“พระนครคีรี” ในวันที่ลั่นทมห่มพริบพรี (2) .. วัดพระแก้วน้อย

“พระนครคีรี” หรือ “เขาวัง” ... เป็นพระราชวังที่รู้จักและคุ้นเคยกันดีในเพชรบุรี เดิมนั้นเขาลูกนี้มีชื่อว่าเขาคีรี และต่อมาในสมัยอยุธยามีผู้มาสร้างวัดไว้ที่เชิงเขา และให้ชื่อวัดว่า วัดมหาสมณะ ชาวบ้านจึงเรียกภูเขาลูกนี้ว่าเขามหาสมณะไปด้วย ..

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระองค์ได้เสด็จประพาสเมืองเพชรบุรี และทรงพอพระราชหฤทัยบรรยากาศและธรรมชาติบนเขาแห่งนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นใน พ.ศ. 2402 และพระราชทานนามให้เขาลูกนี้ใหม่ว่า เขามหาสวรรค์ และเรียกพระราชวังแห่งนี้ "พระนครคีรี" คนทั่วไปเรียกว่า “เขาวัง” ที่ถือเป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี

เราเที่ยวชมหมู่พระราชมณเฑียร แล้วมุ่งหน้าเดินต่อไปยัง “วัดพระแก้วน้อย” ซึ่งอยู่ห่างออกไปบนภูเขาเล็กๆอีกลูกหนึ่ง และสามารถมอแงเห็นได้จากบริเวณที่ตั้งของหมู่พระราชมณเฑียร

เส้นสายของทางเดินปูอิฐแดงของเขาวังที่ทอดตัวยาวคดโค้งไปตามสโลปสูงๆต่ำๆของเนินเขานั้นงดงามมาก … เส้นสายของโค้งทางเดิน ที่มีต้นลั่นทมโบราณที่คะเนว่าอายุคงประมาณเดียวกับอายุของสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ของเขาวัง เรียงรายหนาแน่นตามชายขอบ ดูมีเสน่ห์ให้หยุดมองได้นานๆ

.. เราเดินๆหยุดๆ เพื่อชื่นชม และซึมซับกับความเป็นอัจฉริยะของผู้ออกแบบ และความพยายามของคนสร้าง … นี่หากมีดอกลั่นทมสีขาวนวลโปรยปรายหนาแน่นอยู่บนทางเดิน คงแทบอยากจะนั่งมองตลอดวัน  ไม่ไปไหน..

เดินตามความชันของถนนมาสักครู่ .. หยุดพักให้ร่างกายปรับสมดุล แล้วเดินต่อ ..

เนินแรกที่ดึงดูดเราให้รีบเข้าไปเยือนคือป้อมปราการ

 .. ผู้รู้บางคนบอกว่ามีทั้งหมด 4 ป้อมด้วยกัน วัตถุประสงค์ของป้อมคงไม่ใช่เพื่อความสวยงามอย่างเดียว ด้วยในช่วงเวลาที่สร้างสิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่เขาวังนั้น เป็นเวลาที่สถานการณ์ด้านการเมืองล่อแหลมจากการเข้ามาสู่ประเทศแถบนี้ของชาวยุโรปสมัยการไล่ล่าอาณานิคม เพชรบุรีจึงเป็นเมืองที่ถูกเลือกในการย้ายเมืองหลวงหากเกิดวิกฤตการณ์ที่แก้ไขไม่ได้ ..

.. สิ่งก่อสร้างหลายอย่างในเพชรบุรีจึงแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม รวมถึงพระราชวังต่างๆ รวมถึงเขาวังด้วย … ป้อมปราการที่เราเห็นในวันนี้จึงน่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรักษาการณ์ เพื่อป้องกันพระราชฐานด้วย

เราเดินลัดเลาะมาตามเส้นสายลายโค้งของทางเดินอิฐแดงที่งดงามคลาสสิกของถนนบนเขาวัง เลี้ยวซ้ายตรงไปสู่วัดพระแก้วน้อย  เจดีย์แดง และพระธาตุจอมเพชร เพื่อไหว้เข้าไปไหว้พระและนมัสการพระธาตุ .. สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เขาวังมาตั้งแต่ครั้งโบราณ พร้อมกับถือโอกาสชมเมืองเพชรบุรีในมุมที่สวยที่สุดมุมหนึ่ง

ตรงเชิงเนิน ก่อนขึ้นไปที่วัด .. จะมีศาลาก่ออิฐถือปูน ซึ่งเป็นศาลาสดับพระธรรมเทศนา

“วัดพระแก้วน้อย” .. ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาทางทิศตะวันออก ขึ้นเพื่อเป็นวัดในเขตพระราชฐาน เช่นเดียวกับ วัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง … ตามทางเดินที่นำมาสู่วัด สามารถมองเห็นวัดและพระปรางค์สวยงามมากทีเดียวค่ะ

“วัดพระแก้วน้อย” .. แห่งนี้มีความน่าสนใจอยู่ที่พระอุโบสถ ซึ่งแม้มีขนาดเล็กแต่ก็มีสัดส่วนงดงาม

ทิวทัศน์จากมุมหนึ่ง เมื่อมองกลับมาจากบริเวณพระอุโบสถ

หอระฆัง เจดีย์แดง และหอจตุเวทปริพัจน์ .. เมื่อมองไกลออกไปจะเห็นตัวเมืองเพชรบึรีอยู่เบื้องล่าง เป็นมุมที่สวยงามมากทีเดียว

ผนังพระอุโบสถประกอบด้วยหินอ่อนเดิมเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปแก้วผลึกไว้ ครั้นพอสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญกลับคืนพระนครและประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนไว้แทน

หน้าบันพระอุโบสถเป็นลวดลายปูนปั้นรูปตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ซึ่งเป็นตราประจำรัชกาลที่ 4 สำหรับงานปูนปั้นของช่างเมืองเพชรฯ นั้น ถือว่าไม่เป็นรองใคร งานปั้นที่วัดพระแก้วน้อยแห่งนี้จึงถือเป็นงานชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งในเมืองเพชรบุรีเลยทีเดียว

จากด้านในของพระอุโบสถ สามารถมองจากหน้าต่างไปยังพระปรางค์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาถัดไป ในวันฟ้าใสจะสวยงามมาก

“พระธาตุจอมเพชร” .. เป็นเจดีย์ขาวอยู่บนเขายอดตรงกลาง มีอายุเก่าแก่มานาน ก่อนที่จะสร้างพระราชวังพระนครคีรี เป็นองค์พระธาตุรูปฐานกลม องค์พระธาตุสูง 1 เส้น ภายในฐานกลวงเป็นห้องกลม มีทางเข้าออก 4 ทาง และมีช่องทางที่สามารถเดินขึ้นบนฐานทักษิณอีก 4 ช่อง ..

สถาปัตยกรรมของพระปรางค์องค์นี้จะประทับใจในความอุตสาหะของการสร้างพระธาตุมาก .. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมและเสริมให้สูงขึ้น บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน แล้วพระราชทานชื่อว่า "พระธาตุจอมเพชร"

เราเดินชมวิวทิวทัศน์รอบๆระเบียงขององค์พระธาตุ .. เมืองเพชรบุรีในมุมสูง มองเห็นวัดวาอารามกระจายอยู่ทั่วเมือง .. สวยงามมากมายในสายตา

หลายๆมุม .. มองจากระเบียงเจดีย์เหนือพระอุโบสถ

“เจดีย์แดง” … ตั้งอยู่ตรงหน้าพระอุโบสถวัดพระแก้ว สร้างเป็นปรางค์จตุรมุข เป็นพระปรางค์โปร่งทาสีแดงทั้งองค์ สวยงามแปลกตา มองเห็นได้ชัดมาแต่ไกล

ภายในมีแท่นสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป หากได้มาชมในเวลาที่ดอกลั่นทมบานเต็มเขาวังแล้วละก็ คงจะงดงามมากทีเดียว

บริเวณเดียวกับที่ตั้งเจดีย์แดง มี ศาลาชมวิว และระเบียงรอบๆ สามารถเดินทิวทัศน์ของชมเมืองเบื้องล่างได้โดยรอบ ในบางมุมสวยงามจับใจทีเดียวค่ะ

ทางเดินรอบพระธาตุเป็นทางโค้งกลม .. ทิวทัศน์ที่มองเห็นเทือกเขาสีฟ้าเทาเป็นฉากหลัง สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับพวกเรามากทีเดียว และ ณ มุมหนึ่ง มองเห็นส่วนหนึ่งของอุทยานเฉลิมพระเกียรติ์ รัชกาลที่ 4 .. ซึ่งเราจะแวะไปชมหลังจากลงจากเขาวังค่ะ