เจ้าหน้าที่ในกรุงดูชานเบ้ เมืองหลวงของประเทศทาจิกิสถาน ได้เริ่มฉีกป้ายโฆษณาโทรศัพท์ถือถือทิ้งเมื่อวันอังคาร หลังจากที่ประธานาธิบดีเอโมมาลี รัคมอน ได้วิจารณ์ว่ามือถือเป็นอันตรายต่อชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ประธานาธิบดีรัคมอน ที่ปกครองประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่ยากจนแห่งนี้มาเกือบ 2 ทศวรรษ ได้ตำหนิประชากรในชนบทส่วนใหญ่ของประเทศอย่างรุนแรงว่า ได้ใช้เวลาพูดคุยโทรศัพท์อย่างมาก โดยรัคมอนบอกว่า โทรศัพท์มือถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้

ชาฟคัต ซายิดอฟ โฆษกสำนักงานนายกเทศมนตรีกรุงดูชานเบ้ บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ในฐานะนายกเทศมนตรี ระเบียบที่ออกมาได้บังคับเฉพาะโฆษณาของบริษัทมือถือที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น โดยป้ายประกาศและบิลบอร์ดจะถูกถอดออกไปจากเมืองหลวง ป้ายโฆษณาของผู้ให้บริการมือถือจะถูกแทนที่ด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

ทาจิกิสถาน ประเทศที่ยากจนที่สุดได้ตั้งขึ้นหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 2534 ได้รับการเข้ามาของมือถืออย่างน่าทึ่ง ด้วยจำนวนผู้ใช้ 6 ล้านคนจากประชากรที่มีไม่ถึง 8 ล้านคน

นอกจากประธานาธิบดีรัคมอนจะโทษว่ามือถือเป็นอุปกรณ์ที่ทำเป็นปัญหาต่อสุขภาพแล้ว ยังบอกว่า มันแพงเกินไปสำหรับประชาชนของเขา ที่อาศัยอยู่ด้วยเงินเฉลี่ยน้อยกว่า 175 ดอลลาร์ (5,582.50 บาท) ต่อเดือน ตามสถิติของไอเอ็มเอฟ

รัคมอน บอกว่า ตอนนี้ทุกครอบครัวมีโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่องและ 1 ปีนับจากนี้มือถือจะมีครบทุกคน มันเป็นการทำลายครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาใช้เงินหลายร้อยดอลลาร์ต่อปีกับโทรศัพท์มือถือ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัคมอนพยายามที่จะกำหนดให้มีความรับผิดชอบทางการเงินในประเทศที่โดดเดี่ยวและมีการแบ่งพรมแดนที่ยาวและพรุนกับประเทศอัฟกานิสถานที่ยับเยินจากสงคราม โดยในปี 2550 เขาได้เสนอกฎหมายจำกัดจำนวนเงินที่จะใช้ในงานแต่งงานและงานศพ ที่ถือเป็นงานสำคัญทางสังคมในประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมแห่งนี้

ที่มา : http://news.yahoo.com/s/afp/20100504/od_afp/tajikistantelecomadvertiseoffbeat_20100504161159;_ylt=AmJjs2M89MK_yf9chNOuS.us0NUE;_ylu=X3oDMTFmdjByZ2ZqBHBvcwMyMDIEc2VjA2FjY29yZGlvbl9vZGRfbmV3cwRzbGsDdGFqaWtpc3RhbnB1