*/
<< | กันยายน 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
(๑) การดูแลรักษาสุขภาพของผู้ป่วยโรคมะเร็งในแนวทางการแพทย์แผนจีน โดย แพทย์จีนณัฐธิดา สิริโยธิน
โรคมะเร็งนั้น เป็นโรคที่รักษายาก และมีการดำเนินโรคเร็ว การดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การมีสุขภาพจิตใจที่ดี ล้วนเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค และเมื่อปฏิบัติร่วมกับการรักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด ฉายแสง คีโมฯลฯ ก็จะส่งผลดีต่อการรักษา ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวขึ้น
ผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้น มักจะมีความเครียดและความวิตกกังวลอย่างมาก อารมณ์เหล่านี้จะส่งผลทำให้อาการของโรคเป็นหนักขึ้นได้ ดังนั้น การดูแลสภาพจิตใจของผู้ป่วยจึงมีความสำคัญมาก เพื่อลดความตึงเครียดในการใช้ชีวิตประจำวัน เพิ่มคุณภาพการดำเนินชีวิต และส่งผลดีต่ออาการและการรักษา ซึ่งการดูแลสภาพจิตใจนั้น มีวิธีการที่ไม่ยาก ดังนี้ - หาเพื่อนพูดคุย ทำให้อารมณ์แจ่มใส เป็นกำลังใจให้กัน ปรับทุกข์กันได้ - ปล่อยวาง ยอมรับที่ตนเองป่วย ไม่นำอาการป่วยมาสร้างความเครียดให้ตนเอง และไม่วิตกต่อการเข้ารับการรักษา - เปลี่ยนมุมมองทัศนคติ ปัญหาใหญ่ต่างๆภายในจิตใจสามารถเปลี่ยนเป็นเรื่องเล็กๆได้ เมื่อเราเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติ ( ที่ประเทศจีนนั้น หมอมักจะบอกกับผู้ป่วยว่า มะเร็งก็เป็นแค่โรคเรื้อรังโรคหนึ่งเท่านั้น ถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ มันก็จะอยู่กับเราอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวไปเรื่อยๆ) - หากมีความทุกข์หรือความเครียดก็ควรระบายออกมา ไม่ว่าจะร้องไห้หรือตะโกนดังๆ ร้องเพลง เขียนไดอารี่ หาเพื่อนพูดคุย และถ้าพูดเองคนเดียวแล้วสบายใจขึ้นก็ทำได้ค่ะ ไม่ผิดกติกา - หากิจกรรมต่างๆทำ ไปเที่ยวพักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานอดิเรกที่ตนเองชื่นชอบ - หลีกเลี่ยงความกลัว 3 ประการ คือ - ๑) ไม่ทำให้ตนเองหวาดกลัว ผู้ป่วยส่วนมากมักหาหนังสือหรือสืบค้นอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับโรคที่ตนเองเป็น เมื่ออ่านเยอะๆเข้า เจออาการของโรค อาการแทรกซ้อน ผลข้างเคียงจากการรักษาต่างๆที่ไม่ดี ก็จะทำให้เพิ่มความเครียดและความวิตกให้กับตนเอง รวมถึงหลีกเลี่ยงการดูทีวี ฟังวิทยุ ฟังคนทั่วไป หรืออ่านพวกการรักษาที่ไม่ได้ผล ประสบการณ์ของผู้อื่นที่ไม่ได้รับผลดีต่อการรักษา - ๒) ไม่ให้ผู้อื่นมาทำให้ตนเองหวาดกลัว หลายๆคนมักฟังจากญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ถึงการรักษาต่างๆ(ทั้งที่ได้ผลดี และไม่ได้ผล) และนำมาคิดมาก หวาดกลัวต่อโรค พะวงต่อการรักษา ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงค่ะ - ๓) ไม่ให้แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญมาทำให้ตนเองหวาดกลัว ผู้ป่วยหลายคนฟังการวินิจฉัยของแพทย์ แผนการรักษา รวมถึงอาการที่อาจจะเกิดข้างเคียงหรืออาการแทรกซ้อนต่างๆ ก็จะทำให้ผู้ป่วยเกิดความความกลัว เครียดกังวลขึ้นมาได้ ดังนั้นเรื่องต่างๆพวกนี้ ควรให้ญาติเป็นคนฟังและพูดคุยกับคุณหมอดีกว่าค่ะ สูตรอาหาร สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกชนิดที่มักมีอาการเครียด วิตกกังวล โจ๊กลูกเดือย
ส่วนผสม : ลูกเดือย 50 กรัม ดอกกุหลาบ 5-10 กรัม วิธีทำ นำน้ำสะอาดใส่หม้อ ต้มจนน้ำเดือดแล้วปิดไฟ ใส่ดอกกุหลาบลงไป แช่ประมาณ 15 นาที แล้วตักดอกกุหลาบออก จากนั้นนำลูกเดือยใส่ลงในหม้อ(น้ำกุหลาบ) ต้มประมาณ 25-30นาที จึงมารับประทาน (ลูกเดือยควรแช่น้ำก่อนนำมาต้มค่ะ)
ในทางการแพทย์แผนจีนนั้น อาหารแต่ละอย่างล้วนสามารถแบ่งประเภทเป็นหยินและหยางได้ ซึ่งจะดูแลร่างกายในการบำรุงและการขับ(ปัจจัยก่อโรค)ต่างๆได้แตกต่างกัน ถ้าเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมต่อสภาพร่างกายเรา ก็จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีอายุได้ยืนยาวขึ้น หลักการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คือ “ 7 7 1 3 “ “7” การรับประทานอาหารในแต่ละครั้ง ควรให้อิ่มเพียง 7 ใน 10 ส่วน “7” อาหารแต่ละมื้อ ควรมีผักอยู่ 7 ส่วน “1” ในแต่ละมื้อไม่ควรรับประทานข้าวสวย/เส้นก๋วยเตี๋ยวเกิน 100 กรัม “3” ควรรับประทานอาหารวันละ 3 มื้ออย่างตรงต่อเวลา - ในการรับประทานอาหารนั้น ไม่ควรคิดถึงเรื่องอื่น ปล่อยวางสิ่งที่จะนำมาคิดมากและความวิตกกังวลต่างๆลง - ควรเข้าใจว่า เรารับประทานอาหารเพื่อต้องการสารอาหารและพลังงานไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ไม่ใช่รับประทานอาหารเพียงเพื่อความอร่อยถูกปาก ถูกใจเพียงเท่านั้น - ควรรับประทานผักและผลไม้เป็นหลักให้ติดจนเป็นนิสัย หลีกเลี่ยงของหวาน มัน อาหารให้พลังงานสูงต่างๆ อีกทั้งช่วยลดการเกิดโรคเบาหวาน และไขมันในเลือดสูงอีกด้วย - “รับประทานอาหารปรุงร้อน” อาหารเย็น/แช่แข็งควรนำไปอุ่นก่อนรับประทาน ลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารแปรรูปต่างๆ เช่น ผักผลไม้ดอง ไส้กรอก หมูแฮม เป็นต้น
ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศต่างๆได้ ที่แนะนำคือ รำไทเก๊ก ชี่กง ประเภทที่เคลื่อนไหวช้า ฝึกการหายใจ หรือ ปฏิบัติตามหลัก “3 5 7 ” ดังนี้ ออกกำลังกาย “3” ออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที ถ้าเดิน หรือ วิ่งเหยาะๆ ควร 3 กิโลเมตร “5” ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 5 วัน เป็นอย่างน้อย “7” หลังจากออกกำลังกาย ควรให้อัตราการเต้นของหัวใจ(ครั้ง/นาที) + อายุ (ปี) = 170 ก่อนออกกำลังกายควร “3” ดื่มน้ำอุ่น 300 ml. “5” ขยับแขนขา หายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อปรับอวัยวะทั้งห้าให้พร้อมสำหรับออกกำลังกาย “7” บิดลำตัว หมุนคอ เพื่อให้ลมปราณเคลื่อนที่ผ่านทวารทั้ง7สะดวก หลังออกกำลังกายควร “3” ดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือแร่ 300 ml. “5” ค่อยๆปรับลมหายใจ ให้หัวใจกลับมาเต้นปกติ เพื่อปรับอวัยวะทั้งห้าให้สงบ “7” พักอย่างน้อย7นาที ก่อนอาบน้ำ(น้ำอุ่น)
เนื้อหายังไม่หมดนะคะ ติดตามต่อตอนหน้าค่ะ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |