ประวัติเจ้าพระยาวิชาเยนทร์
เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เดิมชื่อ คอนสแตนติน เยรากี เป็นชาวกรีกเป็นลูกเรือรับจ้างของอังกฤษที่เดินทางมาค้าขายทางด้านตะวันออก ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น คอนสแตนติน ฟอลคอน ได้มากับเรือสินค้าอังกฤษถึงกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2218 ต่อมาได้ลาออกจากบริษัทค้าขายของอังกฤษ และสมัครเข้ารับราชการอยู่กับเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) ในกรมพระคลังสินค้า เนื่องจากเป็นผู้ที่เคยทำงานอยู่กับอังกฤษและรู้การค้าขายกับชาวต่างชาติเป็นอย่างดี จึงมีความชอบและเป็นที่ไว้วางใจในด้านการค้ากับชาวต่างประเทศ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขุนเหล็ก) จึงกราบทูลสมเด็จพระนารายณ์ ทรงโปรดให้เป็น หลวงวิชาเยนทร์และมีบรรดาศักดิ์ต่อมาจนได้เป็นสมเด็จพระนารายณ์ ทรงโปรดให้เป็น หลวงวิชาเยนทร์และมีบรรดาศักดิ์ต่อมาจนได้เป็นเจ้าพระยาวิชาเยนทร์เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องการค้าขายกับต่างประเทศและการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ทำให้มีการส่งคณะราชทูตเดินทางไปยังฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ
การค้าขายของกรุงศรีอยุธยานั้น เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ได้คิดอ่านที่จะสร้างเรือกำปั่นหลวงเพิ่มเติมขึ้น จึงชักชวนให้พวกอังกฤษออกจากบริษัทมารับเดินเรือกำปั่นหลวง โดยมีข้อตกลงว่ายอมให้มีการนำสินค้าของตนไปกับเรือหลวงได้ จากนั้นเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ได้ทูลขอให้สมเด็จพระนารายณ์ ทรงตั้งเมืองมะริดซึ่งเป็นเมืองท่าของกรุงศรีอยุยาอยู่นั้นเป็นสถานีค้าขายของหลวงและทำการสร้างป้อมประจำท่า เช่นเดียวกับสถานีค้าขายของประเทศตะวันตกที่ตั้งขึ้นในแถบนั้น
การที่กรุงศรีอยุธยาได้จัดการค้าขายดังกล่าวนั้น ทำให้บริษัทอังกฤษที่มีอำนาจทางการค้าอยู่ทางด้านตะวันตกไม่พอใจ โดยเฉพาะมีการดึงคนอังกฤษออกไปจากบริษัท และอังกฤษเองก็ต้องการที่จะมีอำนาจในเมืองมะริดไว้เป็นเมืองท่าของตน บริษัทของอังกฤษนั้นจึงแจ้งเรื่องไปยังอังกฤษกล่าวโทษเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ว่าเป็นพวกฝรั่งเศส และคิดอ่านเกลี้ยกล่อมคนอังกฤษไปตั้งช่องเพื่อประโยชน์ของตนเอง หาใช่ความคิดของอาณาจักรสยามทำให้อังกฤษนั้นขัดเคืองจึงเรียกคนอังกฤษที่มาทำงานให้กันอาณาจักรสยามกลับหมด แล้วบริษัทอังกฤษจึงถือโอกาสนั้นแต่งเรือรบออกจับเรือสินค้าของอาณาจักรสยามที่เดินทางไปค้าขายทางอินเดีย แล้วยื่นคำขาดให้ พระยาตะนาวศรีมีหนังสือมากราบทูลสมเด็จพระนารายณ์ กล่าวโทษว่า เจ้าพระยาวิชาเยนทร์นั้นได้ทำการกลั่นแหล้งให้บริษัทต่างๆ ได้รับความเสียหายไปถึง 40,000 ปอนด์ เพื่อให้มีการชดใช้ทรัพย์สินภายในกำหนด 2 เดือน ยังไม่ทันที่กรุงศรีอยุธยาจะทำการโต้ตอบอย่างใด อังกฤษได้ส่งเรือรบมายังเมืองมะริด แล้วให้ทหารขึ้นบกเข้ายึดเมืองมะริด ทำการรื้อป้อมและแย่งเอาเรือกำปั่นหลวงของไทยไปได้ 1 ลำ ฝ่ายพระยาตะนาวศรีนั้นเมื่อเห็นว่าอังกฤษได้กระทำการก่อสงครามขึ้นเช่นนั้น จึงยกกองทัพเข้าปล้นเมืองมะริดในเวลากลางคืน ทำการชิงเมืองฆ่าพวกอังกฤษตายเป็นอันมาก ที่รอดตายก็หนีลงเรือไปได้ เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เมื่อกรุงศรีอยุธยาทราบเรื่อง สมเด็จพระนารายณ์จึงได้ประกาศสงครามกับอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2230 ทำให้อาณาจักรสยามกับอังกฤษนั้นเป็นข้าศึกต่อกันมาตลอดรัชกาล
ครั้นเมื่อ ออกพระยาวิสูตรสุนทร (ปาน ต่อมาเป็นเจ้าพระยาโกษาธิบดี) ได้นำคณะราชทูตกลับมาจากฝรั่งเศส เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2230 นั้น พรเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้จัดคณะราชทูตฝรั่งเศสเดินทางตามมาส่งถึงกรุงศรีอยุธยาด้วยพร้อมกับได้จัดทหารฝรั่งเศสติดตามมาด้วย 1,400 คนเข้ามารับราชการอยู่กับสมเด็จพระนารายณ์ด้วย
สมเด็จพระนารายณ์ ได้ส่งให้ทหารฝรั่งเศสนี้ไปรักษาป้อมที่เมืองมะริด 2 กองร้อย และทหารที่เหลือนั้นให้ไปอยู่ประจำที่เมืองธนบุรีศรีสมุทร โดยให้ทำการจัดสร้างป้อมใหญ่ขึ้นทางฝั่งตะวันออก (บริเวณโรงเรียนราชินี) ขึ้นอีกป้อมหนึ่ง เพื่อกันไม่ให้ทหารฝรั่งเศสอยู่ในกรุงศรีอยุธยา
เมืองมะริดนั้นเมื่อสมเด็จพระนารายณ์ส่งทหารฝรั่งเศสไปอยู่ประจำเช่นนั้นแล้ว บริษัทอังกฤษจึงไม่กล้ายกกำลังเข้ามาบุกรุกอีก ด้วยเหตุที่อาณาจักรสยามมีความคัดแย้งกับอังกฤษดังกล่าว สมเด็จพระนารายณ์ จึงได้มีพระราชไมตรีกับฝรั่งเศสอย่างแน่นแฟ้นและสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองราชธานีสำรองของอาณาจักรสยามไว้ ซึ่งทรงโปรดให้คณะราชทูตฝรั่งเศสและเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ อยู่ประจำที่เมืองลพบุรีเช่นเดียวกับพระองค์ คณะราชทูตฝรั่งเศสพำนักอยู่ในอาณาจักรสยามได้ 3 เดือนก็เดินทางกลับฝรั่งเศส ส่วนพระวิสูตรสุนทร (ปาน) นั้น ได้แต่งตั้งให้เป็นพระยาโกษาธิบดี ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์ ได้ทรงแต่ง คณะราชทูตส่งไปพร้อมกับคณะราชทูตของฝรั่งเศสอีกครั้งนี้คณะราชทูตได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และเฝ้าสันตะปาปาหรือโป๊ปที่กรุงโรมด้วยพร้อมกับได้จัดส่งเด็กไทยหลายคนไปเล่าเรียนวิชาที่เมืองฝรั่งเศสด้วย
คณะราชทูตฝรั่งเศสได้เดินทางกลับไปแล้วได้ 5 เดือน สมเด็จพระนารายณ์ทรงประชวรหนักและเหตุเหตุการณ์จลาจลภายในขึ้น เนื่องนาก สมเด็จพระนารายณ์นั้น ไม่มีพระราชโอรสที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัชทายาท พระองค์ทรงมีแต่พระธิดาที่ทรงแต่งตั้งเป็น กรมหลวงโยธาเทพกับพระน้องเธอ 3 อง5 ได้แก่ เจ้าฟ้าหญิงที่ทรงตั้งเป็น กรมหลวงโยธาทิพ, เจ้าฟ้าอภัยทศ และเจ้าฟ้าองค์น้อย ไม่ปรากฏพระนาม นอกจากนี้พระองค์ยังทรงชุบเลี้ยงเจ้าราชินิกูลองค์หนึ่งที่ทรงเมตตาเหมือนพระราชบุตร คือ พระปีย์ (หรือพระปิยะ)
ดังนั้นผู้ที่จะรับเวนราชสมบัตินั้น เจ้าพระยาวิชาเยนทร์เห็นว่า สมเด็จพระนารายณ์จะมอบราชสมบัติให้ พระปีย์ จึงเข้าเกลี้ยกล่อให้พระปีย์ เข้าเป็นพรรคพวกฝรั่งเศส มีความสัยว่าพระปีย์นั้นเข้ารีตเป็นคริสตังแล้วด้วย ส่วนฝ่ายข้าราชการที่พากันระแวงการกระทำของพระยาวิชาเยนทร์จะคิดร้ายต่อบ้านเมือง จึงพากันไปเข้ากับพระเพทราชา ซึ่งมีความเกลียดชังฝรั่งเศสอยู่ก่อนแล้ว
สมเด็จพระนารายณ์นั้นทรงประชวรอยู่ที่พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เมืองลพบุรี พระเพทราชา กับ หลวงสรศักดิ์ เห็นว่า พระเจ้าเหนือหัวทรงมีพระอาการหนัก ไม่ทรงหายประชวรแน่แล้ว จึงสั่งให้ตั้งกองทหารล้อมรักษาพระราชวังอย่างกวดขัน แล้วทำการล่อเอาตัวพระปีย์ ไปประหารชีวิตเสียแล้วทำการจับเอาตัวเจ้าพระยาวิชาเยนทร์มาไต่สวนกล่าวโทษว่า เจ้าพระยาวิชาเยนทร์นั้นเป็นกบฏจะชิงราชสมบัติให้พระปีย์ ด้วยประสงค์จะเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเสียเอง เมื่อสอบสวนแล้วก็ให้เอาตัวเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ไปประหารชีวิตเสียที่ทะเลชุบศร
สมเด็จพระนารายณ์นั้นทรงประชวรหนักอยู่ เมื่อทรงทราบว่า พระปีย์และเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ได้สิ้นชีวิตลงเสียแล้ว พระองค์ไม่สามารถจะทำอย่างไรได้ จึงได้เศร้าพระทัยแทบจะสิ้นใจ จากนั้น พระเพทราชา ได้ให้คนลงมาเชิญเจ้าฟ้าหญิงอภัยทศ ไปเมืองลพบุรี เจ้าฟ้าอภัยทศ นั้นสำคัญว่าจะได้รับราชสมบัติ ก็มีพระทัยยินดีจึงชวนพระน้องอีกพระองค์หนึ่ง (ไม่ทราบนาม) ไปด้วย พระเพทราชาทรงรับรองเจ้าฟ้าอภัยทศเป็นอย่างดี ต่อมาอีก 2 วัน หลวงสรศักดิ์บุตรของพระเพทราชานั้นได้ปลงพระชนม์เจ้าฟ้าอภัยทศกับพระน้องเธอองค์นั้นเสีย โดยประสงค์ที่จะให้พระเพทราชานั้นจะต้องชิงราชสมบัติคราวนี้เสียเอง
ขณะนั้นพระเพทราชานั้น ได้มุ่งที่จะทำการกำจัดพวกฝรั่งเศสที่อยู่ในอาณาจักรสยาม โดยเฉพาะทหารฝรั่งเศสที่ประจำอยู่ป้อมเมืองธนบุรีศรีสมุทร จึงมีเหตุการณ์สู้รบกันขึ้น ต่อมาสมเด็จพระนารายณ์ที่ทรงประชวรอยู่เมืองลพบุรีนั้นสวรรคตลงเมื่อ พ.ศ. 2231 เจ้านายฝ่ายราชวงศ์นั้นได้หมดสิ้นลงแล้ว และเวลานั้นมีเหตุการณ์สู้รบกับทหารฝรั่งเศสอยู่ จึงทำให้ข้าราชการทั้งปวงจำต้องเชญพระเพทราชาขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาต่อมา เป็นการเริ่มต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวง
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | กรกฎาคม 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |