นวัตกรรมจากข้าวไทย ไทยคิด ญี่ปุ่นทำ ... ขออย่าให้เป็น ไทยจน ญี่ปุ่นรวย ก็แล้วกัน ฮา ฮา ฮา !!! ถึงแม้ไทยจะเป็นประเทศที่ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลกก็ตาม ก็ยังมีคู่แข่ง ที่สำคัญอีกหลายประเทศที่ผลิตข้าวเพื่อการส่งออก ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคู่แข่งที่ น่ากลัวทั้งสิ้น คุณภาพของข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพสูง เป็นที่นิยมของผู้บริโภคก็ตาม แต่ ต้นทุนการผลิตของไทยก็ยังสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ และไทยกำลังจะสูญเสียตลาดประเทศลูกค้าไปเรื่อย ๆ เพราะประเทศอื่น สามารถขายข้าวได้ในราคาที่ถูกกว่าของไทยมาก และคุณภาพก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ การทำนาก็มีปัญหาอุปสรรคนานัปการ และยังขึ้นอยู่กับ ดินฟ้าอากาศ เช่น ฝนแล้ง น้ำท่วม ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหายมาก ซ้ำซากกันปีแล้วปีเล่า แถมราคา ข้าวในตลาดโลก ก็มีความผันผวนมาก แนวคิด ขายข้าวเป็นกรัม ไม่ขายข้าวเป็นเกวียน แนวคิดของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สนช. ที่มุ่ง ขายข้าวเป็นกรัม ไม่ขายข้าวเป็นเกวียน เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้แก่ข้าวไทย และหลีกเลี่ยง ปัญหาซ้ำซากที่ชาวนาไทยต้องประสบอยู่ทุกยุคทุกสมัย ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดี ที่ถูกต้อง เหมาะสมแต่ประเทศไทย นวัตกรรมเกี่ยวกับข้าวไทย มีไม่มาก ซึ่งจะต้องเร่งส่งเสริม พัฒนานวัตกรรมข้าว ให้มีมากยิ่งขึ้น และเป็นที่ยอมรับ แป้งพัฟทาหน้าสตรี ปัจจุบันนี้ มีข่าวที่น่ายินดีว่า ได้มีนักวิจัยไทย ได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรม จาก แป้งข้าวเจ้าไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง โดยทำผลิตภัณฑ์ แป้งพัฟทาหน้าสตรี ที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพระดับโลก ได้เป็นผลสำเร็จแล้ว แป้งพัฟ (Press powder) คือแป้งอัดแข็ง บรรจุอยู่ในตลับ ใช้กับพัฟฟองน้ำ มีข้อดีคือ ทาแล้วหน้าเนียน ติดทนนานทั้งวัน ป้องกันความมัน มีสีให้เลือกตาม สีผิวผู้ใช้ และพกพาสะดวก แต่แป้งพัฟโดยทั่วไป จะใช้องค์ประกอบหลัก คือ สารทัลคัม (Talcum) ซึ่งเป็น แร่ชนิดหนึ่ง มีหลายเกรด ตั้งแต่นำมาเป็นผลิตภัณฑ์เซรามิก จนถึงทำเครื่อง สำอาง แต่จากการสุ่มตรวจ พบว่า มีแป้งพัฟฟ์ ทาหน้าบางยี่ห้อ ปนเปื้อนแร่ใยหิน ที่เป็น อันตราย หากใช้ไปนาน ๆ อาจทำให้เป็นมะเร็งปอด หรือโรคเกี่ยวกับปอดได้ จากปัญหาดังกล่าว ได้มีนักวิจัยของบริษัทเอกชนไทย คิดค้นวิจัย โดยนำแป้ง ข้าวเจ้ามาดัดแปรทำเป็นฝุ่นทาตัวสำหรับเด็ก ซึ่งพบว่ามีคุณสมบัติที่ดีมาก ทาแล้วเนียนลื่น เบาสบายผิว เพราะโมเลกุลแป้งข้าวเจ้า มีลักษณะกลม ละเอียดกว่าโมเลกุลแป้งฝุ่นสารทัลคัมที่เป็นเหลี่ยม ที่สำคัญ แป้งฝุ่นข้าวเจ้ายังย่อยสลายได้ ไม่ติดค้างบนผิว และไม่เป็นอันตราย ต่อร่างกาย กระบวนการผลิตยังต้องจ้างญี่ปุ่น แต่กระบวนการผลิตแป้งพัฟจากข้าวเจ้ายุ่งยากมาก เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยี ชั้นสูง และต้องอาศัยผู้มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และให้เกิดความพอใจสูงสุด ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์จึงมอบให้ บริษัท พิคัสโซ่ คอสเมติกส์ แลปบอราทอรี่ จำกัด แห่งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตเครื่องสำอางระดับโลกเป็นผู้รับจ้างผลิต เพราะมีความเชี่ยวชาญมานานถึง ๗๖ ปี มีแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของโลก มาว่าจ้างให้ผลิตสินค้าให้ กว่า ๓๐๐ ราย บริษัท พิคัสโซ่ฯ มีเครื่องจักรที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน มีห้องแล็บ มีทีมวิจัย และ ทีมตรวจสอบผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด เน้นความปลอดภัยต่อผู้ใช้ จึงเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์แป้งพัฟจากแป้งข้าวเจ้าของไทยเหมาะกับผิวทุก ๆ คน อีกเรื่องหนึ่ง ญี่ปุ่นแอบวิจัยเงียบ เซรั่มบำรุงผิว จากข้าวหอมมะลิ ที่ห้องแล็บ เมืองโกเบแห่งนี้ ทางทีมวิจัยของญี่ปุ่น ยังได้ร่วมกับบริษัทไทยนำ ข้าวหอมมะลิมาหมักกับจุลินทรีย์ ตามกระบวนการหมักของญี่ปุ่น ซึ่งเขามีความ เชี่ยวชาญมาก เพื่อทำเป็นเซรั่มบำรุงผิว เหตุที่ต้องใช้ข้าวหอมมะลิของเรา เพราะมีคุณสมบัติพิเศษต่างจากข้าวประเทศอื่น ๆ แม้แต่ข้าวของญี่ปุ่นเอง เนื่องมาจากแหล่งเพาะปลูกที่เหมาะสม ผลการวิจัยพบว่า ทาแล้วผิวมีความชุ่มชื้น กระตุ้นเซลล์ใหม่ และทำให้ผิว อ่อนเยาว์ จึงเตรียมพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวออกจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งจะ เป็นการเพิ่มมูลค่าข้าวหอมมะลิไทยให้สูงขึ้นอีก สนช. สนับสนุนผู้ประกอบการไทย ที่ทำนวัตกรรมจากข้าวไทย สนช. มองเห็นโอกาสที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าวไทย จึงได้ให้การ สนับสนุนผู้ประกอบการไทย ที่ทำนวัตกรรมจากข้าว ไปแล้ว ๒๔ โครงการ เป็นเงิน ๒๐ ล้านบาท ซึ่งจะมีผลก่อให้เกิดการลงทุน รวมกว่า ๒๘๗ ล้านบาท สำหรับโครงการ โอริเซ่ Oryze แป้งพัฟจากแป้งข้าวเจ้า สนช. ได้ให้การ สนับสนุนภายใต้โครงการแปลงเทคโนโลยีเป็นทุน จำนวน ๒,๑๕๓,๓๐๐ บาท สำหรับมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น ๖ ล้านบาท นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ สนช. ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ *+*+* นวัตกรรมจากข้าวไทย เป็นนวัตกรรมที่ดีมาก ได้ต่อยอดให้กับข้าวไทย ให้มีอนาคต ที่สดใส มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขออย่างเดียว ให้ไทยรวย ๆ อย่าให้เป็น ไทยคิด ญี่ปุ่นทำ แล้ว ไทยจน ญี่ปุ่นรวย ก็แล้วกันครับ และแป้งพัฟจากแป้งข้าวเจ้า ผมอยากให้ตั้งชื่อเป็นไทย ๆ จะดีกว่า เพราะไทยคิด อีกเรื่องหนึ่งที่พึงระวัง ก็คือ เรื่องลิขสิทธิ์ จากบทเรียนในอดีต เปล้าน้อย สมุนไพรไทย ที่ใช้รักษา โรคกระเพาะอาหาร ที่คนไทยยังไม่ลืม ที่ญี่ปุ่นแอบไป จดสิทธิบัตรสมุนไพรไทยตัวนี้ไว้เสียเอง ทั้ง ๆ ที่เป็นสมุนไพรไทย เป็นเรื่องที่ โด่งดังมากในอดีต เป็นเรื่องพึงสังวรณ์ ไทยคิด แล้วต้องรีบจดลิขสิทธิ์ทันที *+*+*+* อ้างอิง : ไทยรัฐ, ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ ภาพจากอินเตอร์เน็ต และไทยรัฐออนไลน์ - ขอขอบคุณ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
ภาพความละเอียดสูง | ||
![]() |
||
High Definition |
||
View All ![]() |
ขอเชิญติดตาม บล็อกสุรศักดิ์ oknation | ||
![]() |
||
scan ที่นี่ |
||
View All ![]() |
<< | กันยายน 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |