*/
<< | มกราคม 2022 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | ||||||
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 |
หากความคิดเห็นที่ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า เราจะได้รับอุบัติเหตุนั้นได้เมื่อไร และความเสียหายนั้นจะมีมากน้อยเพียงใด และคำว่าอุบัติเหตุก็มีความหมายในเชิงที่ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน คนจำนวนมากเลยสับสนว่า ความประมาท ไม่ระมัดระวังและขาดความยับยั้งชั่งใจในการทำสิ่งผิดรวมกันว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งอันที่จริงแล้วการละเลยเหล่านั้นต่างเป็นการขาดความรับผิดชอบต่อทั้งทรัพย์สินและชีวิตของผู้อื่น และเราสามารถป้องกันสิ่งเหล่านั้นไม่ให้เกิดขึ้นได้ มันไม่ใช่เรื่องที่เกินขีดความสามารถหรือการควบคุม หากเราจะเข้มงวดกวดขันในเรื่องวินัยการใช้รถใช้ถนน เพื่อให้ลดการเกิดความเสียหายได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถชน ซึ่งเกิดได้แทบจะทุกนาที เพราะความปลอดภัยควรมาเป็นอันดับแรกสำหรับทุกคน และหากเกิดเหตุการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต แม้จะเป็นแค่เพียงเสี้ยวนาที ก็สามารถกู้ชีพคืนได้ เราจะสังเกตได้จากที่มีการปฐมพยาบาลโดยใช้เครื่องกระตุกหัวใจหรือเครื่องaed ในกรณีที่หาชีพจรไม่เจอและต้องการกู้ชีพขั้นต้นก่อนถึงมือแพทย์ ถ้าหากเราใช้ถนนที่ต้องขับไปบริเวณที่มีทางรถไฟ สิ่งที่เราควรใส่ใจเบื้องต้นคือ ข้อควรระวังต่างๆ และต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งเว็บไซต์ travel kapok ได้แชร์บทความไว้ว่า วิธีปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย เมื่อใช้ถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ สังเกตป้ายสัญลักษณ์ หรือลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน ก่อนข้ามถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ สังเกตป้ายสัญลักษณ์ หรือ ลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน เพื่อชะลอความเร็วให้ดี ๆ เพราะนั่นเป็นสัญญาณบอกให้ผู้ขับขี่รู้ว่า ข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟ โดยทั้งป้ายสัญลักษณ์และลูกคลื่นชะลอความเร็ว ทางรถไฟได้ดำเนินการจัดทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีทั้งหมดมากกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ 100% ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่ร่วมด้วยเช่นกัน ห้ามขับแซงรถอื่น ในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางรถไฟ ผู้ขับขี่ทุกคนไม่ควรเอาตัวเองไปตกอยู่ในความประมาท อย่าคิดว่าสามารถขับแซงรถคันข้างหน้าในระยะเท่านั้นเท่านี้เมตรได้สบาย เพราะแซงบนถนนปกติ กับแซงใกล้กับบริเวณทางรถไฟ ความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุย่อมแตกต่างกัน แนะนำว่าให้ขับขี่ตามกฎจราจรตามปกติ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก่อนข้ามถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟ ให้ชะลอความเร็ว และพร้อมหยุดรถได้ทันทีที่มีสัญญาณเตือน สังเกตให้ดีว่าถนนผ่านเสมอระดับทางรถไฟที่ผ่านมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ในกรณีที่ทางรถไฟนั้นไม่มีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้ หากมีสัญญาณเตือน หรือแผงกั้นทางรถไฟปิดลงมา ให้หยุดรถห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร กรณีที่มีสิ่งปิดกั้นหรือมีเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณ แสดงว่ารถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้ ผู้ขับขี่จึงจำเป็นที่จะต้องลดความเร็วหรือหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตรเช่นกัน และเมื่อรถไฟผ่านไปแล้ว และมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงค่อยขับต่อไป
|