ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ พยายามรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ แต่คนสูบบุหรีก็เพิ่มปริมาณขึ้นทุกวัน

มีการจัดที่ขายบุหรี่สวย ๆ พร้อมกับมีสาวสวยเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการเชิญชวนให้คนซื้อสูบบุหรี่สูบ

คนโฆษณาก็สวย ที่ใส่บุหรี่ขายก็สวยงามแปลกตา น่าทดลองซื้อมาสูบยิ่งนัก

แต่ข้างซองประกาศเตือนพร้อมรูปภาพคนเจ็บป่วยจากพิษบุหรี่

เป็นรูปที่น่าหวั่นไหวหวาดกลัว แต่แทนที่จะกลัวกลับซื้อบุหรี่สูบกันมากขึ้น 

รัฐบาลเป็นเจ้าของโรงงานยาสูบเอง แล้วมาชวนคนเลิกสูบบุหรี่ ก็คงยากอยู่ 

เหตุที่เลิกผลิตไม่ได้ส่วนสำคัญก็คือเงินผลประโยชน์จากภาษีที่ได้จากการขายบุหรี่

ทั้งที่ผลิตในประเทศไทย และนำเข้าจากต่างประเทศ  ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕

มีการเปลี่ยนแปลงการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายบุหรี่ จากเดิมที่โรงงานผลิตเป็นผู้รับภาระ

เสียภาษี  เปลี่ยนเป็นผู้ขายที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (มีรายได้เกินปีละ

๑๘๐,๐๐๐.-บาท ต่อปี) ต้องเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อบุหรี่ ....เหตุนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้

ที่ได้เห็นพัฒนาการในการประชาสัมพันธ์ให้คนสูบบุหรี่อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

แต่ถ้าไม่เก็บภาษีก็คงลักลอบซื้อขายกันเหมือนยาบ้า .....เพราะติดบุหรี่แล้วเลิกยาก

ที่สำคัญคือ...ไม่อยากเลิกสูบ   ดูให้ดีภาษีที่ได้น่าจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายทางด้าน

สาธารณสุขที่ต้องสูญเสียงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผลเสียจากสุขภาพ

ทำให้มีผลต่อการทำงานหารายได้ เสียหายทั้งตนเอง ครอบครัว และเศรษกิจของ

ประเทศชาติ

(ชั้นขายบุหรี่ในงาน....สวยมากเลยในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยผู้คน)

ในงานที่มีคนหลายพันคนอยู่ร่วมกัน เป็นช่วงเวลาที่ทรมานสำหรับคนไม่สูบบุหรี่เมื่อคนข้าง ๆ

จุดบุหรี่สูบ ควันบุหรี่โชยเข้าจมูกเราตลอด และเราก็มีเด็กเล็กอยู่ด้วย คนสูบบุหรี่ก็เห็น 

แต่ยังจุดกันควันโขมง ขยับที่ก็ไม่ได้เพราะคนแน่นไปหมด ก็เลยต้องทนไปเพราะรายการดีดี

ที่่พลาดไม่ได้ และเราพลาดตั้งแต่แรกที่ไม่ได้เลือกโซนเขตปลอดบุหรี (ซึ่งปีนี้ไม่เห็นป้ายนี้)

การเลิกบุหรี่ไม่ว่าจะมีวิธีการที่ดีอย่างไร แต่ถ้า "ใจ" ไม่สามารถตัดขาดได้ก็ยังคงวนเวียน

อยู่กับบุหรี่นี้ไม่รู้จบ เพราะคนที่บ้านคนหนึ่งได้พยายามให้เลิกแล้ว แต่ "ใจ" ...ยังเหมือนเดิม

คนพยายามก็เหนื่อยเปล่า   ...บุหรี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว

ต้องห่างเหินกันเป็นบางครั้ง....เพราะกลิ่นของบุหรี่ ..ความห่วงใยที่เขาไม่ยอมรับรู้

น่าจะนับเป็นปัญหาสังคมได้ปัญหาหนึ่ง

บุหรี่เป็นยาเสพติดหรือไม่...ข้อนี้ไม่รู้ แต่มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ยืนยันว่าเป็นยาเสพติด

ทัั้งยังมีผลเสียอย่างร้ายแรงต่อผู้สูบ และคนรอบข้าง ประโยชน์ยังไม่เคยเห็นว่าสูบแล้ว

มีผลดีต่อสูขภาพอย่างไร?????

ดังนั้น พี่น้องผองเพื่อนทั้งหลาย

เรามาปลูกกัญชาไว้ที่บ้านสักคนละต้นเอาไว้ใส่แกงใส่อาหารกันดีไหม???

กัญชาก็เป็นยาเสพติดที่มีควันเหมือนบุหรี่เหมือนกัน มีโทษคือสูบแล้วติด

มีผลเสียต่อสุขภาพเหมือนกัน  แต่เห็นประโยชน์ต่อร่างการมนุษย์มากกว่า

สามารถนำมาทำเป็นยา แก้ประสาทพิการ และเจริญอาหาร (กินแล้วอารมณ์ดี

มองโลกในแง่่ดีอีกต่างหาก)

แต่ถ้านำมาสูบ นำมาดูด จะเป็นอันตรายเพราะกัญชา มีฤทธิ์แรงในทางเมา

ทำให้ประสาทหลอน รับประทานมากทำให้เสียจริต เป็นบ้า

(ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเภสัชกรรม 

โดยกองประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสุข)

มาดูรูปกัญชา รวมทั้งข่าวการปลูกกัญชาแล้วโดนจับ.....

เมื่อก่อนที่บ้านระยองปลูกไว้ใส่อาหาร กินแล้วอาหารอร่อย

ปรากฎว่าคนปลูกไม่โดนจับ แต่แม่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านโดนจับ

ต้องรีบไปประกันตัวแทบไม่ทัน...ต้นกัญชาก็ถูกตำรวจฟันทิ้ง

สายสืบ สภ.ละแม โชว์ผลงานจับกัญชาร่วม 28 กิโลกรัม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ส.ค. 2555 ภายใต้การนำของ ด.ต.วงษ์จักร์ ฤทธิ์โรจน์

หัวหน้าชุดสืบสวน สภ.ละแม พร้อมด้วย ด.ต.สุภาพ คุ้มบุญ ชุดสืบสวน สภ.ละแม

ได้สืบทราบว่า บริเวณริมแม่น้ำละแม ในหมู่ที่ 3 ได้มีการแอบลักลอบปลูกกัญชา

จึงได้นำกำลังเข้าเข้าไปตรวจสอบ พบว่า ที่สวนมะพร้าวบริเวณริมแม่น้ำละแม

ตรงบ้านหาดสูง หมู่ที่ 3 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร ได้มีการแอบปลูกกัญชาไว้จริง

และแอบปลูกไว้ตามแนวริมแม่น้ำละแม โดยปลูกให้ห่างกันเป็นแนวยาวจำนวนหลายต้น

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้สืบหาเจ้าของและในบริเวณใกล้เคียงพบบ้านต้องสงสัย

ซึ่งห่างจากจุดที่ปลูกกัญชาเพียง 50 เมตร จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าซักถาม

จนในเบื้องต้น นางสมพร รัตน์ศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า กัญชาดังกล่าวเป็นของตนเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้อง มาชี้จุดที่แอบปลูกกัญชาและถ่ายรูปเพื่อไว้เป็นหลักฐาน

และนำกำลังเข้าตัดและทำลายต้นกัญชา

เมื่อนำต้นกัญชาของกลางมาชั่งพบว่ามีน้ำหนักถึง 28 กิโลกรัม

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า กัญชาดังกล่าว มี นางสมพร รัตนศักดิ์ อายุ 55 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.3 ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร รับเป็นเจ้าของ และให้การว่า

กัญชาดังกล่าว ตนเองปลูกไว้ใส่แกง ไม่ได้ปลูกไว้ขาย และปลูกเพียง 7-8 ต้นเท่านั้นเอง

แต่เนื่องจาก บริเวณที่ปลูก ดินมีความอุดมสมบูรณ์ และติดแม่น้ำเลยทำให้ต้นกัญชามีขนาดที่ใหญ่

ส่วนเมล็ดกัญชานั้น ได้มาจากแรงงานพม่าที่อยู่ใกล้เคียง หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ

ก็ลองสอบถามคนแถวนั้นก็ได้ว่า ตนเองนำกัญชาไปขายหรือไปใส่แกง

และตนเองไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเลยหากไม่เชื่อก็เช็คประวัติดูได้
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ นางสมพร มากนัก

เนื่องจากกัญชาที่จับได้มีมากถึง 28 กิโลกรัม จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ท.สุรินทร์ ชูศรี

พนักงานสอบสวนเพื่อขยายผลและดำเนินคดีต่อไป
----------------------------------------
เสกสรรค์ บัวครื้น /ภาพ/ข่าว
ส.ปชส.ชุมพร

เครือข่ายวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน http://www.rd1677.com/branch.php?id=92164

ศ.นพ.ประกิต  วาทีสาธกกิจ  เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่

เปิดเผยรายงานการวิจัยล่าสุดที่พบว่า  ในหญิงที่แม้จะสูบบุหรี่ไม่หนัก

ความเสี่ยงเสียชีวิตจากหัวใจวายก็เพิ่มขึ้นสองเท่า    

งานวิจัยดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารสมาคมโรคหัวใจสหรัฐอเมริกาฉบับเดือนธันวาคม

ที่ติดตามสุขภาพของพยาบาลอเมริกา 101,000  คน  เป็นเวลากว่า 30 ปี

 พบว่ามีพยาบาลที่เสียชีวิตกะทันหันจากหัวใจวาย 351  คน  

ในจำนวนนี้  75 คนเป็นคนที่สูบบุหรี่  148  คน  เป็นผู้ที่เคยสูบบุหรี่หรือเลิกสูบมาไม่นาน

และ 128  คน  เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่  พบว่าการเสียชีวิตจากหัวใจวายกะทันหันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

ในพยาบาลที่สูบบุหรี่น้อยถึงปานกลาง  รวมถึงคนที่สูบบุหรี่เพียงวันละมวนเดียว  

ขณะที่ผู้ที่สูบบุหรี่วันละมากกว่า 25 มวน  มีอัตราการเสียชีวิตจากหัวใจวายเพิ่มขึ้นสามเท่า

เมื่อเทียบกับคนที่ไม่สูบบุหรี่  และในพยาบาลที่เลิกสูบบุหรี่มาแล้ว 15-25 ปี

ความเสี่ยงการเสียชีวิตจากหัวใจวายจะลดลงเหลือเท่ากับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่

 รายงานวิจัยดังกล่าวเตือนว่า  แม้แต่ผู้ที่สูบบุหรี่เพียงวันละมวนก็มากเกินไปแล้ว

และเรียกร้องให้ใช้โอกาสวันขึ้นปีใหม่เปลี่ยนพฤติกรรมโดยการเลิกสูบบุหรี่

อนึ่งข้อมูลการสำรวจล่าสุด พ.ศ.2554  พบว่า มีหญิงไทยสูบบุหรี่ 720,000  คน

โดยเฉลี่ยสูบวันละ 8.58 มวน เทียบกับเพศชายที่สูบ 12.2  ล้านคน เฉลี่ยสูบ 10.3  มวนต่อวัน

 และในปี พ.ศ.2552  มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคหัวใจจากการสูบบุหรี่  10,945  คน

 ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ 

โทร. 0-2278-1828 / 08-1822-9799

http://www.ashthailand.or.th/th/

ปล.บุหรี่ซื้อหาได้ง่าย มีแต่โทษ กัญชามีโทษแต่มีประโยชน์อยู่บ้าง ใครมีเมล็ดขอมาเพาะปลูกสักต้นได้ไหม

(ล้อเล่นนะครับ เดี๋ยวตำรวจมาจับอีก)

ขอบคุณภาพต้นกัญชา และบุหรี่ ที่อ้างถึงสองภาพข้างต้นฤฤ