สวัสดี...สีชัง...               

               มีโอกาสได้ไปเกาะสีชังโดยไม่ได้ตั้งตัว..เมื่อมาถึงได้ไม่นานนักก็ต้องยอมรับว่าหลงรักกับอำเภอเล็กๆ แห่งนี้จริงๆ เหมาะกับคนที่ชอบความเงียบ สงบ ชอบถ่ายภาพ ชอบวิวของธรรมชาติสวยๆ และรอยยิ้มของคนบนเกาะแห่งนี้                 เกาะสีชังเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ในอ่าวไทย มีพื้นที่บนเกาะ 7.9 ตารางกิโลเมตร ประชากรบนเกาะประมาณ 5 พันคน รอบๆ คนบนเกาะสีชังส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และท่องเที่ยว สินค้าขึ้นชื่อบนเกาะสีชังได้แก่ปลาหมึกตากแห้ง บนเกาะสีชังมีพระจุฑาธุชราชฐาน ซึ่งเป็นพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัย ร.5 เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ ต่อมาได้เกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยและฝรั่งเศส การก่อสร้างพระที่นั่งพระตำหนัก จึงยุติลง  ในปี พ.ศ.2521 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับมอบสิทธิการใช้ที่ดินจากกรมธนารักษ์ จัดตั้งสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล พร้อมทั้งดูแลโบราณสถาน โบราณวัตถุให้อยู่ในสภาพที่เป็นประโยชน์ ส่วนพื้นที่ในส่วนพระราชฐาน อยู่ในความดูแลของศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งจุฬาฯ โดยดำเนินการปรับปรุงร่วมกับกรมศิลปากร ให้มีสภาพสมบูรณ์ และ สวยงาม เกาะสีชังมีเกาะ บริวารอยู่ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะขามใหญ่, เกาะขามน้อย, เกาะปรง, เกาะร้านดอกไม้, เกาะสัมปันยื้อ, เกาะยายท้าว, เกาะค้างคาว, เกาะท้ายตาหมื่น

                ถนนที่บนเกาะนี้จะมีลักษณะเป็นวงกลม วิ่งรอบเกาะ และมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

ขึ้นเรือที่เกาะลอย อ.ศรีราชา

ประตูสู่ เกาะสีชัง มียานพาหนะไว้คอยบริการมากมาย (รายละเอียดอยู่ด้ายท้ายนะครับ)

ก่อนขึ้นไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่แวะศาลเจ้าแม่กวนอิมก่อนเลยครับ

ต่อมาที่ เจ้าพ่อเขาใหญ่ที่ใครก็ต่างมาไหว้ขอพรกันที่นี่

          เจ้าพ่อเขาใหญ่ และ ศาลเจ้าแม่กวนอิม ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ตั้งอยู่บนเขา "คยาศิระ" เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่บรรดาชาวจีนทั้งในและต่างประเทศให้ความเคารพสักการะเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องค้าขายและการงาน ศาลเจ้าเป็นอาคารใหญ่ลักษณะทรงวิหารจีน ส่วนองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่จะอยู่ภายในถ้ำบนเขานั่นเอง นอกจากองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่แล้วภายในยังเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าพ่อเห่งเจีย เจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจาย และองค์เทพต่างๆ อีกด้วย ในช่วงตรุษจีนจะมีผู้คนเดินทางมาบวงสรวงสักการะองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่และเทพเจ้าต่างๆ ที่สถิตย์อยู่ ณ ที่แห่งนี้กันอย่างเนืองแน่น ด้วยความเชื่อความศรัทธาอันแรงกล้าว่าเมื่อได้มากราบไหว้สักการะองค์เจ้าเขาใหญ่แล้ว จะทำให้กิจการค้าเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในการงาน เชื่อกันว่าบุคคลใดก็ตามได้มากราบไหว้ขอพรจากองค์เจ้าพ่อเขาใหญ่ติดต่อกันเป็นเวลา ๓ ปี จะได้โชคลาภอันวิเศษ ประสบความสำเร็จการงานรุ่งเรืองและเงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย

ถ่ายจากมุมสูง ที่เจ้าพ่อเขาใหญ่ เห็นวิวเกาะสีชัง สวยงามครับ

          จุดยอดนิยมของเกาะสีชัง คือช่องเขาขาด หรือสะพานวชิรวุธ ช่องอิศริยาภรณ์หรือช่องเขาขาด มีลักษณะเป็นช่องเขาขาดออกจากกัน ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลมๆ ขนาดต่างๆ มากมาย ที่เกิดจากอิทธิพลของลม ที่พัดจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ในเดือน มีนาคม-กันยายน ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งเกาะ หน้าผา และทะเล ซึ่งทรงใช้เป็นหอดูดาวด้วย และเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงามที่สุดของเกาะนี้อีกด้วย

          แห่งนี้ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเกาะสีชัง    คือพระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะ แห่งเดียวในประเทศไทย สะพานอัษฎางค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาศที่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฏางคเดชาวุธทรงคลายจากอาการพระประชวร ณ เกาะสีชัง ทรงประกอบพระราชพิธีเปิดสะพานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2434เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอกับ เรือนไม้ริมทะเล หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เรือนขนมปังขิง ซึ่งเป็นเรือนไม้สีเขียว ปัจจุบันขายเครื่องดื่มและขนม ให้กับนักท่องเที่ยว และห้องทางด้านซ้ายของเรือนเขียวมีประวัติความเป็นมาของเกาะสีชัง และข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อนเช่น กลอนประตู, หินลับมีด, เศษเครื่องปั้นดินเผา ให้ชม

ผมชอบมุมนี้มากมันดูเหงาๆ โดดเดี่ยวมากเมื่อได้นั่งมองคลื่น ลมทะเล พัดเข้าฝั่ง

จุดเก็บภาพที่ต้องมาถ่ายให้ได้นะครับ

เรือนไม้ริมทะเล หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เรือนขนมปังขิง

มุมนี้มีความสุขเสมอเมื่อยามได้นั่งมองทะเล กับลมผัดเย็นๆ กระทบฝั่ง

ทะเลใสๆ หน้าบ้านเรือนไม้

สำหรับท่านที่มีเวลาพออย่าลืมแวะ  มาพักผ่อนกันที่หาดถ้ำพัง หาดถ้ำพังหรืออ่าวอัษฎางค์ อยู่ส่วนกลางทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ มีลักษณะเป็นอ่าวโค้งหาดทรายขาวสวยงาม มีผู้คนนิยมมาเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก ด้านเหนือหาดเป็นแหลมถ้ำพัง (แหลมจักรพงษ์)ทางทิศใต้ เป็นแหลมตุ๊กตา ทั้งสามแห่งนี้ล้วนเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์งดงามมาก และยังเป็นสถานที่ตกปลาที่นักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาเป็นจำนวนมากเช่นกัน เพราะเป็นโขดหินแหลมหินที่งดงาม ประกอบด้วยเนินสูงต่ำทอดต่อเนื่องกันไป และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำ สุดขอบน้ำทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่ง
                บริเวณชายหาด ยังมีบริการ เจ็ตสกี  ห่วงยางเล่นน้ำ เรือคายัค บริการดำน้ำดูปะการัง และยังมีร้านอาหารทะเล หลายร้าน ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน โดยไม่เสียค่าที่นั่ง สามารถสั่งอาหารแล้วเดินเลือกที่นั่งตามใจชอบได้เลย สามารถสัมผัสบรรยากาศทะเลและชมพระอาทิตย์ตกดินกันอย่างใกล้ชิด หรือหากต้องการห้องพักบริเวณริมหาดยังมีรีสอร์ท ไว้บริการนักท่องเที่ยวพักบนเกาะอีกด้วย

แต่สำหรับผมขอแนะนำร้านนี้ครับ ไปลองดูจะรู้ว่าอร่อยมากครับ

....แล้วเจอกันที่เกาะสีชัง....อำเภอแห่งเดียวที่ไม่มีไฟแดงจราจรตามท้องถนน....

รายละเอียดก่อนมาเกาะสีชังดูกันสักนิดครับ

คำขวัญอำเภอ...พระจุฑาธุชราชฐาน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ วันไหลเกาะขาม ลือนามพระพุทธบาท หาดทรายงามล้ำค่า เมืองท่าพาณิชย์

            ความหมายของชื่อสีชังตามตำนาน และเรื่องเล่า   เรื่องราวที่เกี่ยวกับชื่อของเกาะสีชังนั้น เป็นภาษาที่ถือเอาความหมายได้ยากยิ่ง แม้แต่ปราชญ์ทางภาษาก็เพียงแต่ตั้งข้อสันนิษฐานถึงความหมาย และที่มาของคำว่า สีชัง ไว้ดังนี้         

     สีชัง  เป็นภาษาของชนชาติหนึ่งที่เป็นชนเผ่าของเขมร เรียกว่า สำแล โดยอาศัยหลักชาติพันธุ์วิทยาเป็นข้อสันนิษฐานเท่านั้น และไม่ทราบความหมายที่แท้จริง         

     สีชัง มาจากภาษาจีน คือ ซีซัน ซึ่งหมายถึง สี่คนทำไร่ โดยมีเรื่องราวเล่าว่ามีพ่อค้าเรือสำเภาจีน 4 นาย ล่องเรือค้าขายมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในธุรกิจการค้ามาตั้งรกราก และหันมาประกอบอาชีพทำไร่อยู่บนเกาะ ซึ่งต่อมาคำว่า "ซีซัน" จึงแผลงมาเป็น "สีชัง"         

     สีชัง มาจากคำว่า "สีห์ชงฆ์" ซึ่งหมายถึง แข้งสิงห์ เพราะเกาะนี้มีรูปร่างคล้ายแข้งสิงห์          

สีชัง มีตำนานเชื่อว่า ฤาษีองค์หนึ่งเกิดเบื่อหน่ายโลกีย์วิสัย มาพำนักบำเพ็ญพรตจนมีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือชาวบ้าน ต่อมาจึงเรียกเกาะนี้ว่า "เกาะฤษีชัง

          การเดินทางสู่เกาะสีชัง เดินทางจากกรุงเทพฯไปอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีระยะทางประมาณ 117 กิโลเมตร ลงรถที่ศรีราชา(หน้าตึกคอม) ต่อรถสามล้อ(ตุ๊กตุ๊ก) หรือรถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไปยังท่าเรือเกาะลอย เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะสีชัง สำหรับท่านที่นำรถยนต์มาสามารถฝากรถไว้ที่จุดบริการรับฝากรถทั่วไป โดยการเดินทางมายังอำเภอศรีราชานั้นสามารถเดินทางได้ดังนี้

          รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดชลบุรีได้ 3 เส้นทางมุ่งสู่ อ.ศรีราชา(ไปท่าเรือ) คือ - เส้นทางสาย บางนา - ตราด ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี - เส้นทางกรุงเทพฯ - มีนบุรี ใช้ทางหลวงหมาบเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอบางปะกงเข้าสู่ชลบุรีมุ่งสู่อำเภอศรีราชา - เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ เลี้ยวเข้าอำเภอศรีราชา บริเวณสวนเสือศรีราชา

          รถสารสาธารณะ สามารถขึ้นรถได้ 2 แห่ง คือ - สถานนีเอกมัย นั่งรถกรุงเทพ - สัตหีบ หรือกรุงเทพ - ศรีราชา หรือ กรุงเทพ - พัทยา แล้วไปลงที่ หน้าห้าง โรบินสัน ศรีราชา จากนั้นเดินข้ามฝั่งไปยังห้างโรบินสัน แล้วนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องไป ยังท่าเรือเกาะลอย - สถานีหมอชิตรถออกทุกครึ่งชัวโมง ตั้งแต่เวลา 05.00-20.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ที่มีรถออกตั้งแต่ 04.30 น.

          รถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 - สถานีขนส่งเอกมัย นั่งรถกรุงเทพฯ-ศรีราชา ป.1 เบอร์ติดต่อ 02-3915188 - สถานีขนส่งหมอชิต นั่งรถกรุงเทพฯ-ศรีราชา ป.1 เบอร์ติดต่อ 02-9364029 - สถานีขนส่งสายใต้ นั่งรถกรุงเทพฯ-ศรีราชา ป.1 เบอร์ติดต่อ 086-8200103

          รถตู้ รถตู้ โดยสารจากกทม. ( บ.ศรีราชาทัวร์สถานีปลายทางอยู่ที่ตึกคอมศรีราชา, บ.แกรนด์ โทลเวย์ สถานีปลายทางอยู่ที่โรบินสันศรีราชาข้างธนาคารกรุงเทพ จำกัด) - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เบอร์ติดต่อ 081-6874717, 082-4610707 ( บ.ศรีราชาทัวร์ ) - อนุเสาวรีชัยฯ เบอร์ติดต่อ 081-2490707( บ.ศรีราชาทัวร์ ) - อนุเสาวรีย์ 1 (ฝั่งรพ.พระมงกุฏฯ) 089-8816059, 088-2030278 ( บ.แกรนด์ โทลเวย์ ) - อนุเสาวรีย์ 2 (หน้าโรบินสัน ป้ายก๊วยเต๋ยวเรือพระนคร) 089-8816059, 088-2030279 ( บ.แกรนด์ โทลเวย์ ) - สยามสแควร์(หน้าอาคารสยามกิตติ์ ถ.อารีดูนังค์) 088-2030280, 088-2030282 ( บ.แกรนด์ โทลเวย์ ) - ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต เบอร์ติดต่อ 084-1270005 ( บ.ศรีราชาทัวร์ ) - ขนส่งหมอชิต เบอร์ติดต่อ 084-1270006 ( บ.ศรีราชาทัวร์ )

          การเดินทางโดยรถไฟก็พอได้ครับ แต่ไม่แนะนำ เพราะช้ามาก มีเพียงวันล่ะเที่ยวเท่านั้น จากหัวลำโพง

จากที่ศรีราชา ไปยังท่าเรือเกาะลอย เพื่อขึ้นเรือไปยังเกาะสีชังต่อ **หากท่านต้องการค้างคืนสามารถจอดรถไว้ที่ฝั่งเกาะลอยๆได้**การเดินทางไปเกาะสีชัง มีเรือโดยสารจากศรีราชาข้ามไปเกาะสีชังทุกวัน ขึ้นเรือที่ท่าเรือเกาะลอย อำเภอศรีราชา ออกทุก 1 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 40-45 นาที ค่าโดยสาร 40 บาท ต่อคน

          เรือโดยสารจะออกจากเกาะลอยศรีราชาทุกๆชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น.และเที่ยวสุดท้าย 20.00 น. ขากลับเที่ยวแรก 6 โมงเช้าและเที่ยวสุดท้าย 1 ทุ่ม ค่าเรือคนละ 40 บาท เรือเที่ยวสุดท้ายทั้งไปและกลับราคา 50 บาท

**รายละเอียดสอบถามได้ที่เรือสีชังพาเลซ โทร. 038 216 276-82 หรือ เรือแสงประทีปบริการ โทร. 038 313 687

          การเดินทางบนเกาะสีชัง - สำหรับการเดินทางมาที่ช่องเขาขาด นั้นสามารถมาได้โดย นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างในอัตราค่าโดยสาร คนละ 15 บาท หรือ นั่งรถสามล้อในอัตรา 30 บาท นั่งได้ 5 คน - รถสามล้อนำเที่ยว รอบเกาะ นั่งได้ 5 คน รอบใหญ่ 250 บาท เที่ยวเดียว 70 บาท - รถมอเตอร์ไซด์เช่า วันละ 300 บาท/ วัน - รถยนต์เช่านำเที่ยว รถสองแถว 500 บาทรอบเกาะ - เช่ารถจักรยาน ปั่นไปเที่ยวรอบเกาะ ...อันนี้แนะนำชอบมาก แต่เหนื่อยมาก เพราะศรีชังเป็นเมืองภูเขา

คู่มือเที่ยวเกาะสีชัง เครดิต  kosichang.sadoodta.com