ในที่สุดการแข่งขันฟุตบอลถ้วย ก. ถ้วยใบแรกในปีนี้ก็ตกเป็นของชลบุรี เอฟซี ทีมจากแดนภาคตะวันออกของไทย โดยดวลจุดโทษเอาชนะทีม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไป 4-3 หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 2-2 ประเดิมคว้าแชมป์ถ้วย ก. เป็นสมัยที่ 4 ก่อนฟุตบอลลีกจะเริ่มโม่แข้งในสัปดาห์ถัดไป ส่วนฝั่งบุรีรัมย์ พลาดโอกาสที่จะคว้าแชมป์ที่ 5 ติดต่อกันจากฤดูกาลที่ผ่านมา

            หากเปรียบบอลไทยลีกกับฟุตบอลประเทศอังกฤษ ฟุตบอลถ้วย ก. ก็คงไม่ต่างจากรายการคอมมูนิตี้ ชิลล์ ที่นำแชมป์ลีกกับแชมป์บอลถ้วยมาพบกัน โดยเป็นทำเนียมก่อนฟุตบอล       ลีกจะเริ่มขึ้น บุรีรัมย์มาในฐานะแชมป์ฟุตบอลไทยลีก และฟุตบอลเอฟเอคัพ ด้านชลบุรี มาในฐานะอันดับที่ 2 และก็เป็นไปตามคาดเมือทั้งสองทีมต่างส่งผู้เล่นหน้าทั้งคยไทยและคนต่างชาติลงสนามอย่างครบครัน เหมือนเป็นการทดสอบผู้เล่นใหม่ภายในตัว

            ฝั่งบุรีรัมย์ส่งนักเตะหน้าใหม่อย่าง ประทุม ชูทอง สุรัตน์ สุขะ จีรวัฒน์ มัครมย์ อัสคา จาเดลอฟ และสุมัญญา ปุริสาย ส่วน “ฉลามชล” ส่งนักเตะใหม่อย่าง เจฟฟี่ ดูม็องและลูโดวิด ทาคาม ลงทอดสอบฝีเท้า ซึ่งนักเตะใหม่ของทั้งสองทีมถือว่าทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ ลูโดวิด ทาคาม ศูนย์หน้าร่างตันของชลบุรีที่ยิงประตูตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนจะคว้าชัยในการดวลจุดโทษ

            รูปเกมของคู่นี้นั้นดูตื่นเต้น สูสี เร้าใจ ด้วยบรรยากาศกองเชียร์ที่แน่นสนามและฝีเท้าของนักเตะทั้งสองทีม ในครึ่งเวลาแรกบุรีรัมย์ทำเกมได้ดีกว่า ส่วนครึ่งเวลาหลัง โค้ช”เฮง” วิทยา เลาหกุล ก็แก้เกมได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ชลบุรีกลับออกมาเล่นดีอย่างกับหนังคนละม้วนในช่วงครึ่งแรก

            แน่นอนว่าการคว้าแชมป์ถ้วย ก. ของฉลามชลจะช่วยทำให้มีความมั่นใจยิ่งขึ้นในการที่จะแย่งแชมป์ไทย พรีเมียร์ลีก จากบุรีรัมย์ผู้เป็นแชมป์เก่า และนี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าการแข่งขันฟุตบอลไทยในฤดูกาลที่กำลังจะมานี้คงจะสนุกตื่นเต้นแน่นอน