BBC Thai  สื่อปลอม? หรือ แค่พาหะ?

......สื่อระดับสากลและมีชื่อเสียง BBC (British Broadcasting Corporation) หรือ  บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ  มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดทำการเมื่อ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๕(ค.ศ.๑๙๒๒)

   “บีบีซี เป็นหน่วยงานด้านวิทยุและโทรทัศน์ที่จัดตั้งขึ้นโดยได้รับพระบรมราชานุญาต(Royal Charter) และดำเนินกิจการตามข้อตกลงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สื่อ และกีฬา การดำเนินการของบรรษัทได้รับการอุดหนุนด้านการเงินเป็นหลักจากค่าธรรมเนียมการรับชมโทรทัศน์ ซึ่งเรียกเก็บจากครัวเรือน บริษัทและองค์กรทุกแห่งในสหราชอาณาจักร ที่ใช้อุปกรณ์ใดใดก็ตามในการรับชมการแพร่ภาพโทรทัศน์ รัฐบาลสหราชอาณาจักรเป็นผู้กำหนดอัตราค่าะรรมเนียมดังกล่าวโดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา”  (ข้อมุลจาก วิกิพีเดีย)

...บีบีซี ภาคภาษไทย เปิดตัวเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๔๘๔ (ค.ศ.๑๙๔๑) และปิดตัวลงเมื่อวันที ๓๑ มีนาคม ๒๕๔๙ ด้วยเหตุผลทางด้านงบประมาณ

จากนั้น ก็มีข่าวว่าจะกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อ ๑๐ กรกฏาคม ๒๕๕๗ โดยนำเสนอการเปิดตัวผ่านสื่อออนไลน์เช่น

http://www.thairath.co.th/content/435726  อย่างไรก็ตามการเปิดตัวดังกล่าว ก็ไม่ปรากฏในเวปไซด์อย่างเป็นทางการของ BBC London และก็ยังไม่พบการลงนามอนุมัติโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ของอังกฤษ ที่ต้องลงนามอนุมัติเพื่อดำเนินการในต่างประเทศ

     BBC มีสื่อหลักที่อย่างเป็นทางการออกอากาศไปทั่วโลกหลายช่องทาง ทั้งโทรทัศน์ในประเทศ ต่างประเทศ (ฺ BBC World news) Twister , Line รวมทั้ง Facebook

       แต่การเปิดตัวของ Page Facebook ที่ใช้ชื่อว่า BBC Thai มีหลายอย่างที่น่าสงสัยว่า เป็นของจริง หรือได้รับการอนุมัติ หรือสนับสนุนใดใดจากทาง  BBC London หรือไม่?  เพราะไม่มีความชัดเจน ในหลายๆด้าน ว่าเปิดจริงหรือไม่? อย่างไร?  รายการวิทยุภาคภาษาไทย ไม่ต้องพูดถึง เพราะปิดไปแล้ว  ไม่มีเวปไซด์อย่างเป็นทางการของ BBC Thai  และหากเปิดเวปไซด์ อย่างเป็นทางการของ  ก็จะเจอแต่การแจ้งปิดไปแล้ว และไม่มีการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันแต่อย่างใด (ตามภาพ) 

และที่สำคัญ ในเวปไซด์อย่างเป็นทางการของ http://www.bbc.com/news/world/asia  ก็จะพบเพียง ๒ ประเทศคือ จีน และ อินเดีย เท่านั้น   และถึงแม้จะค้นหาแบบต่อเนื่องในเวปไซด์ดังกล่าว โดยการใส่ชื่อ Thai ก็จะพบเพียงแต่ข่าวแปลสั้นๆ ที่ BBC เอาไปลงไว้ โดยไม่มี การเชื่อมต่อใดใดจาก Page Facebook BBC Thai แต่อย่างใด

   ข่าวการจะกลับมาของ BBC ภาคภาษาไทย มีขึ้นเมื่อ ๑๐ กรกฤาคม ๒๕๕๗ หลังจาก เหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗  แต่ทำมา ทำไป BBC ภาคภาษาไทย กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ อย่างที่ข่าวบางสำนักเลือกหยิบยกมาเล่น แต่กลับมีเพียงแค่ การเกิดขึ้นของ Page  Facebook BBC Thai  เท่านั้น

   ตลอดเวลา การเสนอเรื่องราวต่างๆผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ใครก็เข้าถึงได้อย่าง Facebook มีแต่เรื่องของการแปลข่าวเล็กๆ จาก BBC  เอามาลงเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือของความเป็นสื่อระดับสากล  แต่กลับไม่ทราบที่มาที่ไปว่า ใครเป็นแอดมิน หรือผู้บริหาร คือพูดภาษาชาวบ้านคือ การเป็นสำนักข่าว มันต้องมีผู้บริหาร หรือ กองบรรณาธิการ อะไรทำนองนั้น แต่ Page  Facebook BBC Thai  กลับไม่มี

และยังปกปิดผู้ที่นำเสนอข่าวที่เสนอไปอย่างผิดพลาด เช่นข่าว การจับมือระหว่าง พลเอกประยุทธ จัทร์โอชา และ ปธณ.บารัค โอบามา ที่มติชนออนไลน์รีบที่จะงับข่าวให้สอดรับกัน  และเชื่อที่จะเอาข่าวนั้นมาเล่นต่อ จนต้องมีการลงประกาศขออภัยมาแล้ว 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1443855850&grpid=02&catid=02&utm_source=Bushidofire&utm_medium=twitter

       แนวทางการนำเสนอข่าวอย่าเงป็นทางการของ BBC ในรูปแบบ โซเชียลมีเดียนั้น BBC จะมีกองบรรณาธิการที่คัดกรองข่าวก่อนที่จะนำเสนอ หรือ ตอบคำถามใดใด ซึ่งสามารถดูวิธีที่ว่านี้ได้จาก Twister หรือแม้แต่กระทั่ง Line อย่างเป็นทางการของ ฺ BBC  เช่นกัน  ไม่ได้ปล่อยอิสระ ไร้ทิศทาง อยากจะเขียน อยากจะตำหนิใครโดยไร้หลักฐาน และข้อมูล จนข่าวที่นำเสนอ ขาดความน่าเชื่อถือ และทำตัวเป็นปรปักษ์ ต่อรัฐบาลในแต่ละประเทศ อย่างเช่น Page  Facebook BBC Thai  กำลังกระทำอยู่  

   ดังนั้นเมื่อที่มาที่ไป ไม่ชัดเจน และทิศทางการเสนอ สร้างความแตกแยก ไม่มีความเป็นมืออาชีพ  และไม่มีจรรยาบรรณ อีกทั้งไม่ได้ฟังการทักท้วงของประชาชนผู้เสพข่าว  เหล่านี้ เราจึงไม่ควรให้ ความน่าเชื่อถือ  ไม่สมควรเรียกว่าเป็นสื่อ  ไม่ควรแชร์ข่าว จนกว่า Page Facebook BBC Thai  จะได้เปิดตัวว่าเป็นใคร? มาจากไหน? และใครสนับสนุนอยู่? หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็สมควรที่จะถูกประมาม

      และต้องติดตามข้อสงสัยที่ว่านั้นว่า  BBC หรือใครกันแน่ ที่ให้การสนับสนุน  Page  Facebook BBC Thai  หรือเป็นเพียงแค่ผู้ที่แอบอ้างชื่อสื่อใหญ่ เพื่อสร้างความวุ่นวายในสังคมและประเทศชาติของเราเท่านั้น 
และหากเป็นเช่นนี้ ก็ขอเตือนว่าอย่าเอาคำว่า ไทย  ของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ มาใช้ชื่อเป็นเครื่องโดยเด็ดขาด......เราเตือนคุณแล้วนะ