(เพิ่มความสุขในการอ่านควร กด F 11 ด้วยนะครับ)

          ก่อนที่ผมจะตัดสินใจเข้ามาเที่ยวที่ อ. สะเมิง จ.เชียงใหม่ก็ คิดอยู่นานสองนานว่า ณ. ดินแดนที่แห่งนี้มีอะไรน่าสนใจหรือไม่ นอกจากไร่สตอเบอรี่ สวนกระเทียม กล้วยแปลรูปต่างๆ ที่ขึ้นชื่อของ อ.สะเมิง  ก็คิดอยู่ไม่นานก็มาตัดสินใจมาเที่ยวที่ อ.สะเมิง เพราะตัวเองเป็นคนที่ชอบเมืองเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เมืองที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา อากาศเย็นสบายตลอดปีผมเดินทางมาถึง สะเมิง ก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังแม้แต่น้อยนิด  กับผู้คนที่เป็นมิตรและน่ารัก

      กับประวัติศาสตร์อันยาวนานของ สะเมิง ผมจึงตัดสินใจได้ไม่ยากที่เข้ามาเยี่ยมเมือง สะเมิง เมื่อ พ.ศ. 2250-2350 แผ่นดินล้านนาลุกเป็นไฟจากการแย่งชิงแคว้นต่างๆ จึงมีการสู้รบกันอย่างรุนแรงชาวบ้านที่ประกอบไปด้วยไทยลื้อ และ กระเหรี่ยง ได้อพยพหนีภัย เข้าไปในถิ่นป่าดอยเสมือนไปตายเอาดาบหน้า จึงมีผู้อพยพบางกลุ่มมาปักหลักปักฐานในดินแดน อ.สะเมิง ในปัจจุบัน เช่น ที่ีหมู่บ้านศาลา บ้านแม่สาบ บ้านดงช้างแก้ว เป็นต้น

     จากที่หมู่บ้านเล็กๆ ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงเรียกที้ง 3 หมู่บ้านว่า สะเมิง มีการสันนิฐานกันว่า ที่มาของชื่อสะเมิง ได้สองนัยยะ คือ สะเมิง กำเนิดขึ้นจากคำว่า "สามเมิง" ตามสำเนียงภาษาไทยลื้อที่เรียกว่า "เมือง" ว่า "เมิง" คำว่าสามเมิงหมายถึงการตั้งถิ่นฐานทั้ง 3 หมู่บ้าน  หรือ สามเมือง นั้นเอง หรืออีก ภาษาหนึ่งมาจาก ภาษากระเหรี่ยง คือ "สะเมิง" หมายความว่า "แสงสว่าง" 
หรือ ตีความหมายว่า "แสงสว่าง ไสวในยามเช้า" 
 
       เยือนเมืองแห่งขุนเขา เมื่อผมมีโอกาสเดินทางมาที่สะเมิง เมืองกลางหุบเขาแห่งนี้ ผมออกเดินจาก เชียงใหม่ เส้นทาง แม่ริม - สะเมิง  ตลอดเส้นทางผมทอดสายตามองเห็นเทือกเขาสวยงามยิ่ง นักกับลมหมอกที่เอื้อมมือไปพัดโบก เล่นได้ตามสบายอุรา

        ตลอดระยะทางเกือบ 50 กม.จะถึง อ. สะเมิง  ผมไม่หยุดนิ่งกับ อารมณ์ที่อยากจะยืนอยู่กลางเนินเขาแล้วมองไปให้ไกลสุดสายตาก็เห็นธรรมชาติ กับ ไอหมอก ที่ลมพัดมากระทบใบหน้า  ก่อนถึงตัวอำเภอสะเมิง ผมเริ่มขับรถให้ช้าลง เพราะตลอดเส้นทาง ทั้งซ้าย และ ขวา  จะพบกับการทำเกษตรกรรม ของชาวสะเมิง  แน่นอน ไร่สตอเบอรี่ที่ใครๆ ก็อยากมาเก็บ อยากมาชิม อยากมาลิ้มรสกันที่สวน ก็มีให้เห็นตลอดเส้นทางเช่นกัน  สะเมิง มีพื้นที่ราบเพียงเล็กน้อย จึงต้องปลูกพืชหมุนเวียน

          และยังมีไร่ส้ม สวนปลูกกระเทียมก็็มีมากมาย แต่ก็ไม่วายที่ผมจะ
ต้องลงจากรถมาเก็บภาพสวยๆ แม้กระทั้งทุ่งนาที่วันนี้ได้เก็บเกี่ยวกันหมดแล้ว
แต่ด้วยความที่มีเสน่ห์ของไร่นาที่วันนี้แปลงโฉมมาเป็นไร่สตอเบอรี่ และ
สวนปลูกระเทียมกันหมดแล้วตามฤดูกาล

          แต่ภาพเหล่านี้ก็ยังเป็นเสน่ห์ คงความสวยงามยิ่งนักที่ทำ
ให้ผมไม่ลืมที่จะหยิบกล้องส่องภาพแล้วเก็บเอาภาพสวยมาฝากทุกๆท่านที่รออ่านครับ

      สะเมิง วันนี้ เป็นเมืองที่เงียบสงบ สวยงามไม่มีตึกสูงๆ ไม่มีผับไม่มีเทค  แต่ตลอดสายตาที่เที่ยวชมทั้งอำเภอวันนี้ สะเมิง มีแต่บ้านไม้สวยๆ คงความเป็น คนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่เป็นเมืองแห่งหุบเขา 

      

             จึงมีลมเย็นๆพัดโชยมาตลอดเวลา ไม่หนาวมาก ไม่เย็นมาก แต่บรรยากาศแบบนี้ก็ทำให้ผมหายเหนื่อย หายตื่นเต้นจากการเดินทางที่คดเคี้ยว สูงชันได้อย่างดี วันนี้ที่ สะเมิงเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากแล้ว ผมเริ่มสังเกตเห็นได้จากที่เริ่มมีเกสต์เฮ้าส์ี่ที่พุดขึ้นมา    แต่โดยส่วนตัวผมเองก็ยังอยากให้ สะเมิงดินแดนแห่งนี้ ยังคงความเป็น สะเมิง ไว้ให้มากที่สุดยังไม่อยากให้ สะเมิง เปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ เอกลักษณ์ของสะเมิง คือ เป็นเมืองที่เงียบสงบเมืองแห่งขุนเขา หรือ เมืองสามหมอก ที่ใครใครก็อยากจะมาเยือน

    สุดท้ายขอขอบคุณ สวนพรประภา สวนสตอเบอรี่  ที่อนุญาตให้ผมเข้ามาชิมสตอเบอรี่สดสดจากสวน

หมายเหตุ....สตอเบอรี่หยุดออกผลกลางเดือน เมษายน ครับ
    
      เมื่อเดินทางกลับผมขอแนะนำให้กลับทาง อ.หางดง นะครับ กับ ถนนที่คดเคี้ยววิวสวย ธรรมชาติดี

ขาไปใช้เส้นทาง 1096  ขากลับใช้เส้นทาง 1269

    วันนี้ผมสบายดี..ที่สะเมิง...สะเมิงที่รัก  

  ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ
   
    น้ำเชี่ยวตะวัน
   www.oknation.net/blog/tawan999

Create a MySpace Music Playlist at MixPod.com