูงขึ้น หรือว่าสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคเริ่มดีขึ้น
ความสุขระดับชาติ มันก็คงต้องเริ่มที่ระดับบุคคลตัวเล็กๆอย่างเราก่อน ก็ยังถามตัวเองเสมอๆ ว่าอะไรที่ทำให้มีความสุข แล้วจะทำให้ชีวิตมีความสุขได้อย่างไร คิดไปคิดมา คิดมากเกินไป บางทีก็ตอบไม่ได้ ถ้าให้ตอบง่ายๆ อย่างหนึ่งที่ทำแล้วมีความสุขก็คือ ทำอะไรก็ได้เพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข ก็พอค่ะ
แหล่งข้อมูล http://www.theguardian.com/world/2015/apr/23/swiss-reign-supreme-in-world-happiness-ranks https://www.gfmag.com/global-data/non-economic-data/happiest-countries http://www.thaigoodview.com/node/154284?page=0%2C0 http://www.gallup.com/178667/gallup-world-poll-work.aspx http://www.sciencealert.com/the-world-happiness-index-2016-just-ranked-the-happiest-countries-on-earth http://europe.newsweek.com/what-are-worlds-happiest-countries-437559 http://edition.cnn.com/2016/03/16/travel/worlds-happiest-countries-united-nations/ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | เมษายน 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |