อัศจรรย์....ม่อนเสาหินพิศวง

            หนาวนี้ไปแอ่วที่ไหนกันดีละ  หนาวก็ต้องมาแอ่วเหนือ  ทุกสายตาจะเหล่ไปที่เชียงใหม่กันหมด  สำหรับผู้เขียนแล้ว  ชอบไปสถานที่ยังคงธรรมชาติเดิม  ๆ  ไว้ได้มากที่สุด  เกริ่นไว้อย่างงี้แล้วเรามาแอ่วสไตล์เดียวกันดีไหม  ?

            ม่อนเสาหินพิศวง  แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่เพิ่งถูกค้นพบเมื่อปี  2552  สถานที่ตั้งบ้านนาพูน  อ.วังชิ้น  จ.แพร่  ห่างจาก สถานีตำรวจภูธรนาพูน  8  กิโลเมตร 

            “ในบริเวณนี้เมื่อประมาณ  5-6  ล้านปีมาแล้ว  เกิดการปะทุของภูเขาไฟ  พาเอาหินหนืดจากใต้เปลือกโลกไหลปะทุขึ้นมาเป็นลาวา (lava)  ของหินบะซอลต์  ปกคลุมพื้นผิวบริเวณนี้แล้วเกิดการเย็นตัวลงทำให้เกิดรอยแตกรอยแยกที่ตั้งฉากกับพื้นผิว (tension  joints)  จึงได้ลักษณะหินแตกเป็นได้หลาย  ๆ  เหลี่ยมคล้ายเสา (columnar)  ตั้งตรงหรือล้มระเนระนาดบ้างอยู่ในบริเวณนี้นั่นเอง

            ม่อนหินกองนี้จึงเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยา  ไม่ได้เป็นสิ่งอัศจรรย์  มีอิทธิฤทธิ์  หรือปาฏิหาริย์  สิ่งที่เกิดมาเป็นธรรมชาติ  เป็นสมบัติจากธรรมชาติที่ให้อนุชนได้เรียนรู้  จึงไม่สมควรที่จะมารุกล้ำ  หักโค่น  ให้เป็นสมบัติส่วนตัว  หรือนำไปกราบไหว้บูชาแต่อย่างใด”  ข้อความจากป้ายติดข้างทางขึ้นไปม่อนเสาหินพิศวง

            การเดินทางหากออกจากกรุงเทพฯ ถึงนครสวรรค์ให้เลี้ยวขวาเข้าพิษณุโลก  ถึงพิษณุโลกแล้วให้ใช้เส้นทางสายพิษณุโลก-สุโขทัย  ถึงแยกบ้านสวนสุโขทัยมีป้ายแสดงให้เลี้ยวขวาไปอำเภอศรีสำโรง  เมื่อมาถึงสามแยกไฟแดงอำเภอศรีสำโรง(หน้าการประปา)  ให้เลี้ยวขวาไปอำเภอศรีสัชนาลัย  ผ่านตลาดท่าชัย  ไปสักเล็กน้อย  มุ่งสู่เข้าตลาดอำเภอศรีสัชนาลัย  ให้ขับรถตรงไปอำเภอเด่นชัย  ถึงบ้านแม่สำให้ชะลอความเร็วรถ  เมื่อถึงบนเนินสังเกตมีป้อมยามตำรวจทางหลวงอยู่ขวามือให้เลี้ยวซ้ายไปบ้านนาปลากั้ง (ถึงบนเนินนี้ห้ามขับรถตรงไปโดยเด็ดขาดมิฉะนั้นจะหลงเส้นทางไปอำเภอเด่นชัย  จังหวัดแพร่)

            เลี้ยวซ้ายขับรถมาเรื่อย  ๆ  พอประมาณจะพบป้ายบอกเส้นทางให้เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านนาปลากั้ง  เลยไปอีกประมาณ  3  กิโลเมตรเข้าเขตบ้านนาพูน  ให้เลี้ยวขวาในหมู่บ้านนาพูน  ผ่านสถานีตำรวจภูธรนาพูน  อำเภอวังชิ้น  จังหวัดแพร่  ไปประมาณ  8  กิโลเมตร  ก็ถึง  “ม่อนเขาหินพิศวง”  แล้วครับ

            หากกลัวหลงให้โฟกัสไปที่ “สถานีตำรวจภูธรนาพูน  อำเภอวังชิ้น  จังหวัดแพร่”  เป็นหลัก  ขออนุญาตแนะนำรถยนต์ต้องสภาพพร้อมลุย  ไม่โหลดเตี้ย  สภาพถนนมีทุกรูปแบบอาทิ  ถนนลาดยาง  ถนนคอนกรีตเสริมไม่ไผ่(อบต.สร้าง)  ถนนหินลูกรัง  ถนนลาดชันขึ้น/ลง

            เมื่อขับรถไปถึงบนม่อนจะตลึงทิวทัศน์โดยรอบดุจดังสมัยจูราสิคพาร์ค  แท่งหินใหญ่น้อยตั้งเรียงรายด้วยรูปทรงต่าง  ๆ  เสมือนว่ามีมนุษย์เป็นผู้ประดิษฐบรรจงสร้างไว้  มีทางเดินให้เดินขึ้นชมจำนวนทั้งหมด  8  ม่อน (ม่อน  ภาษาเหนือแปลว่า  เนินเขา) แต่ละม่อนเดินชมพอเหงื่อซึมไม่โหดสูงเกินไปจนเข็ดเขี้ยว  บนม่อนสูงสุดนี้เป็นจุดชมวิวเห็นทิวทัศน์เทือกเขาป่าไม้ดูงามตระการตา  นับได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สรรค์สร้างไว้ได้อย่างอัศจรรย์ใจ

       จบทริปนี้แล้วเดินทางต่อไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตร ผ่านอำเภอวังชิ้นเชิญแวะเที่ยวชมน้ำตกแม่เกิ๋ง และบ่อน้ำพุร้อนแม่จอก ที่ตั้งเรียงรายกันไปบริเวณอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ที่นี่มีที่พักแนวโฮมสเตย์ และแบบรีสอร์ทไว้คอยบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ดาษดื่น

จะสิ้นปีเก่าย่างก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 54 แล้ว  มาแอ่ว “ม่อนหินพิศวง” สักนิด  ชีวิตท่านจะมีแต่กำไรไม่ขาดทุนครับผม

ภูมิปัญญาชาวบ้านนำผ้าเหลืองบวชต้นไม้ (ไม่มีใครกล้าตัดทำลาย)

ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ใสบริสุทธิ์ยังไม่ถูกทำลาย

เหมาะสำหรับ กางเต๊นท์  พักแรมค้างคืน 

หินตั้งเรียงรายประดุจมีผู้นำมากองไว้

ต้องไปดูด้วยตาแล้วจะรู้ว่าวิเศษจริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++