*/
<< | เมษายน 2011 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
กลายเป็นเรื่องปกติชินตาไปเสียแล้วที่พ่อค้า แม่ค้าผัก ผลไม้ และเครื่องปรุงอาหารในตลาดสมเพชร ย่านคูเมืองเชียงใหม่จะให้การต้อนรับและขายผักนานาชนิดให้กับพ่อครัว แม่ครัว มือสมัครเล่นชาวต่างชาติที่มาเรียนทำอาหารไทย ที่หลงเสน่ห์เมนูอาหารไทยแห่เดินช็อบปิ้งมาเป็นกลุ่มใหญ่คลาคล่ำเต็มตลาด จากหลายค่ายหลายโรงเรียนสอนทำอาหารไทยในเชียงใหม่ พร้อมกับไกด์คนไทยประจำโรงเรียนที่อธิบายสรรพคุณพืชผักสวนครัวและเครื่องปรุงต่างๆอย่างฉะฉาน และน่าจะตั้งชื่อว่าเป็นกาดฝรั่งของจริง ท่ามกลางนโยบายที่แผ่วปลายเรื่อง "ครัวไทยสู่ครัวโลก" ถ้าหากได้มาสัมผัสแล้วอาจจะใจชื้นเพราะว่าบรรยากาศเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเฉพาะเข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ เมนูอาหารไทยไปวางบนโต๊ะอาหารทั่วโลก ผลตามมาคือสนับสนุนให้มีการผลิตสินค้า- เครื่องปรุงของไทยส่งออกตามมาเพิ่มมูลค่าอีกมหาศาล ทัศน์พล ยังมี เจ้าของโรงเรียนสอนทำอาหารไทย ไทย คิชเช่น คุกเกอรี่ เซ็นเตอร์ (Thai Kitchen Cookery Centre) เล่าว่า เริ่มเปิดกิจการโรงเรียนสอนทำอาหารไทยให้กับชาวต่างชาติมาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งในช่วงนั้นโรงเรียนสอนทำอาหารไทยให้กับชาวต่างชาติมีเพียง 1 2 แห่ง แต่ปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20 แห่ง และกล่าวได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงมาก โดยเฉพาะในเรื่องของราคาที่มีการตัดราคากันอย่างมาก แต่ก็ยังพบว่าชาวต่างชาติยังคงให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพื่อเรียนทำอาหารไทยในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนทำอาหารไทยที่โรงเรียนของตนมากกว่า 200 คนต่อเดือน โดยมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนีและฮอลแลนด์ประมาณ 50% นอกจากนั้นคือ เมนูอาหารหลักๆที่กำหนดเป็นคอร์สสอนชาวต่างชาติก็คือ ข้าวผัด ผัดไทย ผัดซีอิ้ว แกงเขียนหวาน แกงมัสมั่น พะแนงเนื้อ ผัดกระเพาไก่ ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัดเปรี้ยวหวาน ส้มตำ ยำปลาดุกฟู เป็นต้น โดยกระบวนการนั้น จะเริ่มจากนำนักท่องเที่ยวไปจ่ายตลาดที่ตลาดสด ซึ่งตลาดประจำของทางโรงเรียนคือ ตลาดสมเพชร ซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนที่ตั้งอยู่น่านถนนลอยเคราะห์ และเป็นตลาดที่กะทัดรัด ซึ่งเมนูที่นักท่องเที่ยวสนใจมากก็คือ แกงมัสมั่นและยำปลาดุกฟู โดยคอรส์ 1 วัน ราคา 900 บาท แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางคนสนใจเรียนคอร์ส 3 5 วัน ซึ่งทางโรงเรียนจะออกใบประกาศหรือใบรับรองให้ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 90 % ที่มาเรียนเพราะชอบอาหารไทยและต้องการได้เพื่อนใหม่ แต่จะมีเพียง 10% เท่านั้น ที่ตั้งใจมาเรียนเพื่อนำไปประกอบอาชีพ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น ทำให้ทัศน์พล ต้องปรับตัวหลายอย่าง โดยเฉพาะการปรับเมนูอาหารให้มีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำกับใคร และคงจุดขายในเรื่องความเป็นไทย เน้นอาหารไทยแท้ๆ ทั้งเครื่องปรุง เครื่องแกง เครื่องเทศ ที่นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ในทุกขั้นตอนการทำ ขณะเดียวกันจากต้นทุนของการทำอาหารที่เพิ่มขึ้น ทั้งผักและเครื่องปรุงต่างๆ ทำให้ต้องปรับเมนูอาหารที่มีต้นทุนสูงๆออกไป และเน้นการทำอาหารแบบไทยๆที่แตกต่างจากที่อื่นๆเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เตรียมขยายการลงทุนเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารไทยที่ภูเก็ตและกรุงเทพฯภายในปี 2554 เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปกันมาก และแนวโน้มธุรกิจนี้จะขยายตัวสูงในอนาคต ขณะที่เชียงใหม่ไทยคุกเกอร์รี่ สคูล (Chiang Mai Thai Cookery School) จัดได้ว่าเป็นโรงเรียนสอนการทำอาหารไทยสำหรับชาวต่างชาติอันดับต้น ๆ ของเชียงใหม่ เปิดมากว่า 17 ปี ภายใต้แนวคิดของ สมพล แนบเนียน วิธีการสอนของทางโรงเรียนมีขั้นตอนที่สำคัญคือ การสอนในห้องเรียนอธิบายการเตรียมเครื่องปรุงแต่ละประเภท พร้อมสรรพคุณ หลังจากนั้นจึงเริ่มปฏิบัติการจริง ปรุงเองในห้องครัว ในหลักสูตรที่อยู่กับโรงเรียนหลายวันก็จะเพิ่มการไปทัศนศึกษาตลาด การเลือกซื้อและการทำเมนูที่ยากขึ้น เช่น ทอดมันปลา, ผัดไทย, ลาบไก่, ,ต้มข่าไก่, ทอดปลาทับทิมกรอบ, แกงพะแนงหมู,แกงฮังเล, ปลานิลลาดพริกใบกระเพรา, ยำวุ้นเส้น, ข้าวเหนียวดำเปียก เป็นต้น ในส่วนพื้นที่การสอนของโรงเรียนจะเป็นพื้นที่ดัดแปลงในหมู่บ้านฟลอร่าวิว อำเภอดอยสะเก็ด ที่จะเน้นความสะอาด คุณภาพของอุปกรณ์ เครื่องปรุงที่สด โดยเฉพาะการผสมผสานวัฒนธรรมไทย และความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยเข้าไปผ่านเมนูอาหาร ซึ่งในแต่ละหลักสูตรจะมีพี่เลี้ยงที่มีความเชี่ยวชาญคอยดูแลแนะนำประกบอยู่ตลอดด้วย เพราะวิธีการการใช้เครื่องมือจะแตกต่างจากต่างประเทศ สำหรับราคาหลักสูตรของโรงเรียนเชียงใหม่ไทยคุกเกอร์รี่ สคูล จะคิดตามจำนวนวันคือ การเรียน 1 วัน 990 บาท, 2 วัน 1,900 บาท, 3 วัน 2,800 บาท , 4 วัน 3,700 บาท และ 5 วัน ครบเต็มหลักสูตร 4,600 บาท และเขาก็ยอมรับว่ามีการแข่งขันกันสูง ซึ่งการลดต้นทุนโดยลดคุณภาพของเครื่องปรุง หรือตัดราคาเป็นสิ่งที่จะทำให้ขาดทุน จึงได้เตรียมพื้นที่ในการปลูกพืชผักสวนครัว หรือทำสวนสมุนไพรไว้รองรับที่ข้างโรงเรียนด้วย มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเรียนที่โรงเรียน ปีละ 6,000 คน ยังไม่รวมโรงเรียน อื่น ๆ ที่คาดว่าจะมีมากกว่าหลายหมื่นคนต่อปี
จึงเป็นปรากฎการณ์หนึ่งที่น่าสนใจท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศไทยลดลง แต่หากมีการสร้างจุดดึงดูดทางการท่องเที่ยวใหม่ขึ้นมาอย่างการทำโรงเรียนสอนทำอาหารอย่างจริงจังและได้มาตรฐานโดยจับมือไม่แข่งขันการกดราคาก็จะทำให้ตลาดนี้เป็นจุดแข็งและเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าการเกษตรไทยได้อย่างไม่จำกัดในอนาคตได้ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |